เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1767

………………..

โหมวหยางเป็นถึงประมุขเชียวหนา!

เหตุใดเขาถึงถูกคนในวิหารไท่ซวีไล่กวดจนสภาพดูไม่จืดเช่นนั้นได้เล่า?

ไหนจะบุรุษผู้นั้นอีก เขาเป็นใครกัน?

สายตาหลากหลายคู่พร้อมใจกันจับจ้องเป็นจุดเดียว

บุรุษผู้นั้นอายุอานามประมาณสี่สิบ มีใบหน้าเหลี่ยม ร่างกายสูงใหญ่กำยำเปี่ยมด้วยกล้ามเนื้อ ท่วงท่าการวางตัวชวนให้ประหลาดใจนัก

เขาเองก็เป็นเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงเช่นเดียวไม่มีผิดเพี้ยน!

มีเพียงชายเสื้อคลุมสองข้างเท่านั้นที่ว่างเปล่า เหมือนว่าเขาเสียแขนทั้งสองข้างไปอย่างใดอย่างนั้น…

ทว่านี่มิได้กระทบต่อความน่าเกรงขามและสูงส่งบนร่างของเขาแต่อย่างใด

เขาเพียงแค่พุ่งเข้าไปในสนามรบ ก็ทำให้ผู้คนเกิดความยำเกรงและเคารพนับถือขึ้นมาในใจโดยไม่รู้ตัว!

บนจัตุรัสล้วนเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง

ทุกคนต่างมองดูฉากนี้ด้วยความตะลึงงัน

ทันใดนั้นเอง ก็มีผู้อาวุโสท่านหนึ่งมีท่าทีโต้ตอบขึ้นมาในท้ายที่สุด

“นั่น นั่นมัน…”

ริมฝีปากของเขาสั่นระริก ทั้งสั่นอยู่นานทีเดียว มิได้เอ่ยนามนั้นออกมาแต่อย่างใด

ตอนนั้นเอง ในที่สุดโหมวหยางก็หยัดตัวลุกขึ้นมาได้ สองตาแดงก่ำจ้องเขม็งยังเบื้องหน้า มือกำหมัดแน่นจนกระดูกลั่น!

“โหมวเจิน! เป็นเจ้าอย่างที่คิดไว้จริงด้วย!”

เขาเอ่ยออกมาทีละคำ แต่ละคำล้วนเหมือนเล็ดลอดออกจากไรฟันก็มิปาน

“เจ้ายังไม่ตาย…จริงๆ ด้วย!”

แววตาของเขาทอประกายเกลียดชังลึกล้ำจนปิดไม่มิด!

โหมวเจินหัวเราะร่าออกมาดังลั่น

“เจ้ายังไม่ตายเลยนี่ โหมวหยาง ข้าจะตายได้อย่างใดเล่า? ข้าใช้ชีวิตอยู่อย่างดี คิดคำนวณหนี้ค้างชำระของเจ้าครานั้นไว้ละเอียดยิบเลยเทียว!”

ในใจของโหมวหยางราวกับถูกบางอย่างบีบรัดแน่น แววตาพลันทอประกายเรืองรอง

ทว่าอย่างใดเสียเขาหาใช่คนธรรมดาไม่

สามารถฝ่าวงล้อมในเหตุการณ์ครานั้นออกมาได้ ก็เพียงพอที่จะอธิบายได้แล้วว่าประมุขคนก่อนอย่างเขาเก่งกาจเพียงใด

ดังนั้นความรู้สึกผิดในใจจึงมีอยู่แค่ชั่วครู่ ไม่นานเขาก็ควบคุมสีหน้าของตนเองไว้ได้

เขาหัวเราะออกมาคำรบหนึ่ง ค่อยๆ ปาดเอาคราบเลือดตรงมุมปากออก

“หนี้แค้นครั้งนั้น? โหมวเจิน แม้ข้าจะคิดถึงมิตรภาพระหว่างเราในตอนนั้นมากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นเจ้าทำเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้ต่อทั้งตระกูล บัดนี้ข้าเป็นประมุข ช่วยแก้ต่างให้เจ้าไม่ได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นคงมิอาจยืนอยู่ฝั่งเจ้าได้อีก”

“หลายปีมานี้ ทุกคนล้วนคิดว่าเจ้าหายสาบสูญ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเจ้าจะยังมุดหัวหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ ถึงขั้นที่ว่า… ซ่อนอยู่ในเสามังกรเคลื่อนของวิหารไท่ซวี! เจ้าแอบอยู่ในนั้นทั้งวันทั้งคืน หรือว่าในใจเจ้ามิเคยสำนึกผิดต่อบรรพบุรุษ ต่อคนในตระกูลบ้างเลยอย่างนั้นหรือ!?”

ทันทีที่คำพูดนี้สิ้นสุด ฝูงชนต่างพากันส่งเสียงกระหึ่มดัง!

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้… ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! ครานั้นโหมวเจินไม่เพียงแต่รอดชีวิต แต่ยังคอยหลบซ่อนอยู่ในวิหารไท่ซวีอีกต่างหาก!”

“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาคือโหมวเจิน… ยโสโอหังปานนี้เหมือนข่าวลือไม่มีผิด… จริงสิ มิใช่ว่าครานั้นร่างของเขาสลายวิญญาณมอดไปแล้วหรอกหรือ เหตุใดภายหลังถึงได้… ไหนจะเสามังกรเคลื่อนนั่นอีก ปกติแล้วตลอดชีวิตนี้คนในตระกูลจะเข้าไปในนั้นได้แค่ครั้งเดียว มิใช่ว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเข้าไปแล้วหรือ เหตุใดภายหลังถึงได้เข้าไปซ่อนในนั้นนานเป็นพันปีเทียวเล่า?”

“พูดไปก็ถูกหนา! อีกอย่าง พันปีมานี้ พวกเราจัดงานหมื่นคีรีมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เหตุใดถึงมิเคยสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของเขากัน?”

“เขาเป็นคนบาปของตระกูล แค่เอาตัวรอดไปวันๆ ก็ยากเย็นแล้ว อุตส่าห์มีชีวิตอยู่ได้มาถึงตอนนี้ เหตุใดถึงได้คิดเปิดเผยตัวตนขึ้นมาหนอ?”

ผู้คนจำนวนมากต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบาอยู่ในลานจัตุรัส

ทั้งยังมองเห็นสายตาของคนพวกนั้นได้อย่างแจ่มแจ้งด้วย

ทว่าดวงหน้าของเขากลับมิปรากฏแววโกรธเกรี้ยวเลยสักเสี้ยว กลับกันเขากลับยิ้มขึ้นมา

ภาพฉากนี้ออกจะให้ความรู้สึกคุ้นเคยโดยแท้

พันปีก่อน คนพวกนั้นก็กล่าวหา ลงดาบ และส่งเขาลงสู่ขุมนรก ณ ที่ตรงนี้

แท้จริงแล้วเขาจำรายละเอียดมากมายในตอนนั้นได้ไม่ชัดเจนแล้ว

ทว่าเขายังคงจดจำความโกรธแค้นและไม่ยินยอมครานั้น รวมถึงความรู้สึกที่ตนถูกหักหลังและได้รับความอยุติธรรมอย่างใหญ่หลวงได้ชัดเจนและลึกล้ำไม่ผิดเพี้ยน

เวลาเนิ่นนานคล้อยผ่านไร้จุดจบ พอมาบัดนี้ต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้อีก เขาก็รู้สึกโล่งใจยิ่งนัก

บทที่ 1770 เผยไพ่ในมือ 1

บทที่ 1770 เผยไพ่ในมือ 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์