ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 191

ทันใดนั้นเอง ลำแสงสีเงินพุ่งออกมาจากด้านนอก และกลายเป็นข่ายอาคมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมกระถางสัมฤทธิ์ทันที!

ในขณะเดียวกัน แขนที่แข็งแรงก็เข้ามาโอบรอบเอวบางของฉู่หลิวเยว่และพานางออกห่างจากกระถางสัมฤทธิ์

หึ่งๆ!

พลังอันบ้าคลั่งปะทะกับข่ายอาคมสีเงินอย่างแรง จนเกิดเสียงดังหึ่งๆ

เกิดเป็นระลอกคลื่นกระเพื่อมบนข่ายอาคม และในขณะที่คลื่นกระจายตัวออกไป เสียงหึ่งๆ ก็ถูกระงับไว้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หายไปโดยสิ้นเชิง

บรรยากาศภายในห้องเงียบสงบลงมาทันทีอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อน

หัวใจของฉู่หลิวเยว่ยังคงเต้นระรัว แล้วนางก็ได้เสียงหัวเราะนุ่มทุ้มดังขึ้นที่ข้างหู

“ทำตัวเป็นจุดสนใจเหลือเกิน เจ้าอยากให้ทุกคนมาแย่งชิงเจ้าไปจากข้าหรือ”

ผู้ที่สามารถปรากฏตัวได้อย่างรวดเร็วในเวลานี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก…หรงซิว

เมื่อได้ยินเสียงนุ่มทุ้มที่แผ่วเบาของเขาดังข้างหู หัวใจที่เต้นรัวบ้าคลั่งของฉู่หลิวเยว่ ดูเหมือนจะได้รับการปลอบโยนพลังที่ยากจะพรรณนา ดังนั้นนางจึงค่อยๆ สงบลง

เมื่อมองไปที่กระถางสัมฤทธิ์ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยข่ายอาคมสีเงินที่อยู่ข้างหน้านางอย่างสมบูรณ์ดีแล้ว นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในขณะที่หลอมยาสำเร็จ จึงมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรง จึงทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้

ถ้าหากถูกคนจับสังเกตได้ล่ะก็…

นางปิดเปลือกตาลง

“ขอบคุณ”

หรงซิวฟังน้ำเสียงของนางจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงชะโงกหน้าพิศมองใบหน้าของนาง แล้วจึงเห็นว่านางมีสีหน้าซีดเซียวเป็นอย่างมาก

ดวงตาของเขานิ่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นผลพวงมาจากการดึงพลังในร่างกายออกมามากเกินไปในตอนที่หลอมยาเมื่อครู่นี้ จึงทำให้นางหมดแรงอ่อนล้าและหน้าซีด

เช่นนี้มันคุ้มค่าแล้วหรือกับการช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร

“ถ้าหากข้าไม่มา เจ้าจะเป็นอย่างไร”

ฉู่หลิวเยว่อึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นนางช้อนสายตามองเขา แต่กลับต้องพบกับสีหน้าที่คาดเดาไม่ได้ของเขา

ดูเหมือนว่าเขากำลัง…โกรธ?

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ แล้วเอื้อมมือไปกุมหน้าอกเสื้อของเขาโดยไม่รู้ตัว

“องค์ชายจะไม่มาจริงๆ หรือ”

ท่ามกลางรัตติกาลอันมืดมิด แสงเทียนสว่างไสวกลับมิอาจเทียบเทียมกับแสงระยิบระยับราวดาราจักรในดวงตาคู่งามของนางเลยสักนิด

แม้นำเสียงของนางจะฟังดูธรรมดาอย่างยิ่ง แต่เมื่อหรงซิวได้ยินแล้วกลับรู้สึกน่าสัมผัสกว่าเสียงใดๆ ในใต้หล้านี้

ร่องรอยของขุ่นมัวที่ก้นบึ้งของหัวใจหายไปอย่างรวดเร็ว มีเพียงชั้นแห่งความสุขอันละเอียดอ่อนที่พรั่งพรูออกมา

“เจ้าชอบข้าแล้วหรือ”

ฉู่หลิวเยว่เบะปากเล็กน้อย ก่อนจะสบถเสียงเบาแล้วผลักออกจากอ้อมกอดของเขา

“เปล่าเสียหน่อย แต่เรื่องวันนี้ก็ถือว่าพระองค์ได้ชดใช้ความผิดแล้ว”

“ชดใช้ความผิด? แล้วข้าทำผิดอะไรหรือ”

“องค์ชายรู้ดีกว่าใคร พระองค์ต้องการให้หม่อมฉันพูดมากกว่านี้หรือไม่”

ในคราแรกก็ยังมิได้รู้สึกอะไร ทว่าพักหลังไม่กี่วันมานี้ นางคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้งก็มักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

หรงซิวเป็นคนเช่นไร ถ้าหากเขาไม่ต้องการให้แม่นางพวกนั้นมารบกวน เช่นนั้นแล้วก็ต้องมีวิธีทางที่ทำให้พวกนางไม่ต้องมาเกะกะสายตาอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

ในวันนั้น เขากลับให้เยี่ยนชิงออกหน้าแทน ถึงจะเชิญแม่นางเหล่านั้นกลับไปได้

ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีอะไรผิดแปลก ทว่านี่ไม่ใช่วิสัยของหรงซิว

นางสงบสติอารมณ์แล้วไตร่ตรองดีๆ ก็พอจะเดาเรื่องราวได้บ้างแล้ว

ในขณะที่หรงซิวเองก็หาได้ปฏิเสธสิ่งใด

นางเป็นคนที่ฉลาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

“ไม่เจอกันหลายวัน ที่แท้เยว่เอ๋อร์ก็เอาแต่คิดถึงข้าอยู่นี่เอง”

ฉู่หลิวเยว่กลอกตาใส่เขา แล้วขี้เกียจจะต่อความยาวสาวความยืดกับเขา

เพราะรู้ดีว่าเขาหน้าไม่อายอยู่แล้ว

ก่อนที่นางจะเดินไปหากระถางสัมฤทธิ์ แล้วนางมองไปที่ข่ายอาคมสีเงินอย่างจริงจัง

“องค์ชายทรงมีของวิเศษไม่น้อย ข่ายอาคมนี้คงมีค่าอย่างยิ่ง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์