เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1805

………………..

ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์พลันระเบิดเสียงอื้ออึงแทรกบรรยากาศเย็นเยียบขึ้นมาในพริบตา!

อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อหกชิ้นหรือ!?

คงมิได้กำลังล้อเล่นอยู่ใช่หรือไม่!?

ต้องเข้าใจก่อนว่าสำหรับผู้คนจำนวนมากที่อยู่พร้อมหน้ากันที่นี่นั้น การได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งราชามาสักชิ้นก็ถือเป็นเรื่องราวใหญ่โตสะเทือนฟ้าแล้ว

มิเช่นนั้นแล้ว ในตอนนั้นคงไม่มีบรรดาตระกูลมากหน้าหลายตาถ่อไปสร้างความวุ่นวายที่สำนักหลิงเซียวเพื่อชิงเอากระบี่ชื่อเซียวมาหรอก!

พวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าซั่งกวนจิ้งเป็นช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์ จะหยิบยื่นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อไปให้ก็ย่อมอยู่ในความคาดหมาย

แต่ให้ตายพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าซั่งกวนจิ้งจะให้ของทีเดียวถึงหกชิ้น!

เขายังรับปากอีกว่าหลังจากนี้จะไปสร้างเพิ่มให้ครบทั้งหมดสิบชิ้นด้วยกัน!

ทุกวันนี้อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อกลายเป็นเหมือนหัวผักกาดไปแล้วหรือไรกัน!?

บรรดาฝูงชนต่างตกอยู่ในความวุ่นวาย

พวกเขากลับไม่รู้เลยว่าแม้นปีนั้นซั่งกวนจิ้งจะสู้รบตบมือคนเดียว อีกทั้งยังร่อนเร่ด้วยตัวเองมาโดยตลอด แต่ยามประมือกับช่างหลอมอาวุธระดับเดียวกันแล้ว เขาแทบไม่เคยพ่ายแพ้เลย

อีกทั้งทุกครั้ง เขาไม่เพียงแต่หลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อของตัวเองออกมาได้ ทั้งยังได้สมบัติที่คู่ประลองหลอมออกมาอย่างยากลำบากมาเป็นของรางวัลของผู้ชนะอยู่บ่อยๆ

แม้จะด้อยกว่าอาวุธที่เขาหลอมขึ้นเองชนิดเทียบไม่ติด แต่พวกมันก็ล้วนเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อของจริงทั้งนั้น

ดังนั้นแล้ว ในบรรดาสิ่งของทั้งหลายแหล่ อาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือเขานั้นเรียกได้ว่ามีจนถมเถโดยแท้!

อีกอย่าง อาวุธของเขายังทิ้งห่างของกำนัลชิ้นก่อนหน้าชนิดที่ว่าไม่ติดฝุ่น!

ยามมองท่าทีซั่งกวนจิ้งที่มีสีหน้าผ่อนคลาย คนจำนวนมากต่างรู้สึกเหมือนถูกตบฉาดใหญ่เข้าซีกหน้าจนชาดิก

ลำพังแค่อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อหกชิ้นนี้ก็ชนะของกำนัลส่วนใหญ่ที่ถูกมอบไปก่อนหน้านี้แล้ว!

ฉู่หลิวเยว่เองก็รู้สึกตกใจอยู่หลายส่วน

นางรู้ว่าองค์ไท่จู่คงจะมีสมบัติล้ำค่าส่วนหนึ่งอยู่ในมือ แต่มิรู้เลยว่าครานี้องค์ไท่จู่จะเอาออกมาทีเดียวถึงหกชิ้น

หลังจากตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ฉู่หลิวเยว่ก็รับของมาด้วยรอยยิ้ม

“ขอบคุณองค์ไท่จู่มากเจ้าค่ะ!”

ซั่งกวนจิ้งหัวเราะร่า

“เยว่เออร์ชอบก็ดีแล้ว! รีบสวมเร็วเข้า!”

มือขวาของฉู่หลิวเยว่สวมแหวนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมาจากหรงซิว นางครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะสวมแหวนที่องค์ไท่จู่มอบให้ลงบนมือซ้าย

พอลองแหวนไปรอบหนึ่ง ก็พบว่ามีเพียงนิ้วโป้งที่ใส่เข้าพอดี

ดูแบบนี้แล้วเหมือนกับแหวนปานจื่อก็มิปาน

บรรดาฝูงชนที่มองดูอยู่ด้านใต้ต่างมีสีหน้าซีดเผือด

ซั่งกวนเยว่ในตอนนี้มือซ้ายสวมแหวนที่เก็บซ่อนอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อไว้ทั้งหมดหกชิ้น! มือขวาสวมแหวนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นสัญลักษณ์ของผู้มีสถานะสูงศักดิ์แห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์!

ลำพังแค่ของพวกนี้ก็เพียงพอที่จะให้คนจำนวนมากในโถงตำหนักเคารพนับถือแล้ว!

ในตอนนั้นเอง หนานซู่ไหวก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“ผู้อาวุโสซั่งกวนออกโรงส่งมอบของกำนัลชิ้นใหญ่ขนาดนี้ ทำเอาข้าเหงื่อตกเลยเชียว!”

บรรดาฝูงชนได้ยินดังนั้นก็หันไปมอง

เจ้าสำนักหลิงเซียวคิดจะส่งมอบสิ่งใดกัน?

คิ้วโก่งของฉู่หลิวเยว่เลิกเป็นวงโค้ง

“อาจารย์ให้ของแก่เยว่เออร์มามากแล้ว ไม่ว่าอาจารย์จะมอบสิ่งใดให้ เยว่เออร์ก็ชอบทั้งนั้น”

“แม่หนูนี่นะ!”

ทว่าวันนี้คือวันอภิเษกสมรสของนาง ย่อมต้องตระเตรียมของกำนัลแสดงความยินดี

หนานซู่ไหวล้วงหยิบเอาตราหยกสีเขียวออกมาจากเสื้อคลุมบริเวณอกออกมาสองชิ้น

ใจของฉู่หลิวเยว่พลันกระตุกราวกับนึกอันใดบางอย่างขึ้นได้ แววตามีประกายตื่นตกใจแวบผ่าน

หรือว่า…

“ตราหยกสีเขียวอันนี้คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงฐานะผู้อาวุโสแห่งสำนักหลิงเซียว ผู้ถือครองตราหยกอันนี้จะสามารถเข้าออกสำนักหลิงเซียวได้ตามใจชอบ ทั้งยังได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับผู้อาวุโสอีกด้วย”

เขาพูดไปพลางเงื้อข้อมือขึ้นน้อยๆ

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์