………………..
ด้านนอกวิหารไท่ซวี โหมวหยางและผู้อาวุโสคนอื่นๆ ภายในเผ่าต่างกำลังรอคอยอย่างเงียบงัน
ในแววตาของพวกเขาแววตาของพวกเขาจับจ้องวิหารไท่ซวีที่ตั้งตระหง่าน
แสงอาทิตย์เจิดจ้าตกกระทบหลังคาวิหารทำให้แสงสะท้อนงดงามพร่างพราว
น่าเกรงขาม ตึงเครียด ศักดิ์สิทธิ์!
“และไม่รู้ว่าในครั้งนี้จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้กี่คน…”
“โหมวเสิ่นนับว่าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในบรรดารุ่นเยาว์แล้วใช่หรือไม่? คนอื่นข้าไม่กล้าพูด แต่โหมวเสิ่น…จะต้องทำได้แน่นอน!”
“หึ เรื่องเกี่ยวกับวาสนาเช่นนี้ เจ้าจะพูดคำว่าแน่นอนได้อย่างใด? ก่อนหน้านี้มีคนที่คุณสมบัติไม่นับว่าอยู่ในระดับสูงสุด แต่เขากลับเป็นคนที่ได้รับมรดกที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่หรือ? ข้าคิดว่า ผลลัพธ์เช่นนี้…ไม่มีใครสามารถพูดได้!”
ทุกคนกดเสียงต่ำ
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างโหมวหยางถามขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านประมุข ท่านมีคนที่คาดหวังเอาไว้หรือไม่?”
โหมวหยางยิ้มบางๆ
“พวกเขาพูดได้ถูกต้อง หากไม่ถึงตอนสุดท้าย ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะเกิดอันใดขึ้น”
ในเวลาเช่นนี้ ทัศนคติของเขานั้นก็เป็นกลางอยู่เสมอ
ทุกคนรู้สึกเคยชินมาตั้งนานแล้ว จึงไม่ได้จริงจังกับมันเท่าไร
โหมวหยางมองดูอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันศีรษะมาแล้วถามว่า
“จริงสิ คนที่อยู่ด้านนอกเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ล่ะ ตอนนี้พวกเขาจากไปหรือยัง?”
ผู้อาวุโสท่านนั้นรีบตอบว่า
“เมื่อครู่นี้ข้าเพิ่งได้รับรายงานมาว่า พวกเขาได้จากไปแล้ว เพราะว่าตอนนั้นท่านกำลังเปิดวิหารไท่ซวีอยู่ นั้นข้าจึงไม่ได้รายงานต่อท่านในทันที”
“พวกเขามองเห็นอีกฝ่ายจากไปด้วยตาตนเอง อีกทั้งข้าเพิ่งได้สั่งให้พวกเขาเสริมกำลังลาดตระเวนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าใกล้เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้อีกเด็ดขาด ดังนั้นท่านวางใจได้เลย”
โหมวหยางพยักหน้า ภายในใจเกิดความสงสัยขึ้นมา
ในเมื่อหงส์ทองคำตัวนั้นเป็นอสูรในพันธสัญญาของซั่งกวนเยว่ มันจะจากไปโดยตรงอย่างนี้ได้อย่างใด?
จากคำพูดของหรงซิวแล้วนั้น หงส์ทองคำตัวนั้นก็น่าจะติดตามพวกเขามาจากสุสานสังหารเทพ
การเดินทางเป็นหมื่นลี้ พูดไม่ได้ว่าไม่ลำบาก
แต่เจอคำพูดแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้พวกเขาเดินทางจากไปได้เลยหรือ?
เขาชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“ส่งคนไปจับตามองอีก ก่อนงานหมื่นคีรีจะเสร็จสิ้น ห้ามเกิดมีข้อผิดพลาดใดๆ เด็ดขาด”
“ขอรับ!”
ริมฝีปากของโหมวหยางขยับขึ้นเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่า เขาจะส่งคนไปตรวจสอบหงส์ทองคำตัวนั้นอย่างละเอียด และสืบว่าในงานพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่
แต่ทันทีที่ความคิดนี้ของเขาปรากฏ เขาก็ต้องรีบระงับมันลงในทันที
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของงานหมื่นคีรี การที่จะหันไปสนใจเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
แล้วอีกอย่างแค่คิดเขาก็รู้ว่า ในเมื่ออี้เจาปิดข่าวเงียบขนาดนี้ เขาจะต้องมีแผนการของตนเองอย่างแน่นอน
เขาไม่อยากให้คนอื่นรู้ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปสืบได้
เวลาเช่นนี้ เขาไม่จำเป็นจะต้องไปปะทะกับอี้เจา
ในขณะเดียวกันนั้นเองก็มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของเขา และกำลังมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งเขาคือหนึ่งในผู้คุ้มกันที่เขาส่งไปคุมซั่งกวนเยว่และหรงซิว
“คารวะท่านประมุข!”
คนผู้นั้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าโหมวหยาง ก่อนจะคุกเข่าคำนับ
ผู้คุ้มกันก้มหน้าลงต่ำแล้วพูดขึ้นว่า
“ไม่มีขอรับ”
สีหน้าของโหมวหยางประหลาดใจเล็กน้อย
“จริงหรือ?”
ผู้คุ้มกันพยักหน้า
“หลังจากไปถึงยอดเขาสัตตบงกช ตอนที่ข้าเปิดม่านพลังนั้นออก ทั้งสองคนก็เดินเข้าไปด้านในอย่างไม่พูดไม่จา ดูแล้ว…ปกติอย่างมาก”
โหมวหยางเงียบไปครู่หนึ่ง
ยอดเขาสัตตบงกชเป็นสถานที่ที่พิเศษอย่างมากภายในเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ทั้งสองคนเข้าไปในนั้นแล้ว พวกเขาสามารถจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติได้แน่นอน
แต่เหตุใดถึงยังไม่มีปฏิกิริยาเลย?
ภายในใจของโหมวหยางมีความคิดมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น แต่ใบหน้าของเขายังมีความอ่อนโยนราบเรียบเช่นเคย
“ถ้าอย่างนั้นก็จับตาดูต่อไป หากมีอันใดผิดปกติให้รีบมารายงานทันที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...