………………..
เสียงคำรามของหงส์ดังกังวานขึ้นทั่วบริเวณ!
จากนั้นก็มีเงาร่างเล็กๆ เดินออกมาจากเปลวเพลิง!
ดูแล้วเหมือนเด็กอายุประมาณสามสี่ขวบเท่านั้น นางสวมกระโปรงใบบัวสีทองคำชาด บนศีรษะมัดมวยผมอยู่สองข้าง เท้าเล็กๆ เปลือยเปล่าราวหยกใส ดูแล้วน่ารักมาก
โดยเฉพาะดวงตากลมโตเหมือนลูกองุ่นดำที่เปล่งประกายและมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ตอนที่เดินเข้ามา กระดิ่งบนมวยผมของนางก็ส่งเสียงกรุ๊งกริ๊งตามจังหวะการเดิน
ตอนที่พวกเขาเห็นแม่นางน้อยคนนี้เดินออกมา พวกเขาก็ชะงักค้างไป ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะดึงสติกลับมาได้
“หงส์ทองคำ?”
“นางทำพันธสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ?”
“ไม่ถูกต้อง หงส์ทองคำตัวนี้ยังเด็กมากเกินไป ตามหลักการแล้ว มันไม่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้!”
“นั่นมัน…ไม่ใช่นายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำหรอกหรือ? ดังนั้นน่าจะมีอันใดบางอย่างแตกต่างออกไป?”
แม้ว่าข่าวการทำพันธสัญญาของฉู่หลิวเยว่กับถวนจื่อจะแพร่สะพัดออกไปทั่วอาณาจักรเสิ่นซวี่ตั้งนานแล้ว คนที่เคยเห็นถวนจื่อจริงๆ มีน้อยจนสามารถนับนิ้วได้
ดังนั้นการปรากฏตัวของถวนจื่อในครั้งนี้จึงทำให้ผู้คนรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
ในสถานการณ์เช่นนี้ ถวนจื่อกลับรู้สึกชินเสียแล้ว
นางยืนอยู่ด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่ มือข้างหนึ่งเท้าเอว ส่วนมืออีกครั้งหนึ่งชี้ไปทางอี้เหวินเทา คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย แล้วถามขึ้นด้วยความกรุ่นโกรธ
“ตาแก่คนนี้คิดจะทำร้ายอาเยว่ของพวกเราหรือ?”
นางอายุยังน้อย แม้ว่าจะพูดห้วนท่าทางเป็นอริแต่ยังแฝงด้วยความน่ารักอยู่
เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น พวกเขาไม่เพียงไม่รู้สึกหวาดกลัว แต่กลับรู้สึกว่ามันน่าขันเล็กน้อยด้วย
หงส์ทองคำเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล และคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ ซึ่งมีฐานะไม่ต่ำต้อยเลย
แต่…
นางยังเด็กเกินไป!
เด็กตัวเล็กขนาดนี้จะเอาอันใดมาสู้!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้บำเพ็ญเพียรทั่วไปอาจจะยังสามารถสร้างแรงคุกคามได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนในระดับอี้เหวินเทา…มันก็ไม่มีประโยชน์เลย
อี้เหวินเทาเหลือบสายตามองถวนจื่อแล้วขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เด็กขนาดนี้แต่สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้…
มิน่าล่ะแม้ว่านางจะไม่ได้ยกเลิกพันธสัญญากับฉู่หลิวเยว่ก็ยังดำรงตำแหน่งนายน้อยได้
พรสวรรค์ทางสายเลือดน่าจะแข็งแกร่งน่าดู…
อี้เหวินเทาระวังตัวอย่างมากแตกต่างจากคนอื่น
ดังนั้นสายตาที่มองถวนจื่อนั้นจึงแตกต่างจากคนอื่น ไม่มีการเมินเฉยและดูถูกเลย
“พวกเราตกลงกันว่าจะประลองกันหนึ่งครั้ง หากใครชนะก็ได้ครอบครองท่าเรือดอกท้อแห่งนี้”
อี้เหวินเทาพูดขึ้นเสียงเรียบ
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นเลย เพียงแค่ฐานะของอีกฝ่ายก็ไม่อาจดูเบาได้แล้ว
และเขาไม่อยากจะเรียกอี้เจามาที่นี่
เมื่อถึงตอนนั้นคงจะลำบากมากกว่านี้แน่นอน!
ส่วนคำพูดของอี้เหวินเทา ถวนจื่อก็คร้านจะใส่ใจ
“เจ้าต้องการแย่งของของอาเยว่ นั่นยิ่งให้อภัยไม่ได้!”
ท่าเรือดอกท้อแห่งนี้อาเยว่ได้มาอย่างยากลำบาก!
นี่เพิ่งผ่านมาไม่เท่าใด คาดไม่ถึงว่าจะมีคนมาแย่งชิงอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้แล้ว?
อี้เหวินเทาขมวดคิ้วขึ้น
ต่อให้เขาไม่เห็นเรื่องเหล่านี้อยู่ในสายตา แต่เด็กน้อยคนหนึ่งกลับด่าว่าเขาต่อหน้าธารกำนัลมากมาย นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่ง
หากเขาไม่โมโหก็รู้สึกแปลกแล้ว
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...