………………..
ปราณกระบี่กระจายทั่วทั้งบริเวณ แบ่งชั้นเมฆบนท้องฟ้าเป็นสองส่วน
พลังอันไร้รูปร่างพุ่งสูงขึ้น จนแทบจะขวางกั้นพลังจากภายนอกเอาไว้ทั้งหมด
ฉู่หลิวเยว่เก็บกระบี่ลงฝักอย่างราบรื่น ก่อนจะร่อนลงพื้นเบาๆ
เฉินอีก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“นายท่านลงมือด้วยตัวเอง นับว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดา”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วมองเล็กน้อย
“ข้ารู้ว่าหากเจ้าเป็นคนลงมือก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าข้า คำพูดเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องพูดมากหรอก”
เฉินอียืนกรานพูดขึ้นว่า
“ทุกสิ่งที่เฉินอีพูดเป็นความจริง”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะออกมา และคร้านจะสนใจเขาแล้ว
เฉินอีติดตามนางมาหลายปี ปกติแล้วเขาก็ไม่ใช่คนพูดมาก
ยากนักที่จะได้รับคำชมจากเขาสักครั้ง ภายในใจของฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกมีความสุขเช่นกัน
นางกระชับกระบี่ซื่อเซียวภายในมือของตนเอง
ความแข็งแกร่งของนางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอนที่ใช้กระบี่ชื่อเซียวก็เข้ามือมากยิ่งขึ้น
นางเงยหน้าขึ้นมอง
เหนือน่านฟ้ายังคงมีปราณกระบี่ของนางทิ้งเอาไว้อยู่สายหนึ่ง จนกลายเป็นม่านกั้นขนาดใหญ่
นี่ก็น่าจะเพียงพอทำให้ยืนหยัดได้สักพักหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาเบาๆ
ความรู้สึกนี้ค่อยๆ ชัดเจนมากยิ่งขึ้น…
ในที่สุดทัณฑ์สวรรค์สายที่ห้าก็ผ่าลงมาโดยไม่ได้รับผลกระทบจากพลังภายนอก!
…
สำนักกระบี่ทมิฬ
ซานซานเพิ่งเดินออกมาจากประตูด้านข้าง
ด้านข้างของเขายังมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งติดตามมาด้วย
ซานซานยืนนิ่งก่อนจะประสานมือทำความเคารพ พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“รองประมุขมาส่งข้าด้วยตนเอง ผู้น้อยแซ่ซานรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ท่านไม่ต้องส่งข้าแล้ว!”
มั่วอวิ๋นมีรูปร่างกำยำล่ำสัน เพียงแต่แค่ยืนอยู่นิ่งๆ ก็ทำให้รับรู้ได้ถึงพลังที่เปี่ยมล้นแล้ว
เมื่อเขาได้ยินดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมาเสียงดัง
“เถ้าแก่ซาน ท่านเกรงใจกันมากเกินไปแล้ว! ผู้เฒ่าอย่างข้ารู้ว่าช่วงนี้ของกำลังขาดแคลน ดังนั้นจึงทำให้ท่านต้องตกอยู่ในที่นั่งลำบาก โดยเฉพาะหญ้าผสานวิญญาณ มันล้วนเป็นของหายาก ลูกน้องหลายคนคงล่วงเกินท่านไป หวังว่าเถ้าแก่ซานจะไม่ถือสา!”
ซานซานรีบพูดขึ้นว่า
“ไม่กล้าๆ! ผู้น้อยแซ่ซานมีวันนี้ได้ก็เพราะสำนักกระบี่ทมิฬ เดิมทีก็เป็นเด็กรับใช้ที่ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ จึงทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น…คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะไปถึงหูท่าน…”
มั่วอวิ๋นตบไหล่ซานซาน แล้วหัวเราะเสียงดัง
“เถ้าแก่ซานวางใจเถอะ เจ้าเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของสำนักกระบี่ทมิฬ พวกเขาทำร้ายคนของเจ้า แล้วจะไม่ให้ข้าลงโทษได้อย่างใด?”
ขณะที่พูดเขาก็หันศีรษะออกไปเล็กน้อย
“ใครก็ได้! นำของขวัญแทนคำขอโทษมาให้เถ้าแก่ซานที!”
บ่าวรับใช้ที่เดินติดตามมาอยู่ไม่ไกลก็รีบสาวเท้ามาด้านหน้า พร้อมส่งกล่องไม้ที่เตรียมเอาไว้นานมอบให้เขา
ซานซานเหลือบสายตามองกล่องนั้น
ความจริงแล้วเขาก็สังเกตเห็นถึงกล่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
เพียงแต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นของขวัญแทนคำขอโทษของเขา?
“เถ้าแก่ซาน นี่คือความจริงใจของสำนักกระบี่ทมิฬ และของขวัญที่แสดงว่าต้องการจะร่วมงานกับเจ้าต่อไป เจ้า…รับเอาไว้เถอะ!”
ใบหน้าที่อ้วนกลมของซานซานสั่นระริกเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมาจนดวงตาโค้งลง
“นี่ถือว่าเป็นเกียรติของผู้น้อยแช่ซานอย่างมาก! เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้น้อยแช่ซานก็ไม่เกรงใจแล้วนะขอรับ!”
เมื่อพูดจบเขาก็รับกล่องไม้กล่องนั้นไป
เห็นได้ชัดว่ามั่วอวิ๋นพอใจกับคำตอบของเขาเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงดึงมือกลับไป
“เถ้าแก่ซานเป็นคนที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก ตอนนี้ข้ามีเรื่องที่จะปรึกษาเถ้าแก่ซานอยู่พอดี ช่วงนี้สำนักกระบี่ทมิฬกำลังรับศิษย์เป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้สมุนไพรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้น…ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป จะขอสมุนไพรเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมสองเท่า เถ้าแก่ซาน คงไม่มีปัญหาอันใดใช่หรือไม่?”
หนังตาของซานซานกระตุกอย่างรุนแรง
เขารู้ว่า ท่าทีของมั่วอวิ๋นที่ผิดปกติจะต้องมีเงื่อนงำอันใดบางอย่างแน่นอน
มั่วอวิ๋นมักจะปฏิบัติต่อเขาด้วยท่าทีหยิ่งผยอง ดวงตาของเขาแทบจะแปะอยู่กลางศีรษะ เขาเคยพูดด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ที่ไหนกัน?
ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้คนของสำนักกระบี่ทมิฬก็เคยทำร้ายคนของเขามาตั้งหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนที่จะมอบของขวัญเพื่อเป็นการขอโทษอย่างเช่นครั้งนี้เลย
ที่แท้…อีกฝ่ายกำลังรอเชือดเขาอยู่นี่เอง!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...