สุ้มเสียงหลากหลายรูปแบบกระหึ่มดังขึ้นมาทันใด ดูแล้วเหมือนทุกคนกำลังโกรธแค้นกับเรื่องนี้มากจนอยากพุ่งไปแก้แค้นท่าเรือดอกท้อตอนนี้ ทันทีอย่างใดอย่างนั้น
ทว่า เป็นเช่นนี้จริงๆ งั้นหรือ?
หนานอีฝานหลุบตามองต่ำ ปกปิดไว้ซึ่งแววเย็นเยียบในนัยน์ตาของตน
เขาน่ะรู้แจ้งแก่ใจถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของคนพวกนี้ดี
ภายนอกดูแล้วต่างแบ่งปันศัตรูและความโกรธแค้นร่วมกัน หากแต่ในความเป็นจริง ไม่แน่ว่าบางคนอาจจะใจเต้นระริกอย่างเบิกบานไปแล้วก็ได้!
แต่ว่าหนานอวี่สิงเองก็ตายไปด้วย!
เช่นนี้แล้ว สายเลือดของหนานอีฝานก็ไม่มีคนที่เหมาะสมพอที่จะเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหนาน!
ตระกูลหนานดูเหมือนรักใคร่กลมเกลียวกันดี ทว่า การแข่งขันระหว่างสายเลือดนั้นดุเดือดอย่างมาก
หลายปีก่อนหน้านี้ก็เพราะหนานอวี่สิงพรสวรรค์โดดเด่น เสริมด้วยอำนาจของหนานอีฝานจึงยังคงสถานการณ์ให้ปกติไว้ได้
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
หนานอวี่สิงตายแล้ว หนานอีฝานเองก็ซูบเซียวลงอย่างเห็นได้ชัด
ความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างใหญ่หลวงแทบทำให้เขาล้มทั้งยืน
เดิมเขาก็แบ่งสติส่วนหนึ่งไปจัดการเรื่องอื่นแทบไม่รอดแล้ว
แต่ตอนนี้เขาไม่คิดจะสนใจอีกต่อไป
ช่วงระยะเวลานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเหลือเกิน การโจมตีที่ทยอยเข้ามาแทบทำให้เขาพ่ายแพ้
ทุกคนคิดแค่ว่าเขาเศร้าโศกเพราะสูญเสียลูกรักทั้งสองคนไป ใครจะเข้าใจถึงความทรมานที่แท้จริงในใจเขาได้หนอ?
เขาจ่ายมันในราคาสูงลิบลิ่ว ถึงขั้นส่งหนานอีอีไปสู่ทางตันด้วยตัวเอง ตายสภาพศพไม่ครบส่วน แลกกับชีวิตของหนานอวี่สิง
แล้วผลลัพธ์ล่ะ?
ผ่านไปไม่นานก็ตายตกอยู่ในที่ท่าเรือดอกท้ออย่างใดเล่า!
หนานอีฝานรู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้ล้วนมีจิตคิดร้ายกันอยู่ไม่น้อย
แต่เขาก็คร้านจะใส่ใจ
ตอนนี้เขาคิดอยู่เรื่องเดียว นั่นก็คือแก้แค้น!
เขาจะต้อง… ทำให้หรงซิวและฉู่หลิวเยว่ชดใช้หนี้เลือดด้วยเลือด!
อย่างใดซะเขาก็ไม่มีอันใดจะเสียแล้ว เหตุใดยังต้องกลัวเกรงพวกมันอีกกัน?
เขาผงกศีรษะ
“เช่นนั้นครั้งนี้ก็ขอฝากหนี้เลือดและชื่อเสียงเรียงนามของพวกเราตระกูลหนานไว้ที่ทุกท่านด้วย!”
ภายในห้องอันใหญ่โตโอ่อ่าเหลือเพียงแค่หนานอีฝานผู้เดียว
หนานเหอเถียนเดินเข้ามา
“ท่านประมุข คืนนี้ล่วงไปยามดึกแล้ว ท่านไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถิด”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเป็นกังวล
ก่อนหน้านี้ หนานอีฝานรีบร้อนรุดไปตระกูลอี้ในคืนนั้น จัดแจงให้เขาคอยรักษาการณ์อยู่ที่นี่
เดิมเขาคิดว่าหนานอีฝานจะอยู่ที่นั่นหลายวัน กลายเป็นว่าไม่กี่อึดใจก็กลับมาแล้ว
ลองคำนวณดูแล้ว หนานอีฝานอยู่ที่ตระกูลอี้แค่ไม่กี่ชั่วยามด้วยซ้ำ
หลังจากกลับมา ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอ เขาก็เรียกคนในตระกูลมารวมตัวกัน จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้นมาแล้วตัดสินว่าจะส่งกำลังไปแก้แค้นท่าเรือดอกท้อ!
ต่อให้เป็นมนุษย์เหล็กก็ทนทรมานจากการตรากตรำทำงานทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้ไม่ไหวหรอก!
หนานอีฝานส่ายศีรษะ
“ข้านอนไม่หลับ”
ยามเขาหลับตาลง ในหัวก็มักจะปรากฏสภาพก่อนตายของหนานอีอี ไหนจะหน้าของหนานอวี่สิง
ภาพฉากเหล่านี้ลอยขึ้นมาในหัวของเขาไม่หยุดหย่อน ราวกับคมมีดแหลมที่กรีดแทงอกของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเลือดไหลนอง
เขาจะไปหลับลงได้อย่างใด?
หนานเหอเถียนถอนใจออกมา
เขาติดตามหนานอีฝานมาก็หลายปี รู้จักและเข้าใจในตัวเขามากที่สุด
แม้หนานอีฝานจะไม่ได้บอกเรื่องครั้งนี้แก่เขาจนกระจ่าง แต่จะมากจะน้อยเขาก็พอเดาบางส่วนได้บ้าง
หนานเหอเถียนหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวปลอบใจว่า
“ท่านประมุขโปรดวางใจ แม้คนผู้นั้นจะแตะต้องไม่ได้ แต่ในเมื่อครั้งนี้ได้ตระกูลอี้ช่วยเหลือเต็มที่ เช่นนี้ชัยชนะของพวกเราก็มีโอกาสไม่น้อย…”
หนานอีฝานเหยียดยิ้มมุมปาก สีหน้าแข็งทื่อขึ้นมาหลายส่วนแฝงแววเยาะเย้ย
ครานี้คนของตระกูลหนานบาดเจ็บล้มตายไปกันถ้วนทั่ว
ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์หลายคนที่ให้ความร่วมมือเองก็พ่ายแพ้ย่อยยับกลับมาจนหมดสิ้น
จนกระทั่งตอนนี้ คนที่หลบหนีออกมาได้ไม่มีแม้แต่คนเดียว กระทั่งข่าวคราวยังมิอาจส่งกลับมาด้วยซ้ำ
พอจะนึกออกได้เลยว่า ตอนนี้พวกลั่วเหยี่ยนจะอยู่ในท่าเรือดอกท้อในสภาพแบบใด!
นี่!
ก็คือคำเตือนที่หรงซิวส่งให้แก่เขา!
หากเป็นแต่ก่อน เขาก็คงไม่คิดงัดข้อกับหรงซิวอย่างเปิดเผยถึงขนาดนี้
แต่มาบัดนี้ เขาเองก็ไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...