………………..
พระราชวังเมฆาสวรรค์นั้น กว้างใหญ่ไพศาลกว่าที่ฉู่หลิวเยว่คาดไว้มาก
นอกจากยอดเขาซู่หมิงที่ตั้งอยู่บนเกาะหลักแล้ว ยังมีหมู่เกาะเล็กๆ มากมาย กระจัดกระจายอยู่โดยรอบ จนคล้ายกับดาราจักรบนฟากฟ้า
โดยพื้นฐานแล้ว เหล่าบุคคลสำคัญทั้งหมดในพระราชเมฆาสวรรค์ล้วนอาศัยอยู่บนเกาะหลัก ส่วนข้าราชบริพารคนอื่นๆ มีความแข็งแกร่งและระดับต่ำกว่า ก็จะแบ่งไปอยู่ตามเกาะเล็กๆ เหล่านั้น ที่กระจายอยู่รอบๆ
และขณะเดียวกัน เกาะเล็กๆ เหล่านี้ก็เป็นกุญแจสำคัญที่เชื่อมต่อพระราชวังเมฆาสวรรค์ และอีกยี่สิบแปดเผ่าที่เหลือไว้ด้วยกัน
ผู้คนจากยี่สิบแปดจำต้องแวะเวียนมาถึงเกาะเล็กก่อน จึงจะเข้าสู่เกาะหลักได้
โดยทั่วไปแล้ว พระราชวังเมฆาสวรรค์นั้นมีการป้องกันเข้มงวดมาก หากต้องการเข้ามาที่นี่ จำต้องต้องผ่านการตรวจสอบหลายระดับ
และถ้าไม่ได้ถูกเชิญ ก็ยากที่คนนอกจะผ่านเข้ามาได้
“ช่วงนี้ท่านประมุขก็ยังอยู่ที่ยอดเขาซู่หมิงหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถาม
หรงซิวพยักหน้า
“ที่โถงด้านหลังตำหนักสักการะเทพ ล้วนมีคนเฝ้าระวังอย่างหนาแน่น”
“เช่นนั้น…ก็หาสาเหตุที่เขานอนหมดสติได้แล้วรือ?”
ว่าแล้วก็แปลก ผู้ที่แข็งแกร่งระดับแนวหน้าเช่นนี้ ไม่มีทางป่วยล้มพับไปเองโดยไร้สาเหตุแน่นนอน
นางจำได้เพียงว่า ก่อนหน้านี้เยี่ยนชิงมาที่สำนักวิชาเพื่อขอให้หรงซิวกลับไป โดยกล่าวว่าท่านประมุขหมดสติไร้การตอบสนอง อาการเข้าขั้นวิกฤต
และหลังจากได้พบกับหรงซิวอีกครั้ง นางก็ยุ่งจนไม่มีเวลาถาม
กระทั่งหรงซิวเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา นางถึงฉุกคิดได้
ดังนั้นหรงซิวจึงเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฉู่หลิวเยว่ฟังคร่าวๆ
“…ก็คงประมาณนี้ แม้จะรู้ว่าเป็นฝีมือใคร แต่ด้วยเวลาอันน้อยนิด ย่อมไม่อาจจัดการได้”
มิเช่นนั้น คงไม่มุทะลุทุ่มสุดตัวถึงเพียงนี้
หรงซิวยิ้มเยาะเบาๆ เป็นอันยอมรับ
“…มันเกี่ยวกับข้าหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
ถ้ำปีศาจดำมุ่งเป้ามาที่นางโดยตลอด และนางเองก็รู้ดี
ซึ่งเหตุผลก็คือ…แน่นอนว่าต้องเป็นเนื้อเพลงฉินบทนั้น
แต่เหมือนว่าพวกเขาจะไม่มีเหตุผลที่ต้องพุ่งเป้าไปทางหรงซิวเลย
ที่เป็นไปได้มากที่สุด อย่างไรก็ต้องเกี่ยวกับนางอยู่ดี
หรงซิวลูบใบหูของนางเบาๆ
“จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรหรอก แค่หลังจากที่เจ้าจากไป ข้าก็ไปเยี่ยมชมถ้ำปีศาจทมิฬเป็นการส่วนตัว”
ฉู่หลิวเยว่ตากระตุก
ฟังแล้ว…ดูจะไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไร
“นี่คือสาเหตุที่หลายปีมานี้ ถ้ำปีศาจทมิฬซ่อนกายจากโลกภายนอกรึ?”
หรงซิวครุ่นคิดชั่วขณะ
“อาจจะมั้ง ยามนั้นข้าเพียงเล่นงานมั่วสือเซียนปางตาย และสังหารคนของเขาไปสองสามคน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เหลือแล้ว ด้วยจุดยืนของพวกเขา โดยรวมแล้วไม่จำเป็นต้อทำถึงขนาดนั้นเลยก็ได้ พอมาดูตอนนี้ นี่ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่พวกเขาเลือกเองทั้งนั้น”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกเบาๆ
เล่นงานเจ้าบ้านถึงปางตาย สังหารลูกน้องคนสนิทของเขาไปหลายคน…นั่นมันถ้ำปีศาจทมิฬเชียวนะ! เมื่อเทียบกับตระกูลขุนนางชั้นหนึ่งอื่นๆ ก็ไม่ด้อยกว่ากันเลย!
เรื่องอัศจรรย์พันลึกเช่นนี้ เมื่อออกมาจากปากของหรงซิวแล้ว ดูกลายเป็นเรื่องง่ายดาย มิได้หนักหนาเลยสักนิด
เขานี่มัน…
“แต่ทว่า…เมื่อไม่กี่ปีก่อน ข้ายังจำได้ว่าตอนนั้นเจ้าเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งระดับเทพ เจ้าชนะได้อย่างไร?”
สิ่งที่ทำให้หัวใจของฉู่หลิวเยว่สับสนฉงนจิต ความจริงแล้วคือประเด็นนี้
ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ นางไม่เคยรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของหรงซิวเลย
เขาดูเหมือน…คนที่สามารถระเบิดพลังในการต่อสู้ขั้นสูงออกมาได้ตลอดเวลา
ท่าทีของหรงซิวเปลี่ยนไปเล็กน้อย พลันเลิกคิ้วขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ
“ความจริงตอนนั้นมันก็แค่เรื่องบังเอิญ ยามข้าไปที่นั่น พวกเขาเหมือนกำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมบาง ทั้งมั่วสือเซียนและคนของเขาต่าง ล้วนถูกจำกัดพลังปราณไว้ ไม่สามารถใช้พลังได้เต็มที่ ดังนั้น…”
เสียงทุ้มหยุดชะงัก
“เจ้าเองก็น่าจะเคยได้ยิน ว่าพวกเขามีวิชาการฝึกพรตที่แปลกยิ่ง แม้จะทำให้ขอบเขตพลังปราณและความแข็งแกร่งพัฒนาได้เร็วขึ้น แต่ก็มักจะมีปัญหามากมายตามมา”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้ารับรู้



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...