………………..
ซานซานมีพรสวรรค์ด้านจอมยุทธ์ในระดับดีมาก แต่เขาไม่สนใจเรื่องการฝึกฝนสักเท่าไร แม้ต้องเฆี่ยนแส้ลงกลางหลัง เขาก็ไม่ยอมทนนั่งฝึกงกๆ งนๆ เช่นนั้นหรอก
เขาชอบทำธุรกิจมากกว่า
พูดตรงๆ ก็คือชอบหาเงินและเก็บเงิน
ในขณะที่สิบสามผู้พิทักษ์เยว่คนอื่นๆ พเนจรไปฝึกซ้อม เขากลับเป็นคนเดียวที่เดินไปตามตรอกซอกซอยในเมืองหลวงพร้อมลูกคิดในมือ
คราแรกฉู่หลิวเยว่อยากช่วยเขา พาเขากลับเข้าร่องเข้ารอย แต่พอเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์ จึงยอมแพ้ไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ นางยังมอบทรัพย์สินจำนวนมากภายใต้ชื่อของตนให้ซานซานอีกด้วย
แต่นั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นในราชวงศ์เทียนลิ่งเมื่อหลายปีก่อน
ซานซานเป็นคนฉลาดและสุขุม ยึดถือปรัชญาชีวิตของตัวเอง ไม่ว่าจะพบเจอคนแบบใด ก็สามารถผูกมิตรสหายได้ทั่ว
ดังนั้นเมื่อสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ถูกเนรเทศ จนกระจายกระจายไปคนละทาง ฉู่หลิวเยว่จึงเยว่เป็นห่วงสมาชิกคนอื่นๆ มาก แต่พอเป็นซานซานนางกลับโล่งใจ
แม้เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดีได้เสมอ
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่เรื่องของฉู่หลิวเยว่เข้าที่เข้าทางลงบ้าง นางจึงไม่ได้ถามไถ่ถึงชีวิตของซานซานสักเท่าไร
คิดไม่ถึงว่าซานซานจะทำให้นางประหลาดใจได้ถึงเพียงนี้
ครั้นมองดูจดหมายในมือ ฉู่หลิวเยว่ก็ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง
ความของเฉินอีและคนอื่นๆ นางรู้ดีว่าพวกเขาคิดอย่างไร
การกว้านซื้อทรัพย์สินนั้นเป็นเพียงคำสละสลวย
จุดประสงค์จริงๆ แล้ว คือการสร้างฐานอำนาจของตัวเองในอาณาจักรเสิ่นเสิ่นสวี่ต่างหาก!
และมันคือสิ่งที่ฉู่หลิวเยว่คิดมาตลอด
มิเช่นนั้นนางคงไม่เข้าไปโน้มน้าวหลินจือเฟยตั้งแต่แรก
นำมาถึงคำถามง่ายๆ ว่า นางสามารถอยู่ในอาณาจักรเสิ่นสวี่ได้ แต่คนอื่นๆ เล่า?
องค์ไท่จู่ เสด็จพ่อ ท่านพ่อ สิบสามผู้พิทักษ์เยว่…
คนเหล่านี้ใกล้ชิดกับนางมากที่สุด พวกเขาสามารถอยู่เคียงข้างนางได้ตลอดเวลา แต่กลับเหมือนว่าจะไม่มีเหตุผลที่สามารถอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์ตลอดได้มากพอ
หากต้องการตั้งหลักแหล่งในอาณาจักรเสิ่นสวี่จริงๆ การพึ่งพาบารมีของตัวเอง เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง!
นางยังจำคำพูดของคนเหล่านั้น ที่ได้ยินตรงเชิงเขาซู่หมิงได้ชัดเจน
ความคิดเช่นนี้ จริงๆ แล้วคงมีหลายคนที่คิดไม่น้อยเลย?
แต่หลังจากอภิเสษสมรสแล้ว คำพูดเหล่านั้นก็หายไป
อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นเพราะนางมีหรงซิว มีเหล่าผู้อาวุโส และที่สำคัญกว่านั้น ก็มีอี้เจาและโหมวเจินที่คอยสนับสนุนนาง
แต่ไม่ใช่เพราะตัวนาง
ก็จริงที่ว่านางในตอนนี้เก่งกาจและมีความสามารถมากกว่าผู้ฝึกตนส่วนใหญ่
เปี่ยมไปด้วยอนาคตสดใสในภายภาคหน้า
แต่ในอาณาจักรเสิ่นสวี่ อำนาจของคนคนหนึ่ง ล้วนถูกจำกัด
เว้นเสียว่าจักเป็นผู้ที่สามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้
แต่ยุทธภพนี้มีผู้ฝึกฝนอยู่เป็นแสนล้านคน แล้วใครมันจะกล้าขนาดนามตัวเองว่าเป็นผู้ถูกเลือกกัน?
เมื่อหลายพันปีก่อนองค์ไท่จู่รุ่งโรจน์เพียงใด?
แต่เขานั้นต่อสู้เพียงลำพัง ซึ่งในปัจจุบันอาจเทียบไม่ได้กับพวกคนชั้นสูงจากเผ่าพันธุ์เหล่านั้น
ในเมื่อวางแผนจะตั้งรกรากที่นี่แล้ว เช่นนั้น…ก็ต้องสร้างอาณาเขตของตัวเองขึ้นมา!
เฉินอียืนกุมมือมองนางเงียบๆ
จากนั้นไม่นาน ฉู่หลิวเยว่ก็เก็บจัดหมายไป
“แจ้งสิบสามผู้พิทักษ์เยว่ ในอีกสามวัน เราจะไปท่าเรือดอกท้อกัน”
ยามนี้ก็เย็นมากแล้ว แสงตะวันยามโพล้เพล้เล็ดลอดเข้ามาผ่านช่องหน้าต่าง
หรงซิวเอนกายนอนอยู่บนเก้าอี้หวาย มือหนาถือตำราไว้อย่างมั่นคง
แสงสีส้มนวลละมุน แลดูอบอุ่น เปล่งประกายแคลบแสงสีทอง สะท้อนลงบนอาภรณ์ขาวราวหิมะต้องอัสดงอันเจิดจ้า

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...