………………..
เดิมฉู่หลิวเยว่คิดอยากจับตัวคนกล่อมมาทุบสักที หากแต่ร่างกายปวดร้าวนัก หมดสิ้นเรี่ยวแรงโดยสมบูรณ์ เอ่ยงึมงำไปได้สองประโยคก็หลับไปในไม่ช้า
หลังกล่อมคนให้หลับได้แล้ว หรงซิวถึงได้ลุกขึ้น
เขาสวมชุดตัวในสีขาวหิมะอย่างสบายๆ ไม่ใส่ใจนัก เผยให้เห็นกล้ามอกแข็งแกร่งดุจหินก้อนใหญ่ก็มิปาน
เห็นได้ชัดว่าเขายังไม่ได้นอนเลยทั้งคืน แต่จิตใจกลับดีเยี่ยมอย่างยิ่ง
ระหว่างคิ้วเรียวที่ให้ความรู้สึกสูงศักดิ์ถึงกับเปี่ยมด้วยความกระปรี้กระเปร่ามากกว่าเก่า
แน่นอนเลยว่าพระโอรสอารมณ์ดีมากทีเดียว
เขาก้าวยาวๆ สาวเท้าไปยังข้างหน้าต่างอย่างว่องไว
เมื่อรับรู้ได้ถึงการมาของเขา เสวี่ยเสวี่ยก็หยัดตัวขึ้นอย่างยินดี
จะเปิดประตูแล้วหรือ
ยอมให้มันเข้าไปแล้วใช่หรือไม่
สุ้มเสียงเย็นเฉียบของหรงซิวลอยแว่วเข้ามา
“ดูเจ้าจะว่างมากสินะ เช่นนั้นไปวิ่งที่ทะเลทรายจันทราสีชาดสักรอบไป”
เสวี่ยเสวี่ยพลันรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า เจ้าสิงโตถึงกับตกอยู่ในสภาพย่ำแย่
ทะเลทรายจันทราสีชาดรึ!
ต้องไปอีกหรือ?
ไม่เอา!
มันตะกุยกำแพง ร้อง “โฮก” เสียงเบาๆ หวังจะปลุกเจ้านายอีกคนให้ตื่นมาจากห้วงสติสุดท้าย
ในที่สุด สุ้มเสียงของหรงซิวพลันแว่วขึ้นมาอีกรอบ
“เพิ่มเป็นสองเท่า”
ไม่เพิ่มสองเท่า ไม่เอา!
มันยังไม่ทันได้ไปเลยด้วยซ้ำ!
เสวี่ยเสวี่ยวิ่งหนีไปอย่างตื่นตระหนกเสียจนกลายเป็นเส้นสีขาวบนผืนฟ้า จากนั้นห็หายวับลับไปจากสายตา
ไกลออกไป อวี๋โม่ถองเรียกเยี่ยนชิง
“จิ๊ เห็นรึเปล่านั่น? ถ้าเมื่อวานเจ้าดึงดันต่อ ก็ได้เจอชะตากรรมเดียวกับมันแล้ว!”
เยี่ยนชิงสีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย
“รู้แล้ว”
…
ฉู่หลิวเยว่ตื่นขึ้นมาอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว
ทันทีที่นางขยับตัว หรงซิวก็เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า ยื่นมือออกมาจากผ้าห่ม
แขนเพรียวเกลี้ยงเกลาดุจหยกที่ตัดกับผ้านวมปักดิ้นสีแดงดูดึงดูดตายิ่งนัก
แววตาของหรงซิวมืดครึ้ม ทว่าสุดท้ายก็ยังคงยับยั้งตัวเองไว้ได้ ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่จากด้านข้างส่งไปให้
เขาเอนกายน้อยๆ อุ้มคนออกมาจากผ้านวมอย่างอ่อนโยนและระมัดระวัง ก่อนจะช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จเรียบร้อย
แม้เรือนผมดำสนิทจะสยายลงมาปิดบังผิวกายส่วนใหญ่ของนางไว้ แต่ก็ยังมองเห็นรอยแดงได้จางๆ
ดวงหน้าของฉู่หลิวเยว่แดงระเรื่อเล็กน้อย เดิมคิดจะสวมชุดเอง แต่ถูกคนอุ้มออกมาจากผ้านวม ทั้งง่วงงุนและอ่อนล้า ขัดขืนอยู่สองสามทีก็ปล่อยเลยตามเลย
ปล่อยให้เขาจัดการรับใช้นางตั้งแต่หัวจรดเท้า
สวมชุดเสร็จแล้ว หรงซิวก็เทน้ำชา ก่อนจ่อริมฝีปากนาง
“แก้คอแห้ง”
คำพูดนี้ฟังดู…
เหตุใดถึงฟังดูไม่ค่อยถูกต้องนัก?
เมื่อมองดูอย่างละเอียดแล้ว นางพลันรู้สึกโมโหขึ้นมาไม่น้อย
ทำไมตัวนางทรมานเกือบตาย แต่หรงซิวกลับดูกระปรี้กระเปร่าขนาดนี้เล่า!
“อ้าปาก”
หรงซิวราวกับรู้ว่านางกำลังคิดอะไร คิ้วกระบี่เลิกขึ้นน้อยๆ ถ้วยชาถูกยื่นไปข้างหน้า
ไอน้ำสีขาวที่ลอยฉุยขึ้นมาบดบังดวงหน้าใสกระจ่างไร้สิ่งใดเทียบของเขา
ฉู่หลิวเยว่เองก็กระหายน้ำเช่นกัน จึงยึดมือเขาเอาไว้ ก่อนจิบชาเข้าไปทีละน้อย
อุณหภูมิของชากำลังดี อุ่นร้อนและชุ่มคอนัก
ฉู่หลิวเยว่พลันรู้สึกสบายตัวขึ้นมามากทีเดียว
“เด็กดี”
หรงซิววางถ้วยชากลับไป ก่อนเอ่ยถามว่า
“ยังอยากนอนต่อหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายศีรษะ



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...