………………..
ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์พลันระเบิดเสียงอื้ออึงแทรกบรรยากาศเย็นเยียบขึ้นมาในพริบตา!
อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อหกชิ้นหรือ!?
คงมิได้กำลังล้อเล่นอยู่ใช่หรือไม่!?
ต้องเข้าใจก่อนว่าสำหรับผู้คนจำนวนมากที่อยู่พร้อมหน้ากันที่นี่นั้น การได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งราชามาสักชิ้นก็ถือเป็นเรื่องราวใหญ่โตสะเทือนฟ้าแล้ว
มิเช่นนั้นแล้ว ในตอนนั้นคงไม่มีบรรดาตระกูลมากหน้าหลายตาถ่อไปสร้างความวุ่นวายที่สำนักหลิงเซียวเพื่อชิงเอากระบี่ชื่อเซียวมาหรอก!
พวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าซั่งกวนจิ้งเป็นช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์ จะหยิบยื่นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อไปให้ก็ย่อมอยู่ในความคาดหมาย
แต่ให้ตายพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าซั่งกวนจิ้งจะให้ของทีเดียวถึงหกชิ้น!
เขายังรับปากอีกว่าหลังจากนี้จะไปสร้างเพิ่มให้ครบทั้งหมดสิบชิ้นด้วยกัน!
ทุกวันนี้อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อกลายเป็นเหมือนหัวผักกาดไปแล้วหรือไรกัน!?
บรรดาฝูงชนต่างตกอยู่ในความวุ่นวาย
พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าแม้นปีนั้นซั่งกวนจิ้งจะสู้รบตบมือคนเดียว อีกทั้งยังร่อนเร่ด้วยตัวเองมาโดยตลอด แต่ยามประมือกับช่างหลอมอาวุธระดับเดียวกันแล้ว เขาแทบไม่เคยพ่ายแพ้เลย
อีกทั้งทุกครั้ง เขาไม่เพียงแต่หลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อของตัวเองออกมาได้ ทั้งยังได้สมบัติที่คู่ประลองหลอมออกมาอย่างยากลำบากมาเป็นของรางวัลของผู้ชนะอยู่บ่อยๆ
แม้จะด้อยกว่าอาวุธที่เขาหลอมขึ้นเองชนิดเทียบไม่ติด แต่พวกมันก็ล้วนเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อของจริงทั้งนั้น
ดังนั้นแล้ว ในบรรดาสิ่งของทั้งหลายแหล่ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือเขานั้นเรียกได้ว่ามีจนถมเถโดยแท้!
อีกอย่าง อาวุธของเขายังทิ้งห่างของกำนัลชิ้นก่อนหน้าชนิดที่ว่าไม่ติดฝุ่น!
ยามมองท่าทีซั่งกวนจิ้งที่มีสีหน้าผ่อนคลาย คนจำนวนมากต่างรู้สึกเหมือนถูกตบฉาดใหญ่เข้าซีกหน้าจนชาดิก
ลำพังแค่อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อหกชิ้นนี้ก็ชนะของกำนัลส่วนใหญ่ที่ถูกมอบไปก่อนหน้านี้แล้ว!
ฉู่หลิวเยว่เองก็รู้สึกตกใจอยู่หลายส่วน
นางรู้ว่าองค์ไท่จู่คงจะมีสมบัติล้ำค่าส่วนหนึ่งอยู่ในมือ แต่มิรู้เลยว่าครานี้องค์ไท่จู่จะเอาออกมาทีเดียวถึงหกชิ้น
หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ฉู่หลิวเยว่ก็รับของมาด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณองค์ไท่จู่มากเจ้าค่ะ!”
ซั่งกวนจิ้งหัวเราะร่า
“เยว่เออร์ชอบก็ดีแล้ว! รีบสวมเร็วเข้า!”
มือขวาของฉู่หลิวเยว่สวมแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาจากหรงซิว นางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะสวมแหวนที่องค์ไท่จู่มอบให้ลงบนมือซ้าย
พอลองแหวนไปรอบหนึ่ง ก็พบว่ามีเพียงนิ้วโป้งที่ใส่เข้าพอดี
ดูแบบนี้แล้วเหมือนกับแหวนปานจื่อก็มิปาน
บรรดาฝูงชนที่มองดูอยู่ด้านใต้ต่างมีสีหน้าซีดเผือด
ซั่งกวนเยว่ในตอนนี้มือซ้ายสวมแหวนที่เก็บซ่อนอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อไว้ทั้งหมดหกชิ้น! มือขวาสวมแหวนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีสถานะสูงศักดิ์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์!
ลำพังแค่ของพวกนี้ก็เพียงพอที่จะให้คนจำนวนมากในโถงตำหนักเคารพนับถือแล้ว!
ในตอนนั้นเอง หนานซู่ไหวก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“ผู้อาวุโสซั่งกวนออกโรงส่งมอบของกำนัลชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ทำเอาข้าเหงื่อตกเลยเชียว!”
บรรดาฝูงชนได้ยินดังนั้นก็หันไปมอง
เจ้าสำนักหลิงเซียวคิดจะส่งมอบสิ่งใดกัน?
คิ้วโก่งของฉู่หลิวเยว่เลิกเป็นวงโค้ง
“อาจารย์ให้ของแก่เยว่เออร์มามากแล้ว ไม่ว่าอาจารย์จะมอบสิ่งใดให้ เยว่เออร์ก็ชอบทั้งนั้น”
“แม่หนูนี่นะ!”
ทว่าวันนี้คือวันอภิเษกสมรสของนาง ย่อมต้องตระเตรียมของกำนัลแสดงความยินดี
หนานซู่ไหวล้วงหยิบเอาตราหยกสีเขียวออกมาจากเสื้อคลุมบริเวณอกออกมาสองชิ้น
ใจของฉู่หลิวเยว่พลันกระตุกราวกับนึกอันใดบางอย่างขึ้นได้ แววตามีประกายตื่นตกใจแวบผ่าน
หรือว่า…
“ตราหยกสีเขียวอันนี้คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงฐานะผู้อาวุโสแห่งสำนักหลิงเซียว ผู้ถือครองตราหยกอันนี้จะสามารถเข้าออกสำนักหลิงเซียวได้ตามใจชอบ ทั้งยังได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้อาวุโสอีกด้วย”
เขาพูดไปพลางเงื้อข้อมือขึ้นน้อยๆ
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...