………………..
สือซานได้รับการฝึกฝนจากพี่ใหญ่มานานปี ได้รับบาดเจ็บมาก็ไม่รู้กี่ครั้ง
นอกจากนี้หากคนอื่นได้รับบาดเจ็บแล้วไม่สามารถจัดการด้วยตัวเองได้ พวกเขาก็มักจะมาหาสือซาน
เมื่อเวลาผ่านมาความชำนาญก็เพิ่มมากขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ “…”
แต่อย่างใดก็ตามเมื่อได้รับคำชม สือซานก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ดวงตาของเขาเปล่งประกาย
“ขอบคุณทุกท่านมาก”
เด็กรับใช้คนนั้นเดินกลับมาอีกครั้ง และโค้งคำนับขอโทษพวกเขาจากใจจริง
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า เมื่อนึกถึงท่าทางเคยชินของเด็กรับใช้คนนั้น อีกทั้งเขายังวางโอสถพร้อมกับผ้าพันแผลเอาไว้ที่โต๊ะชำระเงินด้วย…
เกรงว่าสถานการณ์เช่นนี้คงไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกแน่นอน
“คนเหล่านั้นเป็นใครกันหรือ คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะเผด็จการขนาดนั้น”
เด็กรับใช้ได้ยินดังนั้น ก็เผยสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที เขากวาดสายตามองรอบข้าง เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้อื่นได้ยิน เขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะพูดด้วยความขมขื่นว่า
“ฮูหยินท่านนี้ หากท่านยังอยากอยู่ในท่าเรือดอกท้อต่อไป ท่านห้ามพูดคำพูดเช่นนี้ออกมาอีกเด็ดขาดนะขอรับ!”
คำพูดอันใด?
ห้ามพูดว่าคนเหล่านั้นเผด็จการอย่างนั้นหรือ?
ฉู่หลิวเยว่แทบจะหัวเราะออกมา
อีกฝ่ายก็เผด็จการจริงๆ นั่นแหละ แม้กระทั่งคำพูดว่าเผด็จการยังไม่ให้คนอื่นพูด
“หากคนสำนักกระบี่ทมิฬได้ยินเข้า ผลที่ตามมาอาจไม่สามารถจินตนาการได้!”
“สำนักกระบี่ทมิฬ?”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น
“หากพูดไปเกรงว่าเรื่องจะยาว สำนักกระบี่ทมิฬนี้ ความจริงแล้วเพิ่งมาที่นี่ได้แค่ปีกว่าๆ ตอนนั้นพวกเขามีเพียงแค่สิบกว่าคนเท่านั้น แต่ว่าแต่ละคนมีฝีมือแข็งแกร่ง หลังจากนั้นไม่นานชื่อเสียงของเขาก็ประจักษ์ในท่าเรือดอกท้อ พวกเขาได้ตั้งรกรากกันที่นี่ อีกทั้งยังดึงผู้คนให้เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลาสั้นๆ เพียงปีกว่า พวกเขาก็กลายเป็นอันธพาลที่ทุกคนในท่าเรือดอกท้อจะต้องเชื่อฟัง”
“เมื่อครู่นี้พวกท่านก็ได้เห็นไปแล้ว ร้านค้าของพวกเราจะต้องส่งโอสถและสมุนไพรระดับสูงให้แก่พวกเขาทุกเดือน หากสินค้ามีระดับไม่สูงพอ หรือไม่สามารถจัดหาได้ตรงตามเวลา พวกเราก็จะถูกลงโทษ…”
เด็กรับใช้คนนั้นพูดเสียงต่ำมาก เมื่อพูดถึงตรงนี้ เขาก็กวาดสายตาไปรอบข้างอย่างไม่รู้ตัว ในแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและหวาดระแวง
เห็นได้ชัดว่าสำนักกระบี่ทมิฬนี้จะทิ้งปมในใจให้แก่พวกเขาเอาไว้ลึกมากทีเดียว
ฉู่หลิวเยว่เข้าใจแล้ว
ในเมื่อเป็นคำว่า “ส่ง” แน่นอนว่าไม่ได้เงิน
ไม่รู้ว่าภายในแหวนเฉียนคุนนั้นมีของวิเศษอันใดบ้าง แต่ด้วยระดับของร้านค้าแห่งนี้ ของที่ถูกส่งออกไปจะต้องเป็นของวิเศษระดับสูงแน่นอน
เพียงแค่หญ้าผสานวิญญาณ
หุบเขาวาโยโอสถของสำนักหลิงเซียวก็มีเพียงปีละเล็กน้อยเท่านั้น
แต่คนเหล่านี้กลับต้องการทุกเดือน หากไม่เตรียมให้พร้อมตรงตามเวลา เถ้าแก่ของพวกเขาก็จะต้องไปส่งโอสถด้วยตนเอง
เรื่องแบบนี้มัน…
“ผู้กุมอำนาจของสำนักกระบี่ทมิฬคือใคร?”
หรงซิวถามขึ้นอย่างกะทันหัน
เด็กรับใช้คนนั้นเผยสีหน้ามึนงงชั่วขณะ ก่อนจะส่ายหน้า
“คือว่า…พวกเราก็ไม่รู้ ทั่วไปแล้วพวกเราก็จะเห็นแต่ใต้เท้าเหล่านี้ไปมาอยู่เสมอ แต่นายท่านของพวกเขานั้น…พวกเราก็ไม่เคยเจอมาก่อนเลย อีกทั้งพวกเราก็ไม่รู้ว่าที่คนผู้นั้นไม่ออกจากสำนักกระบี่ทมิฬ เขายังอยู่ด้านในหรือไม่”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...