………………..
ฉู่หลิวเยว่ “???”
ครึ่งเดือนหลังจากนี้จะแต่งงาน?
เหตุใดนางถึงไม่รู้?
ไหนจะบัตรเชิญนี่อีก!
เขาไปจัดเตรียมตั้งแต่ตอนไหน? แล้วนี่แจกจ่ายบัตรเชิญตามใจแบบนี้เลยหรือ!?
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่เหลอหลาอย่างถึงที่สุด
ฟากโหมวเจินยื่นมือไปรับบัตรเชิญมาไว้
พอได้ของมาไว้ในมือ แววตาของเขาพลันทอประกายตื่นตะลึง
บัตรเชิญใบนี้ทำจากกระดาษดำปักไหมทอง
กระดาษดำปักไหมทองเป็นกระดาษเซวียนจื่อที่เลอค่าอย่างมาก เพราะวัสดุที่ใช้ทำหายาก วิธีการทำที่ซับซ้อนและผลผลิตที่มีน้อยนิดจึงทำให้มันเป็นของลือชื่อ
และด้วยเพราะเหตุผลเหล่านี้เอง ราคาของกระดาษดำปักไหมทองถึงได้สูงลิบลิ่ว
แม้จะเป็นเช่นนี้ กระดาษดำปักไหมทองก็ยังคงได้รับความนิยม ผู้คนต่างแย่งชิงกันเพื่อให้ได้มันมา
เพราะกระดาษดำปักไหมทองชนิดนี้นั้นบางเฉียบ ทว่ากลับแข็งแรงทนทานอย่างยิ่ง
คมมีดแหลมมิอาจตัดขาด จะสายน้ำหรือเปลวไฟเองก็ทำลายมันไม่ได้
ขอเพียงแค่เก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ก็สามารถคงอยู่ไปได้หลายหมื่นปี
ไม่ต้องพูดถึงคนธรรมดาเลย กระทั่งพวกตระกูลชั้นสูงในอาณาจักรเสิ่นซวี่เองก็ครอบครองสิ่งนี้ได้ไม่มาก
ทว่ากระดาษดำปักไหมทองเช่นนี้กลับถูกหรงซิวเอามาใช้ทำเป็นเทียบเชิญงานแต่ง…
ไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะพูดว่าเขาฟุ่มเฟือยเกินไป หรือพูดว่าเขาให้ความสำคัญกับงานแต่งครั้งนี้มากเกินไปดี
รวมไปถึงคนผู้นั้นที่เขาจะตบแต่งด้วย
รอยยิ้มของหรงซิวลึกล้ำยิ่งกว่าเก่า
“เช่นนั้นข้ากับเยว่เออร์จะเฝ้ารอการมาเยือนของท่านหนา”
…
หลังคนทั้งสองเพิ่งเดินห่างออกมาจากเขตแดนของเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่นาน ฉู่หลิวเยว่ก็ดึงมือของหรงซิวเอาไว้
“บัตรเชิญนั่นคืออันใดกัน!? วันแต่งงานคือครึ่งเดือนหลังจากนี้หรือ เหตุใดก่อนหน้านี้ข้าถึงไม่รู้มาก่อน?”
หรงซิวปล่อยให้นางจับข้อมือของตนพลางยกยิ้ม กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มเจือความอ่อนโยนว่า
“กำหนดวันงานแต่งน่ะข้าเพิ่งตัดสินใจได้เมื่อครู่นี้นั่นแหละ ความจริงมันถูกเลื่อนมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ข้าไม่อยากเลื่อนมันออกไปอีก ครึ่งเดือนให้หลัง พอพวกเรากลับไปพระราชวังเมฆาสวรรค์แล้ว เราจะตบแต่งกันทันที”
แม้สุ้มเสียงของเขาจะอ่อนโยนนุ่มนวลเช่นเคย ทว่าน้ำเสียงกลับเต็มไปด้วยความหนักแน่น
เห็นได้ชัดเลยว่าเขาตัดสินใจเรื่องนี้ไว้แน่วแน่
ยามสบเข้ากับนัยน์ตาหงส์ที่ลึกล้ำนิ่งสงบคู่นั้น ฉู่หลิวเยว่ก็พลันตื่นตะลึง
คำพูดที่เหลืออยู่จะทำอย่างใดก็พูดไม่ออกเสียอย่างนั้น
ใช่แล้ว
หรงซิวเคยพูดถึงเรื่องนี้มาหลายครั้งแล้ว
เพียงแต่ว่าพวกนางแทบไม่มีเวลาและโอกาสที่เหมาะสมเลย
พอลองคำนวณดู มันก็นานเกินไปแล้วจริงๆ
“ท่านพ่อข้า…”
“วางใจเถิด ก่อนหน้านี้ข้าได้ส่งคนไปเชิญท่าน บัดนี้น่าจะใกล้ถึงพระราชวังเมฆาสวรรค์แล้ว อีกอย่าง ถึงเวลานั้น เพื่อนและพวกพ้องของเจ้าก็จะมุ่งหน้าไปที่พระราชวังเมฆาสวรรค์เช่นกัน”
ฉู่หลิวเยว่ถึงกับตกตะลึง
มุมปากของหรงซิวยกขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยอธิบายอย่างใจเย็น
“เจ้า… เตรียมการพวกนี้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงอย่างนั้นหรือ?”
หรงซิวเริ่มร่วมเดินทางไปกับนางตั้งแต่ตอนนั้น
ลองมาคิดดูแล้ว เรื่องพวกนี้ก็น่าจะเริ่มทำตั้งแต่ก่อนหน้านั้น
หรงซิวเลิกคิ้ว มิได้เอ่ยปฏิเสธ
เดิมทีเขาวางแผนว่าหลังรับฉู่หลิวเยว่กลับมาจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงแล้ว รอให้ทุกอย่างจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยก็จะอภิเษกกันทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...