………………..
ผู้อาวุโสหลายท่านเดินตามโหมวหยางขึ้นไปด้านหน้า
โหมวหยางยืนอยู่ที่ด้านหน้าประตูบานใหญ่ กลั้นลมหายใจ จากนั้นก็ผายแขนทั้งสองข้างขึ้น
พลังรอบกายของเขาเริ่มพวยพุ่งขึ้นมา!
ลำแสงแสบตาสายหนึ่งพุ่งออกมาจากปลายนิ้วของเขา
ผู้อาวุโสท่านอื่นๆ ก็ลงมือในเวลาเดียวกัน
หลังจากนั้นไม่นานลำแสงหลายสายก็รวมตัวกัน! จนก่อตัวเป็นสัญลักษณ์ประหลาดกลางอากาศ
ซึ่งนั่นคือสัญลักษณ์ของไท่ซวีเฟิ่งหลง!
“ผนึก!”
โหมวหยางตะโกนขึ้นเสียงดังพร้อมกับผลักสัญลักษณ์นั้นออกไป!
สัญลักษณ์ขนาดใหญ่และส่องสว่างค่อยๆ ลอยไปยังประตูบานใหญ่อย่างเชื่องช้า!
หลังจากนั้นไม่นานสัญลักษณ์นั้นก็ตกกระทบกับประตูบานนั้น!
ตึง!
เสียงสั่นสะเทือนสนั่นหวั่นไหวดังมาจากวิหารไท่ซวี!
ทุกคนภายในจัตุรัสนั้นโค้งคำนับทำความเคารพโดยพร้อมเพรียง
แต่ในตอนนั้นเอง โหมวหยางกลับพบว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติไป สัญลักษณ์แห่งนั้นยังไม่ได้ประสานเข้ากับประตู!
เขาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยและลอบถ่ายเทพลังเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์นั้นยังคงอยู่ห่างจากประตูประมาณหนึ่งนิ้ว และไม่มีทีท่าที่จะเดินหน้าเข้าไปด้านในต่อ
เหมือนกับว่ามีสิ่งกีดขวางบางอย่างที่มองไม่เห็นขวางกั้นอยู่ด้านหน้าประตู
ภายในใจของโหมวหยางรู้สึกเกิดความไม่สบายใจขึ้นมา
“ก่อนหน้านี้ที่พวกเราปิดด้วยกัน มันยังปิดได้อยู่เลย และไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“…หรือว่า…มีคนยังไม่ออกมา?”
คำพูดของผู้อาวุโสผมสีขาวดอกเลาดึงดูดความสนใจของทุกคน และยังทำให้โหมวหยางขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม
เขาหันหน้ากลับไปมองผู้อาวุโสคนนั้น
“ผู้อาวุโสฝูซาน นี่ท่านหมายความว่าอย่างไรหรือ?”
ผู้อาวุโสฝูซานเป็นผู้อาวุโสชราภายในเผ่าของพวกเขา เขามีอายุมากกว่าโหมวหยางไม่น้อย ซึ่งเป็นคนที่มีคุณธรรมและบารมีสูงส่งที่สุดภายในเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง
“ประตูของวิหารไท่ซวีปฏิเสธการปิดผนึก โดยพื้นฐานแล้วมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือด้านในยังมีคนอยู่ เรื่องนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะทำอย่างไรประตูก็ไม่สามารถปิดลงได้ หลังจากที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว ถึงได้รู้ว่ายังมีตกค้างอยู่ด้านในอีกหนึ่งคน จนกระทั่งหลายวันต่อมาเขาได้ออกมาจากด้านในแล้ว เรื่องนี้จึงสามารถยุติได้อย่างราบรื่น”
โหมวฝูซานลูบเคราของตนเอง
“ข้าจึงมีความเห็นว่า ควรจะเข้าไปตรวจสอบด้านในก่อนจะดีกว่า”
โหมวหยางถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก จากนั้นก็หมุนตัวแล้วออกคำสั่งว่า
“ตรวจสอบคนที่ออกมาก่อนหน้านี้สิ”
ผู้ใต้บังคับบัญชารีบตอบรับว่า
“ขอรับ!”
ผู้อาวุโสบางคนยังคงขมวดคิ้วแน่นเช่นเดิม
เพราะว่าพวกเขาจำได้อย่างแม่นยำว่า ทุกคนที่เข้าไปล้วนออกมาหมดแล้ว โหมวซูที่ออกมาก่อนหน้านี้ เป็นคนสุดท้ายแล้วจริงๆ
ตามหลักการแล้วภายในวิหารไท่ซวีควรจะไม่เหลือใครแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนที่เข้าไปในวิหารไท่ซวีก็ถูกเรียกให้มารวมตัวกันที่นี่ทั้งหมด โดยมีผู้อาวุโสสองท่านช่วยกันนับ
หลังจากตรวจนับเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็พบว่า จำนวนคนที่ออกมานั้นถูกต้องแล้ว!
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนแปลงไปทันที
แม้กระทั่งหัวใจของโหมวหยางก็จมดิ่งลง!
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองวิหารไท่ซวีอีกครั้ง!
ยังมีคนที่อยู่ด้านใน แต่เขากลับไม่รู้เลยน่ะหรือ!
…
ริมทะเลสาบ
ใต้เงาร่มไม้ใหญ่ ผิวน้ำกระเพื่อม มีเพียงความเงียบงัน
ฉู่หลิวเยว่ยกข้อมือขึ้น จากนั้นก็ผสมสมุนไพรส่วนสุดท้ายลงไป
ทรายแดงสีชาดจำนวนหนึ่งหล่นลงไปบนเปลวเพลิงสีทองคำชาดอย่างแผ่วเบา!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...