“หา?”
ท่านผู้เฒ่าเกาหัวด้วยความกลัดกลุ้มเมื่อถูกถามคำถามนี้
นี่ก็เป็นปัญหาเช่นกัน
วันนี้เขาแอบย่องเข้ามา แต่หลังจากนี้จะให้ทำเยี่ยงนี้ทุกครั้งก็ไม่ได้กระมัง
แม้ว่าการป้องกันของตระกูลฉู่จะไม่มีประโยชน์อะไรอยู่แล้ว แต่ในเมื่อคิดที่จะมาเรียนรู้กับฉู่หลิวเยว่ แน่นอนว่าจะต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู
นอกจากนี้ยังมีกฎเกณฑ์และความประณีตมากมายในอาชีพของหมอเทวดา
ต้องทราบก่อนว่ามีหมอเทวดาหลายคนให้ความสำคัญกับวิธีและขั้นตอนการปรุงยาของตนเองเป็นอย่างยิ่ง เว้นแต่ว่าอาจารย์จะถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์ด้วยตนเอง มีไม่กี่คนที่ได้รับอนุญาตให้ดูการเล่าเรียน
ฉู่หลิวเยว่รับปากเขาว่าต่อไปทุกๆ ครึ่งเดือนสามารถเข้ามาดูได้หนึ่งครั้ง อันที่จริงก็นับว่านางใจดีมากแล้ว
ส่วนเรื่องสถานะ…
“เอาอย่างนี้…ให้ข้าเป็นลูกศิษย์เจ้าดีหรือไม่”
เดิมทีท่านผู้เฒ่าพูดด้วยความตื่นเต้น ทว่าเมื่อผ่านไปครู่หนึ่งเขากลับขมวดคิ้วด้วยสีหน้าลังเล
“ไอ้หยา ก่อนหน้านี้ข้ามีอาจารย์ แม้ท่านจะแก่ตายไปสู่ปรโลกแล้ว แต่ให้ผู้อื่นมาเป็นอาจารย์มันก็ลำบากใจจริงๆ นั่นแหละ”
ฉู่หลิวเยว่มองเขาอย่างพูดไม่ออก
ข้อเสนอนี้ก็ทำให้นางลำบากใจเช่นกัน ไม่รู้หรือ
นางก็ไม่อยากรับลูกศิษย์ที่แก่จนปูนนี้เช่นกันนั่นแหละ
“เอาอย่างนี้ดีกว่า ท่านมาเป็นอาจารย์ของข้า ดีหรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่เสนอความเห็น
ท่านผู้เฒ่าตกใจจนรีบหุบพัด
“เอ๊ะ…เช่นนั้นก็ไม่ได้ ข้าขอให้เจ้าเป็นคนสอน จะให้ข้าไปเป็นอาจารย์ของเจ้าแทนได้อย่างไร”
เขาสามารถเห็นได้ว่าระดับของฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นๆ แต่เขาไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นอาจารย์ของนางอยู่ดีนี่นา!
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้ว
“ท่านจะถ่อมตนไปใย ข้าน้อยเป็นเพียงต้นอ่อน มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังไม่เข้าใจ จะต้องมีอาจารย์คอยเป็นผู้อบรมชี้แนะ ท่านไม่อยากรับข้าเป็นศิษย์หรือ”
“ไอ้หยา คำพูดคำจาของเจ้านี่นะ ใต้หล้านี้มีใครไม่อยากรับเจ้าเป็นลูกศิษย์บ้างเล่า แต่…”
ในขณะที่ท่านผุ้เฒ่าพูดอยู่นั้นก็นึกถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จึงเบิกตากว้าง
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน เจ้าเคยบอกว่าตอนนี้เจ้ายังไม่มีอาจารย์ใช่หรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาด้วยความสัตย์จริง
“ก็ใช่น่ะสิ ตอนแรกข้าก็บอกท่านไปแล้วมิใช่หรือ”
ท่านผู้เฒ่ามองนางด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็มิกล้าเชื่อ สุดท้ายก็ได้แต่เดาว่านางอาจมีจอมยุทธ์ขั้นสูงคอยอยู่เบื้องหลังแน่ๆ แต่อาจจะไม่เปิดเผยโฉมหน้าด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง ดังนั้นถึงได้บอกมาเช่นนี้
“เจ้า…อยากให้ข้าเป็น อาจารย์ ของเจ้าจริงหรือ”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
ฉู่หนิงอาจจะเชื่อคำพูดของนางก่อนหน้านี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นกลับต้องเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างแน่นอน
นางต้องการ อาจารย์ สักคน เพื่อนำมาเป็นเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงกะทันหันของตนเอง
หากวันข้างหน้ามีคนถาม นางก็แค่บอกไปว่ามีอาจารย์แอบมาสอนตั้งนานแล้ว ก่อนหน้านี้แอบซ่อนเร้นความสามารถมาโดยตลอดก็ใช้ได้แล้ว
ท่านผู้เฒ่าเงียบอยู่นานสองนาน
เขาไม่ใช่คนโง่ ฉู่หลิวเยว่มีแผนการอย่างไร เขารู้อยู่แก่ใจดี
การที่นางมีความคิดและแผนการเช่นนี้ สามารถเป็นข้อพิสูจน์ได้แล้วว่านางไม่ได้ไร้ค่าไร้ความสามารถตามที่ใครเขาพูดแน่นอน
ตรงกันข้าม นางเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นเลิศและมีสติปัญญาหลักแหลม!
เด็กสาวที่อายุเพียงสิบสี่ปี…ไม่รู้ว่าความลับที่ซ่อนอยู่ตัวนางมีกี่ความลับ เมื่อเขาตกลง จะมีปัญหามากมายตามมาอย่างแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้เร่งเร้า สีหน้ายังคงเรียบนิ่ง
สีหน้าของท่านผู้เฒ่าพลันเปลี่ยนไป สายตาของเขามองหน้าฉู่หลิวเยว่ที มองไปทางหม้อต้มยาที มองกลับไปกลับมา
เขาตั้งใจแล้วว่าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวายพวกนั้น แต่ว่า…
เขาอยากมาดูฉู่หลิวเยว่ปรุงยาจริงๆ นี่นา!
“ตกลง ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์”
ท่านผู้เฒ่ากัดฟัน ในที่สุดก็ตัดสินใจเด็ดขาดสักที
“นับจากวันนี้เป็นต้นไป ลับหลังข้ามาดูเจ้าปรุงยา ต่อหน้า ข้าก็คืออาจารย์ของเจ้า!”
ฉู่หลิวเยว่ไม่แปลกใจกับคำตอบนี้ เมื่อได้ยินเช่นนั้นสีหน้าก็เบิกบานแจ่มใส จากนั้นจึงประสานมือทับกันแล้วงอเข่าลงเล็กน้อย
“ลูกศิษย์ฉู่หลิวเยว่ คำนับอาจารย์”
ช่างดูเป็นพิธีการคำนับอาจารย์เหลือเกิน
ท่านผู้เฒ่านิ่งอึ้ง มองใบหน้าอ่อนเยาว์ของฉู่หลิวเยว่ ชั่วขณะหนึ่ง เขาเกิดความปีติยินดีอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์