………………..
“หงส์ทองคำนี่!”
เขาไม่มีทางจำลมปราณบนร่างของเด็กหญิงผู้นั้นผิดแน่ เป็นหงส์ทองคำอย่างมิต้องสงสัย!
ในไม่ช้า คนทั้งจัตุรัสก็รับรู้ถึงการมีอยู่ของถวนจื่อ ต่างพากันส่งเสียงออกมาอย่างตื่นตกใจ
“นั่นหงส์ทองคำจริงด้วย!”
“เหตุใดหงส์ทองคำถึงมาปรากฏตัวที่เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้!?”
“ไม่มีทาง! ดูแล้วนางยังอายุน้อยมากเลยหนา… เหตุใดถึงแปลงกายเป็นมนุษย์ได้เล่า!?”
…
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่นทั่วทั้งจัตุรัส
โหมวหยางพลันนึกอันใดบางอย่างได้ นัยน์ตาหดลงทันควัน
นี่มันอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาของฉู่หลิวเยว่!
แต่ก่อนหน้านี้หงส์ทองคำตัวนี้ถูกกั้นเอาไว้นอกเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์มิใช่หรือ?
เหตุใดมาปรากฏตัวที่นี่ได้!?
ความคิดมากมายที่แล่นผ่านสมองเขาตีรวนกันวุ่นวายหาสิ่งใดเปรียบ
โหมวหยางค่อยๆ ตระหนักได้ว่ามีเรื่องราวที่หลุดรอดจากการควบคุมของเขาไปมากมายเพียงใด!
ทุกสิ่งทุกอย่าง… กำลังดำเนินไปสู่ภยันตรายที่มิอาจคาดเดาได้!
เขาจึงก้าวไปข้างหน้า ยกมือชี้โหมวเจิน แล้วแผดเสียงตะโกนลั่น
“โหมวเจิน! เจ้าออกจะทำเกินไปหน่อยแล้วกระมัง! สมคบคิดกับพวกมนุษย์ พาพวกมันเข้าออกเสามังกรเคลื่อนตามใจไม่พอ ยังปล่อยให้หงส์ทองคำตามเข้ามาได้! เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่! เจ้าถามตัวเองเถอะว่าเจ้ายังเห็นหัวบรรพบุรุษอยู่หรือเปล่า? ยังไว้หน้าเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงอยู่บ้างหรือไม่!”
ตอนนั้นเองที่หรงซิวกับฉู่หลิวเยว่เดินมาหยุดอยู่ข้างกายโหมวเจินพอดี
กลุ่มแสงก้อนนี้ใหญ่กว่าร่างเล็กจ้อยของนางนัก ทว่าโชคดีที่นางหาใช่เด็กมนุษย์ธรรมดาไม่ แต่เป็นหงส์ทองคำ
ดังนั้นการโอบอุ้มกลุ่มแสงก้อนนี้ไว้จึงมินับว่าเหนื่อยยากอันใด
เมื่อเดินมาถึงที่หมาย ถวนจื่อจึงได้วางกลุ่มแสงลงอีกรอบหนึ่ง ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียด
จื่อเฉินเองก็ไม่รู้ว่าเป็นอันใดไป จนถึงป่านนี้แล้วก็ยังไม่ออกมาจากข้างในนั้น
ประกายแสงสีทองแกมม่วงปกคลุมร่างของมันเอาไว้จนมิด ต่อให้เป็นถวนจื่อที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ก็มิอาจมองเห็นสถานการณ์ข้างในกลุ่มแสงนั่นได้
ฉู่หลิวเยว่คลี่ยิ้มพลางลูบศีรษะนาง
“ลำบากถวนจื่อแล้วหนา”
เดิมนางเตรียมจะเดินพาจื่อเฉินออกมาด้วยตัวเอง แต่ยังไม่ทันทำอันใด ถวนจื่อก็ชิงนำหน้าไปก่อนก้าวหนึ่งแล้ว
“ไม่ลำบาก! ดูแลน้องเล็กเป็นเรื่องที่ควรทำอยู่แล้ว!”
ถวนจื่อฉีกยิ้มกว้าง
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วน้อยๆ สายตากวาดมองไปยังกลุ่มแสงนั่นอีกครา
ตอนนี้มองเงาร่างของจื่อเฉินไม่เห็นแล้ว อีกทั้งลมปราณที่หลั่งไหลอยู่บนกลุ่มแสงก้อนนั้นเองก็สงบลงในบัดดล
นางคลี่ยิ้มออกมา หากแต่มิได้เอ่ยคำอันใด
โหมวเจินเอ่ยปากถามออกไป
“พวกเจ้าเป็นอย่างใดบ้าง?”
หรงซิวเอ่ยแกมหัวเราะ
“มีท่านผู้อาวุโสโหมวเจินอยู่ พวกข้าก็รู้สึกปลอดภัยไร้กังวล”
โหมวเจินจึงได้วางใจลง
บัดนี้มุมมองที่เขามีต่อหรงซิวและซั่งกวนเยว่แตกต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
แม้เขาในตอนนั้นกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการหลอมกายเนื้อ หากแต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยรอบ เขาล้วนรับรู้ได้ทั้งสิ้น
“วางใจเถอะ ขอแค่มีข้าอยู่ บนเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ย่อมไม่มีใครกล้าทำอันใดพวกเจ้า!”
สุ้มเสียงของโหมวเจินทั้งทุ้มต่ำและเต็มเปี่ยมด้วยความอหังการ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...