………………..
ยังมีคนมาเพิ่มอีกหรือ!
เมื่อบรรดาฝูงชนได้ยินเสียงนี้ ก็พากันทยอยหันไปมองด้านนอกประตูใหญ่
เหตุใดงานพิธีอภิเษกสมรสครานี้เหมือนจะยิ่งครื้นเครงรื่นเริงขึ้นเรื่อยๆ หนอ
“ป่านนี้แล้ว คนที่มาเป็นใครกัน”
“ไม่รู้สิ… ตระกูลที่มีการติดต่อกับพระราชวังเมฆาสวรรค์ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ก็น่าจะมากันหมดแล้วหนา?”
ในใจของคนจำนวนมากเปี่ยมไปด้วยการคาดเดาไปต่างๆ นานา
ในไม่ช้า เงาร่างนั้นก็ทะยานจากขอบฟ้ามาปรากฏตัวเบื้องหน้าตำหนัก!
ความเร็วของเขาว่องไวปราดเปรียวมาก ถึงขั้นที่ว่าคนรับผิดชอบขานชื่อด้านนอกยังไม่ทันได้ส่งเสียง
ภายในตำหนักเงียบสนิท
สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่คนมาใหม่
เขาเป็นบุรุษอายุอานามสี่สิบกว่าเห็นจะได้ ร่างสูงใหญ่กำยำ โครงหน้าคมสันกรามชัด
ในตอนนั้น บนดวงหน้าของเขาแฝงด้วยรอยยิ้มกว้างขณะเดินเข้ามาด้านใน
“นี่ใครกัน?”
“ไม่รู้จัก…แต่ดูจากไอรัศมีที่แผ่ออกมาจากตัวแล้วเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดา…”
“ในอาณาจักรเสิ่นซวี่มีคนฝีมือยอดเยี่ยมเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
…
อี้เจานั่งหลังตรง สองตาจับจ้องคนมาใหม่เขม็ง
หรงซิวกับฉู่หลิวเยว่หยัดกายลุกขึ้นพร้อมกัน
หรงซิวอมยิ้มที่มุมปาก
ทันใดนั้นก็มีคนนึกอะไรขึ้นได้ สูดลมหายใจหนาวเหน็บเข้าปอดทันควัน
โหมวเจินรึ!
หรือว่าจะเป็น…
โหมวเจินหัวเราะเสียงกึกก้อง
“เจ้าก็รู้ว่าช่วงนี้เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์เกิดเรื่องมากมาย เลยมาสายไปหน่อย แต่พวกเจ้าวางใจเถอะ งานอภิเษกสมรสครั้งนี้ ข้าไม่มีทางลืมแน่นอน!”
สุ้มเสียงของเขาเต็มเปี่ยมยิ่ง สะท้อนก้องไปมาทั่วทั้งตำหนักจนอย่างชัดเจน ลอยกระทบเข้าหูทุกคน
ยามได้ยินคำว่า “เกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์” แทบทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสีในบัดดล!
นั่นมิใช่อาณาเขตของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงหรอกหรือ
พอเอามาเชื่อมกับเหตุการณ์ที่หรงซิวเรียกเขาว่าผู้อาวุโสโหมวเจินก่อนหน้านี้แล้ว…
“นั่นคืออัจฉริยะจากเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงที่โดดเด่นอยู่ระยะหนึ่งเมื่อหมื่นปีก่อนผู้นั้นไม่ใช่หรือ?”
“โหมวเจิน…โหมวเจิน! เหตุใดถึงเป็นเขาไปได้? ในข่าวลือว่าเขาเสียสติไม่ใช่…”
คำพูดที่เหลือนั้น คนผู้นั้นกลับมิกล้าเอ่ยออกมา
เพราะว่าโหมวเจินหันมาทางนี้เป็นนัยว่าได้ยินเรียบร้อย
ดวงหน้าของเขายังคงเปื้อนยิ้ม แค่ว่ายามกวาดสายตามองไปกลับแฝงด้วยแรงกดดันอันหนักหน่วงชวนอกสั่นขวัญแขวน
“ดูเหมือนทุกท่านจะยังไม่ได้ข่าว”
โหมวเจินกวาดสายตาไปรอบตัว ก่อนเอ่ยพลางเลิกคิ้ว
“ในเมื่อวันนี้ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ข้าก็มีเรื่องจะกล่าวกับทุกคนพอดี ข้าคือโหมวเจิน แล้วก็เป็นประมุขคนใหม่แห่งเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง! ภายหลังหากได้เจอทุกท่าน ก็อย่าจำผิดอีกเล่า”
ประมุข?
ใครบางคนเอ่ยถามขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ไหว
“ประมุขเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงมิใช่โหมวหยางหรอกหรือ?”
“อ้อ โหมวหยางน่ะรึ? เขาจัดฉากสังหารคนในเผ่า เป็นนักโทษของเผ่าเราไท่ซวีเฟิ่งหลง บัดนี้ถูกถลกเกล็ดย้อน โดนจับขังอยู่ในคุกแล้ว เหตุใด? ทุกคนอยากเจอเขาหรือ?”
หน้าคนพูดซีดเผือดลงทันตา
“ปะ…เปล่า…ข้าก็แค่…ก็แค่ถามไปอย่างนั้น”
ปฏิกิริยาตอบสนองของผู้อื่นเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนผู้นี้สักเท่าไร
เหมือนฟ้าผ่าลงดินอย่างจัง!
จู่ๆ โหมวเจินที่มีข่าวลือว่าตายไปนานแล้วปรากฏตัวขึ้น ทั้งยังขึ้นครองตำแหน่งประมุข กลับกันแล้วโหมวหยาง— ผู้ที่รั้งตำแหน่งประมุขมาหลายร้อยปี กลับกลายเป็นนักโทษในคืนเดียว ทั้งยังต้องโทษประหารด้วย?
ความจริงจะโทษว่าพวกเขารู้ข่าวล่าช้าก็ไม่ได้ เป็นข่าวของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงต่างหากที่หลุดรอดออกมาให้ได้ยินยากมาก
ตำแหน่งที่ตั้งของเกาะมังกรศักดิ์สิทธิ์พิเศษอย่างมาก คนธรรมดาย่อมไม่รู้ว่ามันตั้งอยู่ที่ไหน
ยิ่งไปกว่านั้นเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงเองก็หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีมาแต่ไหนแต่ไร หากมิใช้กลโกงใด เผ่ามนุษย์ก็แทบไม่สามารถรู้อะไรได้เลย
ที่สำคัญที่สุดก็คือช่วงนี้โหมวเจินกำลังสาละวนอยู่กับการจัดระเบียบภายในเผ่าจึงตั้งใจปิดข่าว



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...