………………..
หนานอวี่สิงบ้าไปแล้ว
ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้เขาประสบกับเหตุการณ์มามากมาย ซึ่งมันเกินกว่าที่เขาจะสามารถรับไหว
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะเส้นชีพจรแตกซ่าน ทำให้เขาท้อแท้หมดกำลังใจ ร้องขอความตาย
ต่อมาบิดาของเขาได้ตามหาผู้เชี่ยวชาญจนจบ ช่วยให้เขาฟื้นคืนเส้นชีพจรดั้งเดิมได้ อีกทั้งเขายังได้ใช้โอกาสนี้ทะลวงด่านได้อย่างราบรื่น จนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์
เขารู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างมาก
แต่ในตอนที่เขากำลังจะเล่าเรื่องเหล่านี้ให้แก่หนานอีอีฟัง กลับได้ยินเป็นข่าวร้ายว่าหนานอีอีนั้นเสียชีวิตแล้ว
เพราะว่าศพถูกทำร้ายอย่างน่าอนาถ หนานอีฝานจึงเลือกที่จะฝังร่างนั้นลงไปทั้งอย่างนั้น
หนานอวี่สิงไม่มีโอกาสมองหน้านางเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำ
หนานอีอีเป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา และเป็นคนที่เขารักสุดหัวใจ
ตอนนี้คนผู้นั้นไม่อยู่แล้ว แล้วเขาจะยอมรับมันได้อย่างไร?
ดังนั้นภายในใจของเขาจึงคิดแต่เรื่องแก้แค้น
ขอเพียงแค่สามารถสังหารหรงซิวและฉู่หลิวเยว่ลงได้ ความเคียดแค้นที่อยู่ในใจของเขาถึงจะถูกขจัดออกไป!
ในตอนนี้ลั่วเหยี่ยนลังเลขึ้นมาอย่างกะทันหัน เดิมทีเขาไม่เห็นเรื่องเหล่านี้อยู่ในสายตาด้วยซ้ำ
เขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่าหนานอีอีตายด้วยน้ำมือของพวกเขา ไม่ว่าคนอื่นจะโน้มน้าวอย่างไร เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของตนเองเด็ดขาด
คิ้วของหรงซิวมีความเย็นชาเพิ่มขึ้นหลายส่วน
“หนานอวี่สิงเจ้าคิดว่า เจ้ากำลังใช้ดาบชี้หน้าใครอยู่อย่างนั้นหรือ?”
น้ำเสียงของเขาเย็นชาและทุ้มต่ำ แต่ตอนที่ได้ยินกลับรู้สึกถึงแรงกดดันที่หนักแน่นจนยากจะต้านทาน!
หนานอวี่สิงหันไปมองทางหรงซิวโดยไม่รู้ตัว
แต่เขาก็รีบระงับอารมณ์เหล่านั้นลงไปอย่างรวดเร็ว
หวาดกลัว?
นี่มีอะไรที่น่าหวาดกลัวกัน!
วันนี้เขาพาผู้อาวุโสมาที่นี่หลายท่าน เป้าหมายก็เพื่อสังหารหรงซิวและฉู่หลิวเยว่ แก้แค้นให้แก่อีอี!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็หัวเราะเสียงเย็น
“หรงซิว เจ้าละทิ้งความเย่อหยิ่งในฐานะโอรสสวรรค์เถอะ! ที่แห่งนี้คือท่าเรือดอกท้อ ไม่ใช่พระราชวังเมฆาสวรรค์!”
ก่อนหน้านี้เขาสืบมาเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้หรงซิวและฉู่หลิวเยว่มาที่นี่อย่างเงียบเชียบ
ข้างกายของหรงซิวมีแค่คนสนิทคนเดียว ส่วนทางด้านฉู่หลิวเยว่ แม้ว่านางจะพาคนมาเยอะ แต่คนเหล่านั้นล้วนเป็นอดีตลูกน้องของนาง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากังวล
หรงซิวแข็งแกร่งอย่างมาก ฉู่หลิวเยว่เองก็ประมาทไม่ได้ แต่แค่สองหมัดไม่สามารถเอาชนะสี่มือ หากทั้งสองฝ่ายเผชิญหน้ากัน พวกเขามีโอกาสชนะมากกว่า!
“แน่นอนว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่พระราชวังเมฆาสวรรค์ แต่ที่แห่งนี้คือ…จวนเยว่! พวกเจ้าก็กล้าทำตัวกำเริบเสิบสานหรือ!”
ไม่รอให้หรงซิวพูดอะไร ฉู่หลิวเยว่ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาเป็นคนแรก
ฟิ้ว!
กระบี่ที่แหลมคมแหวกความว่างเปล่า!
นางกระชับกระบี่ชื่อเซียวในมือแน่น!
เมื่อดูจากท่าทางของหนานอวี่สิง จะให้พูดอะไรต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์
มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นใช้กำลังแก้ปัญหา!
เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่ชักกระบี่ออกมา ภายในสมองของหนานอวี่สิงก็มีภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในสุสานสังหารเทพปรากฏขึ้นมา
ฝีมือของผู้หญิงคนนี้แข็งแรงกว่าเดิมไม่น้อยเลย…
หนานอวี่สิงสะบัดหัวไปมา ขมวดคิ้วเป็นปม ขจัดความคิดที่ฟุ้งซ่านภายในสมองออกไปให้หมด
หรือว่านางจะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างนั้นหรือ!
เมื่อนึกถึงตรงนี้ หนานอวี่สิงก็มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลายส่วน
“เลือดต้องล้างด้วยเลือด! แค้นของอีอี วันนี้ข้าจะต้องชำระให้ได้!”
เขาพูดยังไม่ทันจบ หนานอวี่สิงก็ลงมือเสียแล้ว!
พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่รอบข้างเข้ามารวมตัวในที่แห่งนี้กันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถ่ายเทไปในดาบเล่มนั้นที่อยู่ในมือของเขา



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...