………………..
จนถึงตอนนี้ เมื่อเขานึกถึงภาพเหตุการณ์ที่บนท้องฟ้าและเปลวเพลิงที่ลุกท่วมขึ้นมาอย่างกะทันหัน ในตอนนี้หัวใจของเขาก็สั่นไหวขึ้นมาทันที
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร เขารู้สึกว่านายท่านมีความสามารถในระดับนั้นจริงๆ!
หนังตาของฉู่หลิวเยว่กระตุก
“เอาล่ะ ถ้าเจ้ามีเวลาคิดเรื่องเหล่านี้ ไม่สู้เอาเวลามาบำเพ็ญเพียรไม่ดีกว่าหรือ! หากพื้นที่มิติของตนเองเกิดปัญหาอันใดขึ้นมา แม้แต่พลังต่อต้านของเจ้ายังไม่มีเลย เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะมาปวดใจมันก็ไม่ทันแล้ว!”
ซานซานตอบรับอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
ในที่สุดการมาของเฉินอีก็ทำให้เขาสามารถสงบใจลงได้
ฉู่หลิวเยว่เดินไปนั่งที่เก้าอี้ด้านข้าง มือข้างหนึ่งจับปลายคาง
เดิมทีนางก็ต้องการจะบำเพ็ญเพียรต่อ แต่คำพูดเมื่อครู่นี้ของซานซานกลับกระตุ้นความคิดของนางขึ้นมา
นางไม่ได้เป็นห่วงอันตรายของพื้นที่ขนาดเล็กนั้น
นางเพียงแค่สงสัยว่าพื้นที่ขนาดเล็กกับโล่ของนางนั้นมีความเกี่ยวข้องกันอย่างใด
ไม่เช่นนั้นเหตุใดในตอนนั้นถึงเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น?
ฉู่หลิวเยว่กลั้นลมหายใจแล้วรวบรวมสมาธิ นางหลุบตาลงต่ำแล้วจมอยู่ในความคิด
ตอนแรกนางบังเอิญพบโล่สีดำอันนั้นภายในถ้ำของท่าเรือดอกท้อ
แต่ภูเขาลูกนั้นมันอยู่ไกลมากเกินไป แม้กระทั่งชื่อยังไม่มีด้วยซ้ำ
อีกทั้งหลังจากเกิดการต่อสู้หลายสิบครั้ง พวกเขาลูกนั้นก็แทบจะถูกทำลายไปทั้งหมด และไม่มีอยู่อีกต่อไป
ไม่รู้ว่าหากเดินทางไปค้นหาอีกครั้งจะยังสามารถหาเบาะแสอันใดพบอีกหรือไม่…
เมื่อฉู่หลิวเยว่คิดถึงตรงนี้ โล่สีดำก็ถูกเรียกออกมาอีกครั้งหนึ่ง
โล่สีดำโบราณ ดูลึกลับ ยากจะบรรยาย
ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็ยากที่จะแยกแยะ
ฉู่หลิวเยว่พยายามที่จะเรียกพลังของมันออกมา แต่โล่สีดำนั้นไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย
เหมือนกับว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ภาพมายาเท่านั้น
แต่มันไม่ใช่ภาพมายาอย่างแน่นอน
นิ้วของหรงซิวนั้นยังถูกลวกเป็นแผลอยู่เลย…
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นก็หันมองทางหรงซิว
เหมือนว่าหรงซิวจะรู้ตัว เขาจะเงยหน้าขึ้นมา
สายตาของพวกเขาทั้งสองคนประสานกัน
ฉู่หลิวเยว่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหา
โล่สีดำในมือของนางนั้นหล่นลงมาอย่างกะทันหันโดยนางยังไม่ทันตั้งตัว!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบจับมันเอาไว้ให้มั่น
โล่นี้เหมือนว่าจะหนักขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย!
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่ของในมือของนางด้วยความสงสัย
เมื่อครู่นี้ตอนที่นางเรียกออกมา นางถือเอาไว้ด้านหน้าด้วยแขนสองข้าง ความรู้สึกเหล่านั้นจึงไม่ได้ชัดเจนมากเท่าไร
แต่ตอนที่นางลุกขึ้นยืนเมื่อครู่นี้ นางยกมันขึ้นมาด้วยความเคยชิน แต่นางเกือบจะถือเอาไว้ไม่อยู่ จนทำให้มันหล่นลงกับพื้น
นางไม่ได้กะความรู้สึกผิดพลาด
ของชิ้นนี้…หลังจากเกิดเรื่องภายในพื้นที่มิติขนาดเล็กนั้นมันก็เหมือนหนักขึ้นจริงๆ!
น่าแปลกมาก…
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
ในตอนที่นางได้โล่ชิ้นนี้มา นางก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องมือเป็นอย่างมาก และนางไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน
หากนางยังรู้สึกว่ามันหนัก…
“เป็นอันใดไปอย่างนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่มีอันใด ข้าเพียงแค่รู้สึกว่าของสิ่งนี้…มันแตกต่างไปจากเดิม…”
ขณะที่พูดนางก็ยกโล่สีดำอันนั้นขึ้นมา นางจับมือของหรงซิวขึ้นมาอีกครั้ง
รอยไหม้สีแดงบนนิ้วเรียวยาวของหรงซิวสายนั้น จางหายไปแล้ว
มุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย
“ข้าบอกแล้ว มันแค่แผลเล็กน้อยเท่านั้นไม่ต้องกังวล”
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่ยังคงมีความสงสัยปรากฏอยู่


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...