………………..
ฉู่หลิวเยว่ฟังด้วยความรู้สึกตื่นตะลึงที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
มิน่าเล่า!
ที่แท้นางก็ได้เห็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ตัวเองไม่รู้เท่านั้น!
อ่อก!
บริเวณด้านล่างพลันมีคนผู้หนึ่งกระอักเลือดออกมา ร่างกายทรุดลงไปกับพื้น
คนที่อยู่ข้างเขาขมวดคิ้วในบัดดล เอ่ยว่า
“พระชายา! พวกเรามาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อแสดงความยินดีโดยเฉพาะ ท่านโจมตีกันเช่นนี้ออกจะไม่เหมาะสมไปหน่อยกระมัง?”
แท้จริงแล้วคนผู้นั้นต้านรับแรงกดดันอันมหาศาลของคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไม่ไหว โลหิตไหลพล่านอยู่พักหนึ่งจึงกระอักเลือดออกมา
คิ้วโก่งดำของฉู่หลิวเยว่เลิกขึ้นน้อยๆ ราวกับประหลาดใจอยู่ไม่น้อย
“อื้อ? เมื่อครู่ข้าแค่ยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งขึ้นมาเท่านั้น แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ? ข้ายังคิดอยู่เลยว่าคนที่มาที่นี่ล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับสูงสุดในอาณาจักรเสิ่นซวี่ทั้งนั้น ที่แท้ข้าเข้าใจผิดไปหรือนี่? ช่างน่าละอายเสียจริง!”
พูดไปพลาง นางก็หยิบขวดหยกออกมาใบหนึ่งส่งให้เยี่ยนชิง
“นี่คือโอสถฟื้นฟูปราณ รีบเอาไปให้ท่านผู้นั้นรับยาเสีย!”
เยี่ยนชิงยื่นสองมือรับขวดโอสถมาด้วยท่าทียำเกรงยิ่ง
ตอนนี้ ไม่เพียงแต่คนที่กระอักเลือดออกมา กระทั่งคนพูดเองก็แทบจะหายใจไม่ออกแล้ว
เจ้าละอายใจหรือ?
นี่เจ้าละอายใจตรงไหนกัน!
เมื่อครู่นี้ดูอย่างใดก็จงใจทำชัดๆ!
ในตอนที่คนผู้นั้นกำลังจะเอ่ยปากขึ้นมาอีกครานั่นเอง หรงซิวก็วางจอกสุราในมือลง
เคร้ง
“วันนี้คือวันอภิเษกสมรสของข้ากับเยว่เออร์ จักเห็นเลือดไม่ได้ เยี่ยนชิง เอาตัวออกไป”
“ขอรับ!”
เยี่ยนชิงมองไปทางคนที่กระอักเลือด
“เชิญท่าน…“
คนผู้นั้นถูกเยี่ยนชิงจดจ้องก็สั่นไปทั่วร่างโดยไม่รู้ตัว พลันพูดอันใดไม่ออกสักคำ จึงกลืนเลือดในปากตัวเองลงไปอย่างยากลำบาก ก่อนจะลากสภาพร่างอันระโหยโรยแรงของตัวเองออกไป
ตอนที่เดินจากไป ฝีเท้าของเขาซวนเซไม่มั่นคงราวกับยังไม่หายดี
บรรดาฝูงชนต่างเงียบสงัดในบัดดล
สองสามีภรรยาคู่นี้… ช่างเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเสียจริง!
เดิมนึกว่าพวกเขาจะฟังคำพูดคุยก่อนหน้านี้แบบไม่เก็บมาใส่ใจ คงไม่เอาเรื่องกันถึงในนี้ขึ้นมาจริงๆ
ใครจะไปรู้เล่าว่าซั่งกวนเยว่จะเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น ทั้งยังลงมืออย่างเปิดเผยต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเช่นนี้!
ส่วนหรงซิวเองก็เป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร!
พูดได้แค่ว่าคนที่ถูกซัดเมื่อสักครู่นั้นช่างโชคร้ายโดยแท้
แต่การเชือดไก่ให้ลิงดูครานี้ก็ทำให้ผู้คนที่อยู่ที่นี่ตื่นตัวขึ้นมาทันใด
สองคนนี้…
เป็นคนที่เข้าไปกร่างด้วยของจริง!
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนจะเก็บคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งกลับไป มุมปากนางวาดยกเป็นเส้นโค้งจางๆ
อืม ใช้ได้ดีทีเดียว
“เยว่เออร์ เวลากระชั้นชิด พ่อเลยไม่มีอันใดดีๆ มอบให้แก่เจ้า ไม่กี่วันก่อนเลยขอให้ผู้อาวุโสซั่งกวนช่วยหลอมจี้ขึ้นมาเส้นหนึ่ง พ่อขอมอบสิ่งนี้ให้เจ้า!”
ฉู่หนิงเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ก่อนจะยื่นกล่องหยกขนาดเท่าฝ่ามือไปให้
ทว่าในสายตาของคนที่มาร่วมงานวันนี้แล้วดูธรรมดายิ่งนัก กระทั่งนับว่าเป็นของคุณภาพต่ำเลยด้วยซ้ำ
บรรดาฝูงชนต่างพร้อมใจกันพรูลมหายใจออกมา
…ในที่สุดก็มีของธรรมดาเสียที!
นี่แหละคือระดับของที่พวกเขาสมควรมอบให้!
ฉู่หลิวเยว่กลับมิได้ใส่ใจในเรื่องพวกนั้น นางรับกล่องหยกมาด้วยสองมือ ก่อนจะเปิดออก
น้ำเต้าสีเขียวหยกขนาดเล็กลูกหนึ่งห้อยเรียงร้อยด้วยเส้นด้ายสีแดง
ภายในน้ำเต้าหยกมีกระแสสีแดงเจือจางลอยละล่อง
นางหยิบน้ำเต้าหยกขึ้นมา
สายตานับไม่ถ้วนต่างหยุดอยู่ที่น้ำเต้าหยก
ใครบางคนถึงหัวเราะลั่นออกมาอย่างอดไม่ไหว
นี่มันอันใดกัน!
วัสดุที่ใช้ทำกล่องหยกเป็นของพื้นๆ ก็แล้วไปเถอะ อย่างใดเสียมันก็เป็นแค่ภาชนะบรรจุของกำนัล
แต่น้ำเต้าหยกชิ้นนี้… คุณภาพมันก็ไม่เท่าไรนี่นา!
ดูสีของมันที่มีจุดด่างดวงนั่นสิ ช่างน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่งโดยแท้
เหตุใดถึงได้เอาของแบบนี้มาส่งมอบให้กัน?
ซั่งกวนเยว่ไม่อับอายขายขี้หน้าคนบ้างหรือไร?



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...