………………..
หนานซู่ไหวเดินไปด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย
ก่อนจากไปเขายังตั้งใจกำชับกับฉู่หลิวเยว่สองสามประโยค แท้จริงแล้วสิบสามเป็นต้นกล้าที่ดี ต่อไปจะต้องสั่งสอนเขาให้ดีๆ
คำพูดนี้จริงๆ แล้วหนานซู่ไหวได้คิดแทนซู่หลิวเย่วมาแล้วถึงได้พูดเช่นนี้ออกมา
อันที่จริงสิบสามเป็นคนของเข้า ถ้าหากพัฒนาไปได้ดีสำหรับนางย่อมเป็นเรื่องดีที่สุดอย่างแน่นอน
ตอนนี้สิบสามอายุยังน้อย และยังดูความสามรถของเขาไม่ค่อยออก
สักพักเมื่อถึงวันที่เขาเติบโตขึ้น ก็มิควรมองข้ามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ฉู่หลิวเย่วเป็นคนพาสิบสามมา และยังเป็นคนส่งเขาออกไปด้วยตนเอง
เมื่อร่างของหนานซู่ไหวค่อยๆ ไกลออกไปจนเลือนหายไป ฉู่หลิวเยว่จึงหันตัวกลับมาจ้องมองไปทางสิบสาม
สิบสามดูตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นนางมองมาจึงก้มหัวลงโดยไม่รู้ตัว
“…นายท่าน เมื่อครู่ข้าทำผิดใช่หรือไม่”
เขาถามขึ้นอย่างกระสับกระส่าย
ฉู่หลิวเย่วจ้องมองเขา
“เจ้าเข้าไปในห้องกับข้า”
หลังจากพูดจบนางจึงหันตัวกลับเข้าไปในห้อง
“เสวี่ยเสวี่ย เจ้ากลับไปก่อน”
เดิมทีคิดจะตามไปฟังข่าวของเสวี่ยเสวี่ย มันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย และเกาหัวไปมาพลางมองดูเงาด้านหลังของนางอย่างอาลัยอาวรณ์อยู่พักหนึ่ง
“โฮก!”
ช้าอีกหน่อยมันค่อยมา!
สิบสามลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินตามเขาขึ้นไป
สิบสิบยืนอยู่ไม่ไกลจากตรงด้านหน้าของนาง มืองทั้งสองสั่นด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้นมามองฉู่หลิวเยว่อยู่บ่อยๆ
“สิบสาม เจ้ามิได้ทำอันใดผิดเลย”
เมื่อความเงียบผ่านไปสักพัก ฉู่หลิวเยว่จึงเอ่ยขึ้น
แต่ก็ไม่ได้ทำให้สิบสามวางใจลงได้
ในความทรงจำของเขาดูเหมือนว่านายท่านไม่เคยพูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเช่นนี้กับเขามาก่อน
เขารู้ว่าตัวเองปฏิเสธคำแนะนำของหนานซู่ไหวผู้นั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามดังนั้นในใจของเขายังรู้สึกไม่สบายใจ
“ถึงแม้สำนักหลิงเซียวจะมีคนมากมายเฝ้าฝันอยากจะไปที่นั่น แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้เป็นเช่นนั้น เจ้าไม่ยินยอมไปเพราะเหตุผลของตนเอง เมื่อก่อนข้าไม่เคยบีบบังคับอะไรเจ้า ตอนนี้ก็คงไม่ทำเช่นกัน เพียงแต่…”
นางหยุดชะงัก สายตาราวกับมีมีดแหลมคมและกวาดตามองบนตัวสิบสาม
“ความสามารถที่โดดเด่นของเจ้า ข้าประหลาดใจเล็กน้อย”
สิบสามยิ่งแสดงความไม่สบายใจออกมา
“เรื่องนี้ต้องโทษข้า เดิมข้าควรจะใส่ใจเจ้าสักหน่อย เพิ่งจะมารู้ผลเอาตอนนี้”
ในอีกด้านหนึ่งนางก็ละเลยต่อสิบสามเช่นกัน
สิบสามเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน
“ไม่! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายท่าน! สิบสามควรจะบอกกับท่านแต่แรก…”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มขึ้นมา
“อันที่จริงพูดเรื่องนี้ในตอนนี้ก็ไม่สำคัญอันใดแล้ว ที่สำคัญก็คือความสามารถของเจ้ายังไม่ถูกทำให้เสียหายสักหน่อย”
สำหรับเรื่องนี้นางและอาจารย์ต่างมีความเห็นเหมือนกัน
ผู้ฝึกตนคนหนึ่งต้องการจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายอย่าง
ความสามรถจึงเป็นเงื่อนไขแรกที่ไม่มีข้อโต้แย้งได้
ได้ยินนางพูดเช่นนี้ในที่สุดสิบสามก็โล่งใจเล็กน้อย
“ปกติเฉิงอีสอนเจ้าเช่นนี้หรือ”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...