เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1859

………………..

มั่วหลินสั่นสะท้าน ร่างกายเหมือนถูกแช่แข็ง!

ไม่ว่าอย่างใดเขาก็ไม่สามารถพูดคำพูดที่เหลือออกมาได้อีกแล้ว

เขารีบคุกเข่าลงทันทีโดยไม่ต้องคิด

“ข้าน้อยผิดไปแล้ว! รองประมุขโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”

เหงื่อเย็นๆ ไหลท่วมหน้าผากและแผ่นหลังของเขา

สายลมที่พัดมาเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกเหมือนเขาตกลงไปในถังน้ำแข็ง!

ในขณะนั้นเขาสามารถมั่นใจได้เลยว่าเขาเห็นจิตสังหารอยู่ในแววตาส่วนลึกของมั่วอวิ๋น!

เขาสามารถลงมือได้อย่างแน่นอน!

มั่วอวิ๋นจ้องมาที่เขาตาเขม็ง

เห็นได้ชัดว่าอากาศที่อยู่โดยรอบมีอุณหภูมิสูงเพราะไอความร้อนจากเปลวไฟเหล่านั้น แต่ในตอนนี้มั่วหลินกลับสามารถสัมผัสได้เพียงความเย็นยะเยือกเท่านั้น

เขารู้สึกหนาวเย็นจนไปถึงขั้วกระดูก!

“มั่วหลิน เจ้าก็ติดตามอยู่ข้างกายข้ามาหลายปีแล้ว จนถึงตอนนี้ ยิ่งเจ้าอยู่ยิ่งถอยหลังลงคลองอย่างนั้นหรือ?”

มั่วอวิ๋นพูดขึ้น น้ำเสียงไม่มีร่องรอยความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย

มั่วหลินตัวสั่นสะท้านราวกับตะแกรงไม้

“รอง…รองประมุข ข้าเพียงแค่…”

เขาแค่พูดเรื่อยเปื่อยออกมาเท่านั้น! ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นซ่อนอยู่เลย!

ใช่แล้ว เขาติดตามมั่วอวิ๋นมานานหลายปี เหตุใดถึงได้พูดอันใดแบบนั้นออกไปได้นะ!

ในวันทั่วไปแล้วมั่วอวิ๋นจะระมัดระวังคำพูดและการกระทำ เขาไม่ต้องการให้สิ่งไม่ดีเข้าไปกระทบสู่โสตประสาทของท่านประมุข

แต่ในวันนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาแล้ว ภายในใจของมั่วอวิ๋นจะต้องทำทุกวิถีทางให้เรื่องนี้จบ ก่อนที่ท่านประมุขจะรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน

แต่เห็นได้ชัดว่ามั่วอวิ๋นในตอนนี้ ไม่ต้องการฟังคำอธิบายของเขา

เขายกฝ่ามือขึ้นมาในทันที ส่งสัญญาณให้มั่วหลินเงียบปากไป

ตอนนี้ก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว เขาไม่อยากเสียเวลาและพลังงานไปกับเรื่องเหล่านี้อีก

มั่วหลินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

ปฏิกิริยาของมั่วอวิ๋นได้อธิบายความคิดของเขาอย่างกระจ่างแล้ว

ครั้งนี้ เกรงว่า…

หัวใจของมั่วหลินเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเขารู้สึกเสียใจขึ้นมา

ถ้าสามารถแก้ปัญหานี้ตั้งแต่ในตอนแรก เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างใด?

ทั้งหมดนี้…เป็นเพราะซานซานไร้ความสามารถ!

ในตอนนี้มั่วหลินต้องการจะโยนความผิดไปให้ผู้อื่นทั้งหมด

แต่น่าเสียดายที่มั่วอวิ๋นไม่ให้โอกาสเขาพูดเลยแม้แต่คำเดียว

จวนเยว่

ฉู่หลิวเยว่และหรงซิวไม่ได้กลับมาทั้งคืน ทุกคนที่อยู่ภายในจวนก็ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ

ตอนเช้าตรู่ สือซานก็เดินไปที่ด้านหน้าจวน แล้วยังชะเง้อไปที่ประตูใหญ่เป็นบางครั้ง

อวี๋จิ่วเดินถือกระบี่เข้ามา

“สือซานเจ้ามาทำอันใดตั้งแต่เช้าตรู่?”

สือซานส่ายหน้า

“ข้าอยากรอให้นายท่านกลับมา”

อวี๋จิ่วเก็บกระบี่บุปผาลง ก่อนจะพูดขึ้นว่า

สือซานรู้สึกเก้อกระดากเล็กน้อย

“ข้ารู้ แต่ข้ายังรู้สึก…ไม่วางใจ…ดังนั้นข้าจึงอยากจะรออยู่ตรงนี้…หื้ม? พี่เก้า แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ?”

เขามักจะฝึกวิชากระบี่อยู่ที่ด้านหลังเรือนไม่ใช่หรือ?

อวี๋จิ่วมีสีหน้าราบเรียบ

“ด้านหลังเรือนมันมีขนาดเล็กเกินไป ข้าไม่สามารถฝึกได้ ดังนั้นจึงมาฝึกอยู่ที่นี่”

สือซาน “…”

ด้านหลังเรือนกว้างกว่าที่นี่ตั้งไม่รู้กี่เท่า อยากจะมารอนายท่านก็พูดออกมาตรงๆ ดีกว่า จะหาข้ออ้างงี่เง่าไปเหตุใด…

ในตอนนั้นเอง อู่เหยาก็เดินมาถึงแล้ว

เมื่อเห็นสือซานกับอวี๋จิ่ว เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย

สือซานถามขึ้นมาว่า

“พี่ห้า ท่านมาที่นี่เพื่อ…ฝึกยุทธ์หรือ?”

“แค่ก!”

ใบหน้าของอู่เหยามีความอึดอัดฉายชัดขึ้น

“ถูกต้องแล้ว! เป็นเพราะด้านหลังเรือนนั้นแคบเกินไป! ข้าจึงอยากจะยกที่ตรงนั้นให้อวี๋จิ่ว…”

แต่คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะมาถึงก่อนเขา!

อวี๋จิ่วแกว่งดาบไม้ที่อยู่ในมืออย่างภาคภูมิใจ

บางครั้งหากลงมือก่อนก็ได้เปรียบ!

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์