………………..
ดิ้นรนอยู่ครึ่งค่อนวัน ความช่วยเหลือก็ไม่ได้ แต่ดันได้ศัตรูเพิ่มมาเสียอย่างนั้น!
แถมยังเป็นประเภทที่แข็งแกร่งเกินต้านอีกด้วย!
หนานอีฝานรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้ เมื่อคนที่ชนด้วยเป็นฉู่หลิวเยว่ ทุกอย่างล้วนกลับตาลปัตรราวถูกผีหลอก!
เขาซ่อนไพ่ไม้ตายนี้มาหลายปีแล้ว แต่พอเขาเปิดมันขึ้นมา ท้ายที่สุดมันกลับถูกฉู่หลิวเยว่แทรกแซงจนยุ่งเหยิงด้วยคำพูดไม่กี่คำ!
ต่อให้คิดเช่นไร เขาก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าฉู่หลิวเยว่สามารถผูกมิตรกับอสูรศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลสองเผ่านี้ในเวลาเดียวกันได้อย่างใด!
และไม่ใช่เพียงมิตรภาพธรรมดา หากแต่เป็นความสัมพันธ์ที่สามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือได้ทุกที่ทุกเวลา!
ในใจของหนานอีฝานเจ็บปวดรวดร้าว
ถ้ารู้อย่างนี้ เขาไม่เชิญโหมวฝูซานออกมาหรอก!
แต่ตอนนี้มันสายเกินกว่าจะแก้ตัวแล้ว!
…
การปรากฏตัวและคำพูดของโหมวฝูซาน ทำให้สถานการณ์ในท้องที่แห่งนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
ถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหมดกล้าลงมือล่ะก็ ยามนี้หลายคนกลับเริ่มลังเลขึ้นมาเสียแล้ว
ไท่ซวีเฟิ่งหลงเป็นถึงอสูรศักดิ์สิทธิ์เชียวนะ!
เดิมทีแค่สัญญาของฉู่หลิวเยว่กับนายน้อยเผ่าหงส์ทองคำนั้นก็ยุ่งยากมากพอแล้ว
ตอนนี้ดันมีไท่ซวีเฟิ่งหลงเข้ามาอีก…
สำหรับพวกของหนานอีฝาน นี่ถือเป็นการเหยียบย่ำซ้ำเติมกันอย่างไม่ต้องสงสัย!
ก็จริงที่ตระกูลอี้และตระกูลหนานมีฐานะสูงส่ง และแข็งแกร่งกว่าตระกูลชั้นหนึ่งอื่นๆ
แต่เมื่อเทียบกับอสูรศักดิ์สิทธิ์สองเผ่านี้ พวกเขายังด้อยกำลังกว่ามาก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยามที่สองเผ่านี้ร่วมมือกัน พวกเขายิ่งจะทรงพลังมากยิ่งขึ้น!
“ท่านประมุข ท่านว่า… พวกเราควรจะสู้ต่ออีกรึ?”
คนตระกูลอี้กระซิบเสียงแผ่ว
ดูๆ แล้ว… มีแต่วุ่นวายกว่าเดิมเสียกระมัง
โชคดีที่พวกเขายังไม่ได้ลงมือ หากรีบออกไปตอนนี้ ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งนี้ได้
อี้เหวินเทาหันกลับมามองผู้พูด คิ้วเข้มกระตุกยิกๆ แล้วพูดเสียงเรียบว่า
“เจ้าอยากหนีหรือ?”
เจ้าของประโยคเมื่อครู่ตัวสั่นงันงกทันที
“มะ มิใช่…”
แม้นสีหน้าของประมุขตระกูลจะไร้การเปลี่ยนแปลง แต่กลับมีไอเย็นแผ่ซานออกมาจนทำให้ผู้คนรอบด้านเย็นวาบไปทั้งกาย
เดิมทีผู้คนที่มุงอยู่คิดจะพูดเสนอแนะสักสองสามคำ แต่พอได้ยินอี้เหวินเทาถามเช่นนี้ ก็จำต้องหยุดความคิดนั้นทันที
“กว่าจะมาถึงที่นี่ จำต้องสูญเสียอันใดไปมากมาย หากกลับไปมือเปล่า แล้วตระกูลอี้ของข้าจักมีหน้ายืนหยัดอยู่ในอาณาจักรเสิ่นซวี่ได้อย่างใด?”
น้ำเสียงของอี้เหวินเทายังคงราบเรียบ แต่ทำให้ทุกคนฉุกคิดขึ้นได้
ใช่แล้ว!
มาถึงขนาดนี้แล้ว จะบอกให้กลับก็กลับง่ายๆ รึ?
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในวันนี้จะแพร่กระจายไปทั่วอาณาจักรเสิ่นซวี่อย่างรวดเร็ว ราวกับมีปีก!
เมื่อถึงตอนนั้น คนเหล่านั้นจะมองตระกูลอี้เช่นไร?
อีกอย่าง การที่พวกเขามาที่นี่ในครานี้ ก็เพื่อยึดท่าเรือดอกท้อมาเป็นของตัวเอง
หากพลาดพลั้งไป หลังจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้พบกับสถานที่ที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้อีกเมื่อไร
ไม่ว่าจะอย่างใด พวกเขาทำได้เพียงเลือกเดินต่อไปเท่านั้น!
…
หนานอีฝานดึงสติสัมปชัญญะกลับมาได้ในพลัน แต่ยังไม่ทันได้ขยับตัว ก็มีลำแสงสีเขียวแวบผ่านเข้ามาในดวงตาของเขา!


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...