………………..
ภายใต้แสงเทียนสลัว ฉู่หลิวเยว่มองเห็นใบหน้าเปื้อนเลือด และแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หนานหงหยางแทบจะเบิกตากว้างในทันที จากนั้นก็หดตัวกลับลงไป
แต่น่าเสียดายที่มือและเท้าของเขานั้นหักไปแล้ว ตอนนี้เขาจึงไม่สามารถขยับเขยื้อนตัวได้มาก จึงทำได้เพียงดิ้นรนเล็กน้อยเท่านั้น
ท่าทางของเขาจนตรอกและอนาถมาก
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ นางก็คิดเอาไว้แล้วว่า เยี่ยนชิงจะต้องใช้วิธีการมากมายในการง้างปากหนานหงหยาง
แต่ตอนที่ได้มาเห็นจริงๆ นางก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
นางไม่ได้รู้สึกว่าที่แห่งนี้ดูโหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด แต่ที่นางตกใจก็คือ เยี่ยนชิงสามารถทิ้งรอยบาดแผลมากมายให้แก่หนานหงหยางที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์
ผิวหนังและร่างกายของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์จะแข็งแกร่งอย่างมาก
ต่อให้ตอนนี้หนานหงหยางไม่สามารถโคจรพลังปราณดั้งเดิมภายในร่างกายได้ เขาก็สามารถอดทนต่อการโจมตีได้
แต่เขากลับอยู่ในสภาพนี้ เห็นได้ชัดว่าวิธีการของเยี่ยนชิง…
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
สมแล้วที่เป็นคนสนิทของหรงซิว
สามารถมาอยู่ในตำแหน่งตอนนี้ได้ เยี่ยนชิงจะต้องมีข้อดีของตนเองที่ต่างจากคนอื่นแน่นอน และเขาต้องไม่ธรรมดาอย่างหน้าตาของเขา
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน พวกเราไม่ได้จะทำอันใดเจ้า”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะเสียงเรียบ น้ำเสียงอ่อนโยน
แต่ครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าในสายตาหนานหงหยางนางก็เป็นเหมือนกับภูตผีปีศาจ
“เป็นเจ้า พวกเจ้าหรือ!”
หนานหงหยางเพิ่งจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่มานั้นไม่ใช่เยี่ยนชิง แต่เป็นหรงซิวและฉู่หลิวเยว่
เขารู้สึกเคียดแค้นเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้อีกฝ่ายเป็นมีดและเขียง ส่วนเขาเป็นปลาที่อยู่บนเขียง แต่เขาไม่กล้าทำตัวกำเริบเสิบสาน
เขารู้ดีว่าหากเขายั่วโมโหทั้งสองคนนี้ จุดจบของเขาจะต้องอนาถกว่าตอนนี้เป็นร้อยเท่า!
“ข้า ข้าพูดแล้ว ข้าพูดไปทั้งหมดแล้ว! พวกเจ้าคิดจะทำอันใดอีก!”
ร่างกายของหนานหงหยางตึงเกร็ง พลังคอแห้งพราก แฝงด้วยความกรุ่นโกรธและเคียดแค้น
ไม่รู้ว่าเขากังวลว่าคนอื่นจะได้ยินตอนที่เขาพูดคำพูดนั้นหรือเปล่า น้ำเสียงของเขาจึงต่ำลงเป็นอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“วางใจเถอะ พวกเราไม่คิดจะทำแบบนั้น เพียงแค่มา…ขอบคุณเจ้า”
ดวงตาของนางโค้ง แววตาเปล่งประกาย มุมปากยกนิ้วขึ้น ท่าทางจริงใจเป็นอย่างมาก
นางมาที่นี่เพื่อจะมากล่าวคำขอบคุณจริงๆ
เพราะคำให้การของหนานหงหยาง หลังจากนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขากับตระกูลหนานก็จะร้าวรานโดยสมบูรณ์ และไม่มีทางอยู่ร่วมด้วยกันได้
“วีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่” ผู้นี้ ฉู่หลิวเยว่จำเป็นจะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
เมื่อนางพูดประโยคนี้ก็เท่ากับว่านางไม่ได้มีแก่ใจจะลงมือกับหนานหงหยางอย่างโหดเหี้ยมอีกแล้ว
ใบหน้าของเขาซีดขาวในทันที
“เจ้า…พวกเจ้าในเมื่อข้าพูดออกไปทั้งหมดแล้ว พวกเจ้า พวกเจ้าก็ปล่อยให้ข้ามีความสุขเถอะ!”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
หึ
ไม่รู้ว่าเยี่ยนชิงทำอะไรกับเขาบ้าง คาดไม่ถึงว่าหนานหงหยางจะถูกเขาบีบบังคับจนถึงขั้นนี้
อยู่ไม่สู้ตาย จึงจำเป็นต้องร้องขอความตายเป็นร้อยรอบพันรอบ
แต่น่าเสียดาย ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ตั้งใจจะทำเช่นนั้น
นางส่ายหน้าอย่างเสียใจเป็นอย่างมาก
หากเป็นเช่นนั้น เขา…
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...