………………..
มั่วหลินสั่นสะท้าน ร่างกายเหมือนถูกแช่แข็ง!
ไม่ว่าอย่างใดเขาก็ไม่สามารถพูดคำพูดที่เหลือออกมาได้อีกแล้ว
เขารีบคุกเข่าลงทันทีโดยไม่ต้องคิด
“ข้าน้อยผิดไปแล้ว! รองประมุขโปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!”
เหงื่อเย็นๆ ไหลท่วมหน้าผากและแผ่นหลังของเขา
สายลมที่พัดมาเล็กน้อย ทำให้เขารู้สึกเหมือนเขาตกลงไปในถังน้ำแข็ง!
ในขณะนั้นเขาสามารถมั่นใจได้เลยว่าเขาเห็นจิตสังหารอยู่ในแววตาส่วนลึกของมั่วอวิ๋น!
เขาสามารถลงมือได้อย่างแน่นอน!
มั่วอวิ๋นจ้องมาที่เขาตาเขม็ง
เห็นได้ชัดว่าอากาศที่อยู่โดยรอบมีอุณหภูมิสูงเพราะไอความร้อนจากเปลวไฟเหล่านั้น แต่ในตอนนี้มั่วหลินกลับสามารถสัมผัสได้เพียงความเย็นยะเยือกเท่านั้น
เขารู้สึกหนาวเย็นจนไปถึงขั้วกระดูก!
“มั่วหลิน เจ้าก็ติดตามอยู่ข้างกายข้ามาหลายปีแล้ว จนถึงตอนนี้ ยิ่งเจ้าอยู่ยิ่งถอยหลังลงคลองอย่างนั้นหรือ?”
มั่วอวิ๋นพูดขึ้น น้ำเสียงไม่มีร่องรอยความอบอุ่นเลยแม้แต่น้อย
มั่วหลินตัวสั่นสะท้านราวกับตะแกรงไม้
“รอง…รองประมุข ข้าเพียงแค่…”
เขาแค่พูดเรื่อยเปื่อยออกมาเท่านั้น! ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นซ่อนอยู่เลย!
ใช่แล้ว เขาติดตามมั่วอวิ๋นมานานหลายปี เหตุใดถึงได้พูดอันใดแบบนั้นออกไปได้นะ!
ในวันทั่วไปแล้วมั่วอวิ๋นจะระมัดระวังคำพูดและการกระทำ เขาไม่ต้องการให้สิ่งไม่ดีเข้าไปกระทบสู่โสตประสาทของท่านประมุข
แต่ในวันนี้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นมาแล้ว ภายในใจของมั่วอวิ๋นจะต้องทำทุกวิถีทางให้เรื่องนี้จบ ก่อนที่ท่านประมุขจะรู้เรื่องนี้อย่างแน่นอน
แต่เห็นได้ชัดว่ามั่วอวิ๋นในตอนนี้ ไม่ต้องการฟังคำอธิบายของเขา
เขายกฝ่ามือขึ้นมาในทันที ส่งสัญญาณให้มั่วหลินเงียบปากไป
ตอนนี้ก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว เขาไม่อยากเสียเวลาและพลังงานไปกับเรื่องเหล่านี้อีก
มั่วหลินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
ปฏิกิริยาของมั่วอวิ๋นได้อธิบายความคิดของเขาอย่างกระจ่างแล้ว
ครั้งนี้ เกรงว่า…
หัวใจของมั่วหลินเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง ในตอนนั้นเขารู้สึกเสียใจขึ้นมา
ถ้าสามารถแก้ปัญหานี้ตั้งแต่ในตอนแรก เขาจะตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างใด?
ทั้งหมดนี้…เป็นเพราะซานซานไร้ความสามารถ!
ในตอนนี้มั่วหลินต้องการจะโยนความผิดไปให้ผู้อื่นทั้งหมด
แต่น่าเสียดายที่มั่วอวิ๋นไม่ให้โอกาสเขาพูดเลยแม้แต่คำเดียว
…
จวนเยว่
ฉู่หลิวเยว่และหรงซิวไม่ได้กลับมาทั้งคืน ทุกคนที่อยู่ภายในจวนก็ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเพียงพอ
ตอนเช้าตรู่ สือซานก็เดินไปที่ด้านหน้าจวน แล้วยังชะเง้อไปที่ประตูใหญ่เป็นบางครั้ง
อวี๋จิ่วเดินถือกระบี่เข้ามา
“สือซานเจ้ามาทำอันใดตั้งแต่เช้าตรู่?”
สือซานส่ายหน้า
“ข้าอยากรอให้นายท่านกลับมา”
อวี๋จิ่วเก็บกระบี่บุปผาลง ก่อนจะพูดขึ้นว่า
สือซานรู้สึกเก้อกระดากเล็กน้อย
“ข้ารู้ แต่ข้ายังรู้สึก…ไม่วางใจ…ดังนั้นข้าจึงอยากจะรออยู่ตรงนี้…หื้ม? พี่เก้า แล้วเหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ?”
เขามักจะฝึกวิชากระบี่อยู่ที่ด้านหลังเรือนไม่ใช่หรือ?
อวี๋จิ่วมีสีหน้าราบเรียบ
“ด้านหลังเรือนมันมีขนาดเล็กเกินไป ข้าไม่สามารถฝึกได้ ดังนั้นจึงมาฝึกอยู่ที่นี่”
สือซาน “…”
ด้านหลังเรือนกว้างกว่าที่นี่ตั้งไม่รู้กี่เท่า อยากจะมารอนายท่านก็พูดออกมาตรงๆ ดีกว่า จะหาข้ออ้างงี่เง่าไปเหตุใด…
ในตอนนั้นเอง อู่เหยาก็เดินมาถึงแล้ว
เมื่อเห็นสือซานกับอวี๋จิ่ว เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
สือซานถามขึ้นมาว่า
“พี่ห้า ท่านมาที่นี่เพื่อ…ฝึกยุทธ์หรือ?”
“แค่ก!”
ใบหน้าของอู่เหยามีความอึดอัดฉายชัดขึ้น
“ถูกต้องแล้ว! เป็นเพราะด้านหลังเรือนนั้นแคบเกินไป! ข้าจึงอยากจะยกที่ตรงนั้นให้อวี๋จิ่ว…”
แต่คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะมาถึงก่อนเขา!
อวี๋จิ่วแกว่งดาบไม้ที่อยู่ในมืออย่างภาคภูมิใจ
บางครั้งหากลงมือก่อนก็ได้เปรียบ!
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...