………………..
“สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ก็มาหรอกหรือ”
ในตอนแรกฉู่หลิวเยว่รู้สึกดีใจ แต่หลังจากนั้นนางก็ขมวดคิ้วขึ้นอีก
“พวกเขาถูกรั้งตัวไว้ที่ใด เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรื่องเป็นมาอย่างใด”
เยี่ยนชิงเอ่ยขึ้น
“ทูลพระชายา จริงๆ แล้วครั้งนี้สิบสามผู้พิทักษ์เยว่มาเพียงหกท่านเท่านั้น แต่ในตัวของท่านหนึ่งมีสิ่งของที่ดูอันตราย จนทำให้ค่ายกลสั่นสะเทือนและพวกเขาไม่ยอมส่งของออกมา สุดท้ายจึงถูกรั้งตัวไว้ที่ด้านนอกค่ายกลแทน พ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนชิงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ช่างเป็นสิ่งที่เกินคาดนัก ดังนั้นจึงรีบมารายงานฉู่หลิวเยว่ให้ทราบทันที
ความคิดของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและรีบก้าวเท้าเดินนำไป
“พาข้าไปดูหน่อย”
มู่หงอวี่จึงรีบพุ่งตัวตามนางไป
“หลิวเยว่! ข้าไปด้วย!”
…
พระราชวังเมฆาสวรรค์มีพื้นที่อาณาเขตที่กว้างขวาง ดังนั้นค่ายกลที่ตั้งไว้เพื่อป้องกันศัตรูจากด้านนอกจึงมีขนาดใหญ่มากทีเดียว
อีกทั้งพวกเขามีการคุ้มกันค่ายกลที่เข้มงวดอย่างมาก
เมื่อฉู่หลิวเยว่มุ่งหน้าไปที่ค่ายกล ทำให้ผู้คนเกิดความสนใจไม่น้อย
เดิมทีมีคนไม่มากนักที่สามารถเข้าออกอาณาจักรเสิ่นซวี่ได้อย่างอิสระเสรี อีกทั้งฉู่หลิวเยว่ก็เป็นที่สะดุดตาเป็นพิเศษ
ผู้คนมากมายที่จ้องมองมาจากระยะไกลก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นนาง
“พระชายาท่านจะทำอันใดรึ”
“ไม่รู้สิ ดูท่าเช่นนี้เหมือนว่าจะไปที่ค่ายกลกระมัง”
“ช่วงนี้พระชายาควรอยู่ที่เขาฉางจื้อมิใช่หรือ เหตุใดจู่ๆ ถึงมุ่งหน้าไปที่ค่ายกลโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้…แต่ทว่าเหตุใดผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้ถึงตามมาได้เล่า”
“ที่พวกเขามากันได้แน่นอนว่าเป็นเพราะรับสั่งจากองค์ชาย เรื่องนี้มีอันใดต้องให้เดาอีกรึ”
“หามิได้ ข้าหมายถึงงานอภิเษกสมรสระหว่างองค์ชายกับพระชายา จะเชิญญาติผู้ใหญ่หรือสหายของพระชายามาร่วมงานถือได้ว่าเป็นเรื่องปกตินัก อีกทั้งแม้แต่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาก็ล้วนได้รับเชิญมา ซึ่งความเป็นจริงแล้ว…”
เช่นนี้จึงทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจกันเล็กน้อย
อีกทั้งเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดนี้ พอมาถึงก็ก่อเรื่องขึ้น ดูๆ แล้วคงไม่น่าจะอยู่ร่วมกันได้ดีนัก
จู่ๆ มีคนหัวเราะโพล่งขึ้นมาพลางเอ่ยว่า
“จริงอยู่ที่พระชายาไม่ได้เติบโตที่อาณาจักรเสิ่นซวี่ งานอภิเษกสมรสในครั้งนี้ เพื่อนางแล้วองค์ชายทรงต้องการเชิญคนมามากหน่อยให้งานสนุกสนานขึ้น ก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติ”
มีคำพูดเหน็บแนบที่แสดงออกมาในระหว่างที่เขาพูด
หากพูดให้น่าฟัง คือ สนุกสนาน แต่ถ้าพูดให้ไม่น่าฟัง…แต่ก็มาเพื่อเพียงสร้างความกล้าหาญแข็งแกร่งกระมัง!
“เมื่อใกล้ถึงวันอภิเษกสมรสเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาหากก่อเรื่องขึ้นมาจริงๆ…ก็ไม่แปลกที่พวกเรา!”
…
ฉู่หลิวเยว่กลับไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านั้น
นางมุ่งหน้าไปด้วยความรวดเร็วตลอดทาง ไม่นานก็มาถึงที่
นางมองเห็นเฉินอีและคนอื่นๆ จากที่ไกลๆ
ในขณะที่พวกเขากำลังยืนอยู่ด้านนอกค่ายกล ทหารองค์รักษ์สองสามคนของพระราชวังเมฆาสวรรค์กำลังประจันหน้าพวกเขาไว้
ทั้งสองฝ่ายตกอยู่ในสถานการณ์ต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน
“แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพระชายา พวกเราจึงมิได้ตั้งใจจะทำให้พวกเขาลำบากใจ เพียงแค่พวกเขาส่งของสิ่งนั้นออกมา พวกเราก็จะปล่อยให้พวกเขาเข้ามาได้ในทันที”
ทหารองค์รักษ์คนหนึ่งขมวดคิ้วเข้ม
“หากพวกเรายังประจันหน้ากันต่อไปเช่นนี้ มีแต่จะเป็นการเสียเวลาเปล่า”
หญิงสาวผู้นั้นมองดูแล้วอายุประมาณสิบเจ็ดย่างสิบแปดปีได้ รูปร่างสวยเด่นสง่างาม ใบหน้างดงามยิ่ง โดยเฉพาะดวงตาที่แสนเย้ายวนแทบสะกดให้คนชวนหลงไหล ช่างเป็นความงดงามที่ตรึงใจนัก
บนร่างของนางสวมชุดหลากสีสันที่โดดเด่นเป็นพิเศษ เผยให้เห็นแขนขาวผิวเนียนละเอียด และขาคู่เรียวที่ดึงดูดสายตาอย่างมาก
ข้อมือและข้อเท้าของนางผูกไว้ด้วยเชือกหลากสีสันและประดับด้วยไข่มุกเศษหยกทีละเม็ดไว้บน เชือก
เมื่อทุกครั้งที่นางขยับตัวจะมีเสียงกรุ้งกริ้งกระทบกันบนร่างของนาง
ปรอยเส้นผมสีดำขลับที่ตกลงมาใช้เพียงเชือกถักหลากสีมัดเอาไว้อย่างง่ายๆ ด้วยความยาวที่จรดถึงตำแหน่งข้อเท้า



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...