เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1802

………………..

นั่นคือสุ้มเสียงที่นางคุ้นหู

ฉู่หลิวเยว่พลันได้สติกลับคืน จึงหันศีรษะมองตามเสียง

ในตอนนั้นประตูใหญ่ยังคงปิดสนิท ทว่าด้านนอกกลับครึกครื้นรื่นเริง

เสียงดนตรีพิธีการบรรเลงอย่างอ้อยอิ่งลอยแว่วเข้าหู

นางได้ยินเสียงผู้คนมากมายหัวร่อต่อกระซิก

ทว่าท่ามกลางเสียงวุ่นวายของโลกา มีเพียงสุ้มเสียงของเขาที่ดังแจ่มชัดที่สุด

เขาบอกว่า เขามารับนางแล้ว

ฉู่หลิวเยว่หยัดกายลุกขึ้น สาวเท้าเดินไปทางประตูห้อง

นางทาบฝ่ามือลงบนประตู รยางค์ของนางเย็นเฉียบนัก ทว่าฝ่ามือนางกลับร้อนผ่าว

นางสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ จากนั้นผลักประตูให้เปิดออกเบาๆ…

แสงอาทิตย์อันเจิดจ้าสาดส่องเข้ามาในชั่วพริบตา!

นางหรี่ตาลงน้อยๆ ก่อนจะมองเห็นดวงหน้าอันคุ้นเคยกันดี

นางถึงกับตะลึงงันไปแวบหนึ่ง

ด้วยวันนี้หรงซิวสวมชุดคลุมสีแดงอย่างหาดูชมได้ยากนัก

ช่วงเอวประดับสายคาดหยกสีดำที่ดัดโค้งตามรอบเอวของเขาได้อย่างง่ายดาย ขับเน้นให้รูปร่างไหล่กว้างเอวคอดของเขาเห็นสัดส่วนชัดยิ่งกว่าเก่า รูปร่างสูงเพรียวนัก

ดวงหน้าดุจดั่งเซียนเร้นโลกาก็มิปาน บัดนี้ราวกับอาบด้วยแสงสีของดอกไม้ไฟในโลกมนุษย์ ขจัดความเย็นชาที่เคยมีมาจนหมดสิ้น

บรรดาฝูงชนต่างเงียบเสียงลงในบัดดล

ในแววตาของหรงซิวทอประกายไปด้วยไอเย้ายวนอันเร่าร้อน

ร่างของแม่นางที่สวมชุดเจ้าสาวสีแดงเดินก้าวออกมาจากหลังประตูใหญ่

คำกล่าวที่ว่า… ทั้งหมดนี่คงหมายถึงคนงามเช่นนี้กระมัง?

ความจริงแล้วคนจำนวนมากที่อยู่ในที่แห่งนี้ล้วนแต่เคยเจอฉู่หลิวเยว่มาก่อนแล้วทั้งนั้น

เดิมทีนางก็มีรูปร่างหน้าตาที่งดงามมิมีใครเทียบเคียงได้อยู่แล้ว เพียงแต่ปกติแล้วส่วนใหญ่ก็หาได้แต่งองค์ทรงเครื่องมากมายใหญ่โตไม่ ทว่ามาคราวนี้กลับสวมมงกุฎหงส์แลสายคาดยศเตรียมพร้อม แต่งตัวอย่างประณีตบรรจงนัก ทำให้รู้สึกว่าชั่วพริบตาหนึ่งราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนก็มิปาน

บนโลกนี้ก็ยังมีแม่นางเช่นนี้ด้วย

ยามปรากฏตัว ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวประหนึ่งว่าสีหมองลงไปเสียเดี๋ยวนั้น

มีเพียงนางผู้เดียวที่ยังเจิดจ้า เฉิดฉายอย่างมีชีวิตชีวายิ่ง!

คำกล่าวที่ว่า ‘นารีเป็นเหตุ’ ส่วนใหญ่คงเป็นประมาณนี้กระมัง

หรือบางทีเซียนที่มีรูปลักษณ์หมดจดเช่นนี้ไม่สมควรลงมายุ่งเกี่ยวกับธุลีเหลืองแต่แรกอยู่แล้ว

ความเงียบงันเข้าครอบคลุมไปพักใหญ่

บรรดาฝูงชนต่างสะกดกลั้นลมหายใจ ประหนึ่งว่ากลัวจะไปขัดจังหวะผู้ใดเข้าหากเปิดปาก

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ ชั่วพริบตานั้นราวกับนภสินธุ์นับแสนกระเพื่อมไหว

“หรงซิว”

นางส่งเสียงเรียกออกไปอย่างแผ่วเบา

หรงซิวจดจ้องนางเขม็ง เสมือนต้องการสลักนางในรูปลักษณ์เช่นนี้ให้ลึกลงไปในก้นบึ้งของจิตใจ

อุณหภูมิอันร้อนเร่าแทบทำให้ทั่วทั้งร่างของฉู่หลิวเยว่ร้อนระอุขึ้นมา

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์