เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1813

………………..

เงาร่างของหนานอีอีและลั่วเหยี่ยนหายวับไปในพงไพร

ส่วนกลุ่มหมอกดำที่แปลกประหลาดอันเข้มข้นนั้น หลังมันกลืนกินคนทั้งสองไปแล้ว ก็ค่อยๆ อันตรธานหายไปไร้ร่องรอย

ท่ามกลางป่าไพรเงียบสงัดไร้สุ้มเสียง

ลมเอื่อยเฉื่อยคล้อยผ่านมา พัดเป่าเอาเงาไม้ที่เป็นจุดเป็นดวงขยับไหว

ธารน้ำไหลเอื่อยส่งเสียงแว่วแผ่ว แหวนหยกพกกระทบกันดังกรุ๋งกริ๋ง

ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังฟื้นฟูกลับไปเป็นดั่งเช่นก่อนหน้า

ราวกับว่ามิมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

ห้วยหนองสีดำเข้มแผ่ขยายอาณาเขตไปสุดลูกหูลูกตา

ต้นกกสีขี้เถ้าปะทะสายลมจนสะบัดไหวไปตามแรง

ยามปรายตามองก็พบว่า ฟ้าดินใหญ่โตโอฬารนัก

หนานอีฝานยืนอยู่ข้างห้วยหนองนั้น

หากก้าวไปข้างหน้าต่ออีกก้าว เขาก็จะเหยียบลงพื้นห้วยหนองอันดำมืดน่าหวาดหวั่นอยู่รอมร่อ

ลมปราณอันหนาวยะเยือกพุ่งมาโอบล้อมตัวเขาจากทั่วทุกสารทิศ

ภายในลมปราณผสมปนเปด้วยกลิ่นคาวเลือดจางๆ และกลิ่นเน่าเหม็นของอะไรต่อมิอะไร ยามสูดดมเข้าไปจึงชวนให้รู้สึกคลื่นไส้นัก

หนานอีฝานนิ่วหน้า พยายามต้านทานแรงกระเพื่อมไหวในอกสุดกำลัง

หากมิใช่เพื่ออวี่สิงแล้วล่ะก็ ให้ตายอย่างไรเขาก็ไม่มีทางมาเยือนที่นี่…

ทว่าบัดนี้ ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

“ประมุขตระกูลหนาน หนานอีฝาน ขอเข้าพบเจ้าสำนัก”

หนานอีฝานเอ่ยต่อ

“ประมุขตระกูลหนาน หนานอีฝาน ขอเข้าพบเจ้าสำนัก”

สี่ทิศรอบด้านเงียบสงัด

หนานอีฝานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกชายผ้าคลุมขึ้น แล้วคุกเข่าลงกับพื้น!

“ประมุขตระกูลหนาน หนานอีฝาน ขอเข้าพบเจ้าสำนัก!”

บริเวณแห่งนั้นราวกับถูกตัดขาดจากโลกาฟ้าดินไปแล้วก็มิปาน สุ้มเสียงของหนานอีฝานจึงโดดเดี่ยวและไร้อำนาจเป็นพิเศษ

แต่เขาคาดเดาถึงสถานการณ์นี้ไว้ก่อนแล้ว จึงทำได้แค่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่า!

จากกลางวันจนกลางคืน

จากย่ำค่ำจนรุ่งสาง

เขาคุกเข่าร้องขออยู่ข้างหนองน้ำมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว

จนกระทั่งคอของเขาเริ่มแหบพร่า พูดแทบไม่เป็นคำแล้วนั่นเอง ในที่สุดต้นกกเบื้องหน้าเขาพลันโบกสะบัดอย่างรุนแรง!

ใยฝ้ายลอยละล่องไปในอากาศ ก่อนร่วงลงใจกลางหนองน้ำ ในไม่ช้าก็ถูกแรงกระเพื่อมของโคลนตมดูดกลืนลงไป

ท่ามกลางความเลือนราง ปรากฏหัวกะโหลกหนาขาวโพลนอันหนึ่ง

หนานอีฝานทำราวกับว่ามองไม่เห็น

เขาเพียงแค่เงยศีรษะขึ้นมา สองตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดแดงก่ำจดจ้องไปยังเบื้องหน้าเขม็ง!

รอบตัวราวกับเงียบสงัดลงยิ่งกว่าเก่า

ดวงใจของหนานอีฝานราวกับถูกอะไรบางอย่างบีบเค้นอย่างแรง โลหิตในกายเองพลันหยุดไหลเวียนชะงัก

คอของเขาเจ็บจนแสบร้อน ทั่วร่างแข็งทื่อ ในอกวูบโหวง

ทว่าตอนนั้นเอง เขามิอาจฝืนทนไว้ได้อีกต่อไป

ในที่สุด สุ้มเสียงทุ้มต่ำแหบแห้งพลันดังแว่วขึ้นมา

เขาตอบกลับทันทีว่า

“เจ้าสำนัก ท่านโปรดช่วยข้าด้วยเถิด!”

สุ้มเสียงคล้ายว่ากำลังหัวเราะ

“หนานอวี่สิงเส้นลมปราณขาดสะบั้น กลายเป็นคนพิการไปโดยสมบูรณ์ ต่อให้ฝืนใช้แรงฟื้นฟู อย่างดีที่สุดก็ฟื้นฟูวรยุทธ์ก่อนหน้ากลับคืนมาได้สามส่วน เจ้าอย่าได้เสียเวลาอีกเลย”

หนานอีฝานราวกับจมดิ่งไปในถ้ำน้ำแข็งชั่วพริบตา

“เหตุใด เหตุใดถึงฟื้นได้แค่สามส่วนเล่า? ท่านเจ้าสำนักมีทักษะเลิศล้ำ”

“หากเป็นคนธรรมดาย่อมไม่มีปัญหา แต่จุดสำคัญคือคนที่ลงมือครานี้ดันเป็นหรงซิวน่ะสิ…เขาจงใจให้บุตรชายเจ้ามีสภาพอยู่ไม่สู้ตาย จึงจงใจใช้เล่ห์เหลี่ยม ต่อให้เป็นข้า แต่จะแก้กลของเขาให้หมดจดได้ ก็ยังต้องใช้เวลาไม่น้อย…”

หนานอีฝานนัยน์ตาสว่างวาบ ราวกับคว้าความหวังสุดท้ายได้ก็มิปาน เจ้าสำนักยังพอมีหนทางนี่เอง!

แต่ไม่ทันรอให้เขาเอ่ยปาก อีกฝ่ายก็กล่าวต่อว่า

บทที่ 1816 ตัวเลือก 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์