………………..
เมื่อทั้งสองประมือกัน คาดไม่ถึงว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ของฉู่หลิวเยว่จะสามารถถีบร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศของอี้เหวินเทาจนกระเด็น?
เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก สีหน้าของคนตระกูลหนานและตระกูลอี้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนน่ารับชม
ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ไม่ว่าอย่างใดพวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อเลยว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ของระดับเทพขั้นสูงคนหนึ่งจะสามารถเอาชนะร่างศักดิ์สิทธิ์ของระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้!
เรื่องแบบนี้ หากพูดออกไปแล้วคนอื่นก็จะมองว่าเป็นเรื่องตลก!
อีกด้านหนึ่ง ซั่งกวนจิ้งและคนอื่นๆ ก็รู้สึกตกใจมากเช่นกัน
แม้ว่าหรงซิวจะอธิบายแล้วว่าร่างศักดิ์สิทธิ์ของฉู่หลิวเยว่หลอมมาจากทัณฑ์ทลายเทพ ความจริงแล้วพวกเขาก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน แต่ไม่เคยเห็นกับตาของตนเอง
ไม่อย่างนั้นตอนที่ฉู่หลิวเยว่อัญเชิญร่างศักดิ์สิทธิ์ออกมาก็จะต้องมีคนรู้จักบ้างแล้ว
ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์น้อยคนนักที่จะสามารถอัญเชิญทัณฑ์ทลายเทพออกมาได้ อีกทั้งคนที่สามารถทะลวงด่านได้สำเร็จก็นับว่าหายากยิ่งกว่า
เดิมทีแล้วพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก
หากหรงซิวไม่ได้พูดขึ้นมา ตอนนี้เกรงว่าพวกเขาก็คงมึนงงอยู่เหมือนกัน
อีกทั้งความแข็งแกร่งของร่างศักดิ์สิทธิ์ที่ฉู่หลิวเยว่แสดงออกมานั้น มันก็น่าตกใจมากจริงๆ
นี่มันไม่สามารถใช้คำว่า “สุดยอด” มาอธิบายได้แล้ว
เห็นได้ชัดว่านี่มันเกินกว่าหรือลิขิตสวรรค์ไปแล้ว!
“โอ้ พี่ซั่งกวน ทายาทของพี่คนนี้ ช่าง…”
จ้าวซงลังเลอยู่สักพัก แต่เขาไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนมาแทนความรู้สึกในตอนนี้ดี
สุดท้ายเขาก็หัวเราะพร้อมส่ายหน้าออกมาอย่างจนปัญญา ในแววตามีทั้งความชื่นชมและอิจฉาอย่างปิดไม่มิด
“ท่านนี่โชคดีจริงๆ !”
ทุกตระกูลล้วนยอมจ่ายทั้งเงินและทรัพยากรจำนวนมากเพื่ออบรมเด็กรุ่นใหม่
นั่นเพื่ออันใดน่ะหรือ?
ก็เป็นเพราะว่าให้เด็กรุ่นใหม่ได้สืบทอดความรุ่งเรืองต่อไปจากรุ่นสู่รุ่นอย่างใดเล่า?
มีเพียงแค่ทายาทที่โดดเด่นมากเพียงพอจึงทำให้เขารู้สึกมีเกียรติมีศักดิ์ศรี และตระกูลก็สามารถเติบโตต่อไปได้
แต่ฉู่หลิวเยว่เพียงคนเดียวก็ไม่รู้ว่าผ่านอันใดมามากแค่ไหนแล้ว!
นางมาจากนอกพรมแดนอาณาจักรเสิ่นซวี่ เมื่อเปรียบเทียบกับคุณหนูคุณชายของตระกูลทั่วไป จุดเริ่มต้นของนางนั้นต่ำกว่าคนอื่นมาก
ด้วยพรสวรรค์ที่เหนือมนุษย์ และโชคชะตาฟ้าลิขิต!
คนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้มีใครบ้างที่ไม่ได้เป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น?
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับฉู่หลิวเยว่แล้ว พวกเขาก็ยังรู้สึกด้อยกว่ามาก!
แม้กระทั่งจ้าวซงก็ยังต้องถอนหายใจออกมา
ซั่งกวนจิ้งไม่ได้พูดอันใด เขาจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง ภายในแววตามีแสงเปล่งประกาย
แน่นอนว่าทายาทของเขาจะต้องโดดเด่นมากที่สุดอยู่แล้ว!
จ้าวซงหันมองทางหรงซิวแล้วยิ้มออกมาอย่างทอดถอนใจว่า
“…ฝ่าบาทสายตาเฉียบแหลมจริงๆ”
มุมปากของหรงซิวยกโค้งขึ้นเล็กน้อย และเขาก็ตอบรับคำชมนั้นด้วยความยินดี
เขาก็เป็นเช่นนี้เสมอ
…
ฉู่หลิวเยว่ฉวยโอกาสโจมตีอย่างต่อเนื่อง
ครั้งนี้นางไม่ได้ใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์อีกแล้ว แต่พุ่งตรงเข้าไปต่อสู้ด้วยหมัด!
หมัดปะทะเนื้อ!
ความแข็งแกร่งของร่างศักดิ์สิทธิ์แปดทิศยังน้อยกว่านางหนึ่งขั้น กอปรกับก่อนหน้านี้มันได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งอี้เหวินเทายังไม่สามารถสนับสนุนพลังให้แก่มันได้ หลังจากนั้นไม่นานมันก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทำได้เพียงต้องยอมโดนทำร้าย
ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกหนังศีรษะชาหนึบ
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับไม่แสดงอารมณ์อันใดเลยตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่ดวงตาที่พร่างพราวราวดวงดาวก็แปรเปลี่ยนเป็นความโหดเหี้ยม!
นางเงียบไม่พูดไม่จา เอาแต่ลงมือเพียงอย่างเดียว!
…
อีกด้านหนึ่ง ถวนจื่อก็พุ่งตัวข้ามผ่านค่ายกลเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนมาหยุดยืนที่ข้างกายของจื่อเฉิน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...