………………..
ฉู่หลิวเยว่ชะงักงัน จากนั้นจึงวางชาที่เพิ่งจะแตะริมฝีปากลง
ไม่นึกเลยว่าท่านอาจารย์จะชอบเจ้าสิบสามน้อย
สายตาของท่านอาจารย์มีชื่อเสียงในด้านความละเอียดพิถีพิถัน
มิเช่นนั้นคงไม่ใช่หลายปีที่ผ่านมาได้รับนางไว้เป็นลูกศิษย์
ทำให้เขาชื่นชอบ พอที่จะพิสูจน์ได้ว่าเจ้าสิบสามน้อยมีความโดดเด่นอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่คิดแล้วจึงไม่ได้ตอบกลับในทันทีและถามขึ้นว่า
“เหตุใดจู่ๆ ท่านอาจารย์คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเจ้าคะ ท่านได้ตรวจสอบคุณสมบัติของเจ้าสิบสามแล้วหรือ”
หนานซู่ไหวสายหัว
“ยังเลย คือว่าเมื่อหลายวันก่อนเด็กคนนี้วิ่งเล่นอยู่แถวภูเขากว้าง เพราะข้าดูแล้วว่าอายุของเขายังไม่มากนัก เดิมทีขั้นพลังปราณก็เพิ่งจะเป็นจอมยุทธ์ระดับหก แต่ความว่องไว้นี้กลับเทียบได้กับจอมยุทธ์ระดับเก้า…คิดดูแล้ว เด็กคนนี้น่าจะเส้นเอ็นกระดูกไม่ธรรมดา เดิมข้าอยากจะเรียกเขามาดูสักหน่อย แต่อันที่จริงเขาเป็นคนของเจ้า ดังนั้นข้าเลยลองมาถามความคิดเห็นจากเจ้าดูเสียก่อน”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเย่วโค้งงอเล็กน้อย
“ทำให้ท่านอาจารย์มองเห็นได้ ช่างเป็นโชคดีของสิบสาม หากเข้าไปฝึนฝนที่สำนักได้จริงๆ ยิ่งเป็นเรื่องดีที่หายากได้สำหรับสิบสาม ท่านโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปเรียกเขามา”
นางลุกขึ้นกำลังจะเรียกหาคน จู่ๆ คิดอะไรได้ขึ้นมาจึงถามขึ้น
“หากเงื่อนไขของสิบสามไม่ธรรมดา ท่านอาจารย์คิดว่าจะรับเขาเป็นลูกศิษย์ของท่านเองใช่หรือไม่ เจ้าคะ”
หนานซู่ไหวกลับส่ายหัว
“ไม่ใช่ แค่ข้ามีเจ้าเป็นลูกศิษย์คนเดียวก็พอแล้ว แต่ถ้าเขาเป็นอย่างที่ข้าคิดจริงๆ ในสำนักมีคนที่เหมาะสมจะเป็นอาจารย์ของเขามากกว่า
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าอย่างเข้าใจ
“สิบสาม!”
“เด็กนั่นเหมือนจะอยู่ตั้งครึ่งหุบเขานั่น ไกลขนาดนี้ เขาน่าจะได้ยิน…”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เงาร่างอายุน้อยที่ผอมบางก็เข้ามาด้วยความว่องไวจากที่ไกล
เขาวิ่งเร็วอย่างมาก การเคลื่อนไหวทั้งบางเบาและคล่องแคล่ว เพียงพริบตาเดียวก็มาอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่
เพราะวิ่งมาด้วยความรีบร้อน ทั้งหน้าผากและปลายจมูกของเขามีเม็ดเหงื่อซึมออกมา
ดวงตาทั้งคู่เปล่งประกายความใสบริสุทธิ์และจริงใจ นำพาความเยาว์วัยและพลังที่เป็นเอกลักษณ์ของวัยหนุ่มสาว
ชั่วแวบเดียวที่ฉู่หลิวเย่วเห็น
หลายปีมานี้สิบสามโตขึ้นแล้งจริงๆ
ในความทรงจำของนางเขายังคงเป็นเด็ก
“นายท่าน ท่านเรียกหาข้าหรือ”
เมื่อฉู่หลิวเยว่กลับมาได้สติจึงพยักหน้า
“เจ้าเข้ามาสิ”
เมื่อพูดจบนางจึงเดินกลับไปยืนข้างๆ หนานซู่ไหว
“ผู้อาวุโสคิดว่าความสามารถของเจ้าไม่ธรรมดา ช่วยพิสูจน์ความสามารถของเจ้าให้ดูสักหน่อยหากคุณสมบัติเหมาะสมจริงๆ ต่อไปเจ้าก็สามารถไปฝึกฝนที่สำนักหลิวเซียวได้”
ฉู่หลิวเย่วพูดขึ้นอย่างรวบรัดชัดเจน
แต่สิบสามกลับชะงักไปชั่วขณะพลางจ้องมองหนานซู่ไหวและมองไปทางฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง
นี่หมายความว่า…
หลังจากเขามาหลายวัน
อาจารย์ที่นายท่านเอ่ยคนนั้นเป็นใคร เขาต้องรู้อย่างแน่นอนถึงสถานะของฝ่ายตรงข้าม เพราะข้าก็ได้ยินข่าวมาหมดแล้ว
เพียงแต่ไม่คิดเลยว่าจะมาเกี่ยวข้องกับตนเองได้
เมื่อฉู่หลิวเยว่เห็นเขาตะลึงงันเลยคิดว่าอาจทำให้เด็กตกใจเสียแล้วจึงยิ้มพลายเอ่ยขึ้น
หลังจากนี้ข้าจะแบ่งกำลังออกมาและเข้าไปในชีพจรเดิมของสิบสาม
ในขณะนั้นนัยน์ตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจขึ้น
ฉู่หลิวเยว่จึงถามขึ้น
“ท่านอาจารย์ เป็นอย่างใดบ้าง”
หนานซู่ไหวยังไม่ได้ตอบกลับปัญหานี้ในทันที เพียงแต่ถอนมือกลับ หลังจากนั้นจึงลุกขึ้นยืนเดินไปหาสิบสามข้างๆ และบีบไหล่ของเขา
สิบสามมองไปทางฉู่หลิวเยว่อย่างทำตัวไม่ถูก
ฉู่หลิวเยว่ส่งสายตาที่ผ่อนคลายกลับไป
สิบสามจึงรอคอยอย่างเงียบๆ ต่อไปและปล่อยให้หนานซู่ไหวนวดกระดูกหัวไหล่และแขนของตนเอง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...