………………..
ซานซานสะอึกออกมา
เขาเองก็รู้ว่าที่มั่วอวิ๋นมาที่นี่เพราะต้องการมาหานายท่าน
แต่…
“รองประมุขมั่วเดินทางมาเยี่ยมเยือน ข้าเสียมารยาทแล้วที่ไม่ได้ทำการต้อนรับ ต้องขออภัยจริงๆ”
ในตอนนั้นเอง เสียงที่กระจ่างใสแฝงด้วยรอยยิ้มสายหนึ่งก็ดังขึ้นมา
มั่วอวิ๋นเหมือนกับสามารถตระหนักอะไรได้บางอย่าง ดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง
เงาร่างทั้งสองกำลังเดินเข้ามาจากทางประตู
ผู้ที่พูดนั้นเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง สวมชุดสีแดงทั้งร่าง เผยให้เห็นรูปร่างเพรียวระหงงดงาม ผมสีดำขลับถูกมัดเอาไว้อย่างเรียบง่าย สะอาดสะอ้านตาเป็นอย่างมาก
ใบหน้าพริ้งเพรา เป็นความงามที่ไม่มีใครเทียบเทียม
แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนใจสั่นสะท้านเลยก็คือ ดวงตาที่เหมือนกับหยกสีดำขลับนั้นลึกซึ้งและเงียบงัน เพียงแค่กะพริบตา ก็เหมือนกับมีดวงดาวนับพันนับหมื่นดวงส่องสว่างอยู่ภายใน
ในตอนนั้นเอง ริมฝีปากแดงของนางก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ทันทีที่เข้ามา แทบจะทำให้บรรยากาศรอบข้างมัวหมองไปในทันที
นอกจากนั้นยังมีชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างกายของนาง
เขาสวมชุดสีขาว ซึ่งขาวกว่าหิมะ งดงามโดดเด่น ราวกับเซียนตกสวรรค์
ใบหน้าสูงส่งราวกับมาร ความสูงศักดิ์ฝังอยู่ในกระดูก เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็แทบทำให้ผู้คนละสายตาไม่ได้
ทั้งสองคนนี้จะต้องเป็นคนระดับแนวหน้าแน่นอน เมื่อยืนอยู่ในบริเวณาเดียวกัน เขาก็สามารถดึงความสนใจของทุกผู้คนไปได้อย่างง่ายดาย
มั่วอวิ๋นจ้องทั้งสองคนตาเขม็ง พร้อมค่อยๆ กำหมัดแน่นขึ้น
แต่ตอนนี้เมื่อมาเห็นทั้งสองคนนี้ ความรู้สึกเหล่านั้นก็รุนแรงมากยิ่งขึ้น!
แต่ไม่รู้ว่าทำไมภายในใจของเขาจึงเกิดความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างขึ้นมา
เหมือนกับว่า…เขาเคยเห็นทั้งสองคนนี้ที่ไหนมาก่อน…
“พวกเจ้าคือ…”
ในตอนที่เขากำลังจะพูด เงาร่างจากด้านนอกก็พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบร้อน ฉู่หลิวเยว่กับหรงซิวก็หันกลับไปมองโดยพร้อมเพรียง
ผู้ที่มาใหม่นั้นคือ เยี่ยนชิง
แต่ในเวลานั้นเอง ใบหน้าของเขาที่เคยนิ่งเรียบเหมือนภูเขาน้ำแข็งมาโดยตลอด กลับขมวดคิ้วขึ้นมา อีกทั้งยังแฝงไปด้วยความตื่นตระหนกและเป็นกังวล
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่มีความไม่สบายใจพวยพุ่งขึ้นมา
เยี่ยนชิงเป็นคนเงียบขรึมมาโดยตลอด น้อยครั้งมากที่จะเผยสีหน้าเช่นนี้ออกมา
หรือว่าจะเกิดเรื่องแล้ว?
“ฝ่าบาท มีคนมาขอรับ”
เยี่ยนชิงเดินเข้ามาแล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
คนที่อยู่ภายในบริเวณนั้นล้วนแสดงสีหน้าตกใจทันที
ใครกันที่จะมาจวนเยว่ในเวลานี้?
อีกทั้งดูจากสถานการณ์แล้ว…เหมือนว่าจะไม่ได้มาดี
หรงซิวหรี่ดวงตาหงส์ลง
“ใคร?”
เยี่ยนชิงประสานหมัดด้วยมือทั้งสองข้าง
“ตระกูลหนาน”
ในตอนนี้หนานอวี่สิงเพิ่งจะพาคนมาที่ท่าเรือดอกท้อ
และคนที่เดินทางมากับเขานั้นยังมีผู้อาวุโสอีกแปดคน รวมถึง…ลั่วเหยี่ยนด้วย
แม้ว่าตระกูลหนานจะมีจำนวนไม่น้อย และการส่งผู้อาวุโสออกมาพร้อมกันครั้งเดียวแปดคน ความจริงแล้วก็นับว่าไม่มาก
ยิ่งไปกว่านั้นท่าเรือดอกท้อยังเป็นสถานที่ที่ห่างไกลกว่าหมื่นลี้!
“ที่แท้ที่นี่ก็คือท่าเรือดอกท้อ…”
หนานอวี่สิงเดินไปพลาง พร้อมใช้สายตากวาดสำรวจไปพลาง
สายตาของเขานั้นเย็นชาอย่างมาก ดวงตาของเขามีสีเลือดแอบแฝงอยู่หลายส่วน จนทำให้ผู้ที่มองมารู้สึกไม่สบายใจ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...