………………..
หนานซู่ไหวส่ายหน้า
“ความจริงแล้วข้าเองก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะสำเร็จหรือไม่”
เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตากลมโตราวกับลูกองุ่นของถวนจื่อก็มีประกายผิดหวังปรากฏขึ้น
แต่นางก็สามารถกลับมาร่าเริงสดใสได้ดังเดิมอย่างรวดเร็ว นางกำหมัดเล็กๆ ขึ้น และพูดอย่างจริงจังว่า
“ต่อให้มีความหวังริบหรี่ ข้าก็จะขอลองดู!”
หนานซู่ไหวลูบมวยผมของนาง
“ได้!”
เมื่อพูดจบหนานซู่ไหวก็หันหน้าไปมองซั่งกวนจิ้ง
“ผู้อาวุโสซั่งกวนได้โปรดคุ้มกันข้าด้วย”
ซั่งกวนจิ้งพยักหน้า
ความจริงแล้ว เขาเองก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก หนานซู่ไหวจะใช้วิธีการใดที่จะสามารถทะลวงการป้องกันที่เข้มงวดของเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ เพื่อติดต่อกับเยว่เออร์และหรงซิว
ซั่งกวนจิ้งยกมือขึ้น วงแหวนโลหะสีครามขนาดเท่าฝ่ามือก็ปรากฏที่กลางฝ่ามือของเขา
วงแหวนโลหะนี้ดูแล้วมีอายุไม่น้อย บริเวณขอบก็มีสนิมติดอยู่
เมื่อเพ่งมองอย่างละเอียดแล้วก็จะเห็นลวดลายที่สลับซับซ้อนสลักอยู่ด้านบน ทำให้ลมปั่นดูเก่าแก่และผ่านอันใดมามากมาย
“นี่คืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าสร้างเอาไว้นานแล้ว มันสามารถปกปิดลมปราณ อีกทั้งยังสร้างม่านพลังที่แข็งแกร่ง การนำมาคุ้มครองน่าจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างยิ่ง”
ขณะที่พูดเขาก็กลั้นลมหายใจรวบรวมสมาธิ จากนั้นก็ถ่ายเทพลังปราณดั้งเดิมเข้าไปด้านใน!
พรึ่บ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากวงแหวนโลหะสีคราม
มันหมุนคว้างอย่างรวดเร็ว ลำแสงสีขาวสว่างและสูงส่งราวกับผ้าโปร่งที่ปลิวลงมา ก่อนจะก่อตัวเป็นม่านพลังห่อหุ้มทุกผู้คนเอาไว้!
หนานซู่ไหวรู้สึกโล่งใจมากยิ่งขึ้น ขาทั้งสองข้างขัดสมาธิกัน ไหล่ทั้งสองข้างยกขึ้นเบาๆ
ลำแสงหลายสายพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา จากนั้นมันก็รวมตัวอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดเป็นค่ายกลวงกลมหนึ่งแห่ง!
เหมือนว่าพื้นที่ที่อยู่บริเวณโดยรอบได้รับผลกระทบจากพลังนี้ ดังนั้นจึงเกิดระลอกคลื่นเล็กน้อย
และสามารถมองเห็นรอยแตกร้าวสีดำของมิติได้
คนอื่นๆ รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
…ค่ายกลแห่งนี้ คือค่ายกลเคลื่อนย้าย!
แม้ว่าทั้งสองอย่างจะเป็นค่ายกลเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วมันแตกต่างกันอย่างมาก
หากต้องการจะสร้างค่ายกลเคลื่อนย้าย โครงสร้างของค่ายกลลึกซึ้งกว่าค่ายกลทั่วไปหลายเท่าตัว
เพราะไม่ใช่เพียงแค่ปรมาจารย์ด้านค่ายกลจะต้องเข้าใจค่ายกลจนมีความลึกซึ้งเพียงพอ แต่พวกเขายังต้องควบคุมพื้นที่ให้ได้เป็นอย่างดีด้วย
หากผิดพลาดไปเพียงเล็กน้อย ก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียที่ร้ายแรงได้
แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนตกใจไม่ใช่หนานซู่ไหวต้องการจะสร้างค่ายกลเคลื่อนย้าย เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดที่ควรค่าแก่การยอมรับ สำหรับเขาแล้ว เรื่องนี้จึงไม่นับว่าเป็นเรื่องยากอันใด
แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ…เหตุใดเขาถึงต้องสร้างขึ้นในเวลานี้?
หลังจากเวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ในที่สุดค่ายกลนั้นก็สำเร็จเสร็จสิ้น!
เมื่อมองไปยังค่ายกลที่ส่องแสงสว่างพร่างพราว ถวนจื่อก็มีสีหน้ามึนงง
“ท่านปู่เจ้าสำนัก ท่านบอกว่าจะหาทางติดต่อกลับอาเยว่ไม่ใช่หรือ? แล้วค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้…”
หนานซู่ไหวอธิบายขึ้นอย่างเชื่องช้า
“แน่นอนว่าที่สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ก็เพราะว่าจะเข้าไปในเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์!”
ซั่งกวนจิ้งและฉู่หนิงหันมองไปทางหนานซู่ไหวอย่างพร้อมเพรียง ใบหน้ามีร่องรอยของความตกใจอย่างปิดไม่มิด
แม้กระทั่งถวนจื่อยังรู้สึกว่าเรื่องนี้มีอันใดบางอย่างที่ผิดปกติ นางเอียงศีรษะ แล้วถามขึ้นอย่างสงสัย
“แต่ว่า…แต่คนเมื่อครู่นี้เขาบอกว่าห้ามพวกเราเข้าไปไม่ใช่หรือเจ้าคะ? อีกทั้งพวกเขายังมีการคุ้มกันที่เข้มงวด เท่าที่ข้าเห็นก็มีม่านพลังสองชั้นแล้ว! แล้วเราจะใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้…เข้าไปด้านในได้อย่างใดเจ้าคะ?”
นางคิดว่าท่านปู่เจ้าสำนักหมายความว่า ให้พวกเราอยู่ด้านนอกรอให้อาเยว่ออกมา!
หนานซู่ไหวหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“ใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้เข้าไป พวกเราก็สามารถติดต่อกับพวกเขาได้แล้วไม่ใช่หรือ? สามารถเจอกับพวกเขาได้โดยตรงด้วย”
แบบนี้ยังดีเสียกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...