………………..
ซานซานหันกลับไปมองอย่างตกใจ และเขากำลังจะปฏิเสธ แต่ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่มิติขนาดเล็กในครั้งนั้น
เพียงแค่ความคิดของนายท่านก็สามารถทำให้พลังหมุนวนขนาดใหญ่ได้ อีกทั้งยังสามารถทำให้ม่านพลังถูกเผาไหม้โดยตรง…
บางทีในตัวของนายท่านอาจจะมีไพ่ไม้ตายอันใดบางอย่างที่สุดยอดมากอยู่?
แล้วอีกอย่าง เขาก็ได้ยินมาว่าฝีมือของฝ่าบาทนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
หากมีพวกเขาทั้งสองคนอยู่ด้วย มันจะต้องปลอดภัยขึ้นไม่น้อยแน่นอน อีกทั้งไม่แน่ว่าอาจจะสามารถได้รับเบาะแสอันใดบางอย่าง…
ซานซานเหลือบสายตาหันไปมองทางมั่วอวิ๋นอย่างสอบถาม
“รองประมุข ท่านคิดว่าอย่างใด…”
มั่วอวิ๋นพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจว่า
“ตามใจเจ้า”
ผู้ติดตามเพียงแค่สองคน จะมีหรือไม่มีก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
หากเถ้าแก่ซานรู้สึกว่าการมีผู้ติดตามแล้วมันปลอดภัยมากกว่า ก็ให้เขานำผู้ติดตามไปด้วยอย่างอดไม่ได้
ไม่อย่างใดก็ตามประเด็นสำคัญอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการทนทรมานมาหลานวันแล้ว มั่วอวิ๋นก็รู้สึกว่าความคิดของเขานั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
เขาอยากจะรู้โดยเร็วที่สุดว่านี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่!
และต้องใช้วิธีใดกันแน่ที่จะสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด!
ส่วนเรื่องอื่นๆ นั้น…เขาไม่ได้สนใจเลย!
ซานซานรู้สึกยินดีขึ้นมาในทันที แต่ว่าเขาไม่ได้แสดงสีหน้าดีใจมากเกินไปนัก เขาเพียงกะแอมไอออกมา จากนั้นก็หันไปพูดกับหรงซิวและฉู่หลิวเยว่ว่า
“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ! อีกเดี๋ยวพวกเจ้าต้องติดตามข้าอย่างใกล้ชิดนะ! หากพบสิ่งผิดปกติ เราก็รีบแยกย้ายกันทันที!”
สายตาของคนรอบข้างจำนวนไม่น้อยมองอยู่ที่พวกเขา
ตอนนี้เขากลายเป็นจุดสนใจของทุกคนอย่างไม่ต้องสงสัย
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับยอดเขาหลานชิงไม่น้อยเลยทีเดียว”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้นเสียงต่ำ
หรงซิวหัวเราะเบาๆ
“ฟ้าดินเกิดความเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถือกำเนิดสมบัติล้ำค่าออกมา แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมากอยู่แล้ว”
บนโลกนี้ มีใครบ้างไม่อยากแข็งแกร่งขึ้น มีใครบ้างไม่อยากรับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ มีใครบ้างที่ไม่อยากทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า?
ในอากาศมีกลิ่นคาวเลือดเหม็นเน่าคละคลุ้งเข้มข้น มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้น แต่ภายในแววตาไม่มีรอยยิ้มเลย
“ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้จะมีคนตายไปมากพอสมควร ถึงยอมให้พวกเขามาควบคุมสถานการณ์”
หากพวกเขาไม่รู้ว่ายอดเขาหลานชิงแห่งนี้อันตรายแค่ไหน พวกเขาคงจะเข้าไปตั้งนานแล้ว จะมาเรียกซานซานให้ออกมาอีกครั้งเหตุใด?
แต่ในสถานการณ์ที่มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ อีกทั้งในตอนนี้ก็มีแค่ซานซานเท่านั้น
มั่วอวิ๋นจึงนึกถึงซานซานขึ้นมา อีกทั้งยังพาเขามาที่นี่ด้วย
เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้ว ชีวิตของซานซานก็ผ่านความยากลำบากมาไม่น้อยเลยทีเดียว
คนของสำนักกระบี่ทมิฬใช้ประโยชน์จากเขาตั้งแต่ต้นจนจบ
พวกเขาเคยเห็นซานซานอยู่ในสายตาจริงๆ บ้างหรือไม่?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาของเขาก็เย็นชาไปหลายส่วน
…
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงไหล่เขา พวกเขายืนอยู่ห่างจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนเพียงแค่สิบก้าวเท่านั้น
ซานซานหยุดชะงักฝีเท้าเป็นคนแรก
“เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่า เปลวเพลิงเหล่านี้เหมือนจะแข็งแกร่งกว่าเดิมไม่น้อยเลยทีเดียว”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ
“มันเป็นเรื่องจริง เจ้าไม่ได้รู้สึกไปเอง”
นางเองก็รู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
อีกทั้งพลังที่เพิ่มขึ้นเหล่านั้นไม่ใช่เพียงแค่การลุกลามแผ่ขยายของเปลวเพลิงเท่านั้น
ซานซานกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก จากนั้นก็หันไปมองที่เปลวเพลิงที่อยู่ด้านหน้าอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังมีม่านพลังโปร่งแสงที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...