เฉินอีมองเขาแวบหนึ่ง
“กินข้าวให้มันดีๆ”
สิบสามหดคอกลับไปก่อนตอบอย่างรู้ความ
“อ้อ”
ดูเหมือนพี่ใหญ่จะยังไม่อยากบอกตอนนี้…
แต่ว่าพี่ใหญ่มักวางแผนกลยุทธ์ในกระโจมค่ายมาแต่ไหนแต่ไร ย่อมต้องตัดสินใจไว้แล้ว คงไม่ต้องถึงมือเขาให้กังวล
สายตาของสิบสามเลื่อนลงไปหยุดตรงจอกสุราด้านข้าง
ด้านในจอกเปี่ยมด้วยสุราสีใสกระจ่าง แสงอาทิตย์สะท้อนบนคลื่นผิวน้ำเป็นแววระยิบระยับ
เขาเลียริมฝีปาก แววตาฉาบไปด้วยความใคร่รู้อยู่หลายส่วน
“พี่ใหญ่ ข้าดื่มสุราได้หรือไม่?”
เฉินอีไม่แม้แต่จะหันศีรษะกลับมาด้วยซ้ำ
“ไม่ได้”
สิบสามเดาผลลัพธ์นี้ได้อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยังลองโลเลดิ้นรนอีกรอบ
“เช่นนั้น…แค่อึกเดียว?”
เฉินอีมองเขาแวบหนึ่ง
“วิ่งชนะข้าได้เจ้าค่อยดื่ม”
สิบสามรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาโดยพลัน
พี่ใหญ่ก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง!
อยากแข่งวิ่งชนะพี่ใหญ่…ใครจะไปรู้ว่าชาติไหนถึงจะชนะ!
ยามเห็นสีหน้าท่าทางผิดหวังของเขา สือฟางพลันรู้สึกทนไม่ได้
“พี่ใหญ่ น้องสิบสามยังเป็นแค่เด็กหนา! ให้เขาดื่มสักอึกคงไม่เป็นไรหรอก! พวกเราก็อยู่กันตั้งเยอะแยะ!”
นัยน์ตางดงามของน้องแปดเป็นประกายแวววับ นางหันไปชูนิ้วโป้งให้สือฟาง
ใจกล้าไม่เบาเลย
ไม่เพียงแต่กล้าออกความเห็นกับพี่ใหญ่ ยังกล้าออกความเห็นเกี่ยวกับอนุญาตให้น้องสืบสามดื่มสุราด้วย
สือฟางถูกนางมองแบบนั้น ใจพลันเต้น “ตึกตัก” จากนั้นถึงได้นึกถึงเรื่องน่าอดสูในอดีต จึงรีบแก้ตัวว่า
“ไม่ใช่นะ ความหมายของข้าก็คือ หากพี่ใหญ่คิดว่าไม่เหมาะสม เช่นนั้นก็ช่างมันเถิด! ช่างมัน! สิบสาม หากเจ้าอยากลองดื่มสุราจริงๆ พี่สิบบ่มสุราข้าวหมักให้เจ้าดื่มเป็นอย่างไร?”
สิบสามแสดงสีหน้าอับจนคำพูดออกมาอย่างหาดูได้ยาก
น้องแปดกลอกตาอีกรอบ
อู่เหยาเองก็หยุดมือที่คีบตะเกียบในที่สุด
อวี่จิ่วจิ้มตัวเขา
“สิบสามทึ่มทื่อไปแล้ว สือฟางเองก็เลอะเลือนรึนี่?”
สือฟางคงไม่ได้ปลูกต้นโง่ไปด้วยตอนทำสวนหรอกกระมัง?
คำพูดเทือกนั้นยังพูดออกมาได้

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...