ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 269

จู่ๆ ก็เกิดไฟลุกไหม้บนร่างกายของหยางเจี้ยนชิงอย่างกะทันหัน!

หลังจากเกิดเสียงการระเบิดที่น่ากลัว ร่างกายของเขาก็ระเบิดจนกระจายทันที!

เปลวไฟกลืนกินเลือดเนื้อและเลือดที่กระเด็นอย่างรวดเร็ว!

ฉู่หลิวเยว่รีบโยนลูกแก้วพรมแดนไวฑูรยะออกมาทันที เพื่อปิดกั้นพลังที่น่ากลัวเอาไว้!

เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อทุกคนรู้สึกตัวอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้นร่างของหยางเจี้ยนชิงก็กลายเป็นเถ้ากระดูกที่อยู่ในเปลวไฟนั้นแล้ว!

เขาไม่เหลือแม้แต่ร่างที่สมบูรณ์!

“สมควรตาย!” ฉู่หลิวเยว่สาปแช่ง

เดิมทีนางก็กังวลว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ฉะนั้นจึงตั้งใจเดินเข้าไปถาม แต่ไม่คิดว่าสุดท้ายจะเหลือเพียงเถ้ากระดูกรวดเร็วถึงเพียงนี้ บนพื้นดินก่อนหน้านี้ นอกจากร่องรอยของขี้เถ้าชิ้นเล็กๆ ก็ไม่เหลืออะไรอีกเลย

มีคนใช่ไม่น้อยในบรรดาฝูงชนที่อ้าปากค้าง

ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป หยางเจี้ยนชิงไม่เพียงแต่ถูกเปิดโปงว่าใช้กู่โลหิตเท่านั้น อีกอย่างยังถูกระเบิดจนตาย และไม่เหลือแม้แต่เศษซากกระดูกอีกด้วย!

ต่อมาก็ควรจะเป็นเวลาที่จะประกาศความผิดของเขาอย่างเป็นทางการ แต่เขากลับตายไปโดยไม่ทันได้รับผิดก่อนแล้ว

ฉู่หลิวเยว่มองไปรอบๆ และลำแสงอันเย็นเฉียบนั้นก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นอีก แต่ในใจของนางกลับมีความสงสัยซ่อนอยู่ หยางเจี้ยนชิงต้องเกี่ยวข้องกับคนคนนั้นแน่นอน!

ไม่ว่าเขาจะมีกู่โลหิต หรือว่าสุดท้ายเขาจะถูดระเบิดก็เห็นได้ชัดว่าถูกคนควบคุมบงการอยู่ เมื่อครู่นางก็เห็นอย่างชัดเจนว่าหยางเจี้ยนชิงไม่ได้อยากตาย ถ้ายังมีเวลาอีกสักหน่อยหรือถ้านางถามอะไรที่เป็นประโยชน์ออกมาได้อีกสักหน่อย อย่างไรก็ตาม ฝีมือของฝ่ายตรงข้างนั้นแข็งแกร่งเหลือเกิน เขาไม่เหลือโอกาสใดๆ ให้และจบชีวิตของหยางเจี้ยนชิงไปทันที!

ในสนามอันกว้างใหญ่ มีเรื่องสักพักซุนจ้งเหยียนถึงจะเอ่ยปาก

“การแข่งขันสมาคมเยาวชนในครั้งนี้เป็นความสะเพร่าของพวกข้าเอง แต่ท่านหัวหน้าสำนักเฉิงหันควรจะอธิบายอะไรหน่อยหรือไม่? อย่างแรกก็คือเหิงจิ่งชั่ว ต่อมาก็คือหยางเจี้ยนชิงว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ถ้าหากกู่โลหิตไม่ถูกค้นเจอ พวกเราทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ก็คงจะต้องทุกข์ทรมานกันทั้งหมด! การรับผิดชอบครั้งนี้ ขอถามท่านเฉิงหันว่าท่านรับไหวหรือไม่!”

ในสนามแข่งขันแห่งนี้มีผู้คนกว่าหลายหมื่นคน และยังมีการรวมตัวกันของอัจฉริยะทั้งสามสำนักเอาไว้ด้วย!

ยิ่งไปกว่านั้นคือยังมีราชวงศ์ของแคว้นเหย่าเฉินด้วย!

ถ้าเกิดคนเหล่านี้เป็นอะไรไป…ไม่อยากจะจินตนาการถึงเลยจริงๆ

“ข้า…ข้า” เฉิงหันก็เริ่มร้อนรน มีแค่เหิงจิ่งชั่วคนเดียวยังไม่พอ ยังมีหยางเจี้ยนชิงเพิ่มมาอีกคนด้วย!

เขาพูดไม่ออกจริงๆ และไม่ว่าอย่างไรเขาก็ล้างมันออกไม่ได้!

“ข้าไม่รู้จริงๆ!” ฝูอวิ๋นซานหัวเราะพลางพูดเสริม

“เจ้าเป็นหัวหน้าสำนัก พอเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นเจ้าแค่บอกว่าไม่รู้ก็จบแล้วอย่างงั้นรึ?”

เฉิงหันหายใจแทบไม่ทั่วท้อง เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ถูกกับแคว้นเย่าเฉิน!

มากี่ครั้งก็มักจะเจอเรื่องไม่ดีอยู่เสมอ!

เฉิงหันสูดหายใจเข้า ก่อนจะโค้งคำนับให้จักรพรรดิจยาเหวิน

“ขอฝ่าบาทโปรดอภัย ข้าจะไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป เมื่อการแข่งขันสมาคมเยาวชนจบลงแล้ว ข้าจะตรวจสอบเรื่องเหิงจิ่งชั่วทีเดียว! ถ้าหากเกิดปัญหาอะไรขึ้นอีก ข้าจะไม่มีการประนีประนอมให้เด็ดขาด!”

ในใจของจักรพรรดิจยาเหวินกังวลกับเรื่องนี้มาก

แต่ในเมื่อเฉิงหันพูดขนาดนี้แล้ว เขาก็ไม่ได้บีบบังคับอะไรใครต่อทำได้เพียงโบกมือ

“ข้ารู้ว่าหัวหน้าสำนักเฉิงหันนิสัยอย่างไร เขาไม่ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้กับนักเรียนของเขาแน่นอน ตอนนี้การแข่งขันสมคมเยาวชนยังไม่จบ รอให้ทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ค่อยหารือตรวจสอบกันอีกทีเถิด”

เมื่อคนที่มีศักดิ์สูงที่สุดเอ่ยปาก ทุกคนจึงไม่ได้ยึดติดไม่ปล่อย

ซุนจ้งเหยียนมองเฉิงหันด้วยแววตาลึกซึ้ง

“ขอบพระทัยความเมตตาของฝ่าบาท แต่เรื่องนี้ไม่สามารถปล่อยเอาไว้ได้ ท่านเฉิงหันเราจะรอท่านออกมาให้คำตอบที่น่าพอใจ”

ฝูอวิ๋นซานก็พูดเสริม

“ถูกต้อง เรามีเวลาและความอดทนให้”

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ต้องระวัง!ไม่อย่างงั้นอาจจะตายไปตอนไปนก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ!

เฉิงหันลำบากใจแต่กลับทำได้เพียงตอบตกลงเท่านั้น

“ในเมื่อเรื่องนี้ต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ถ้าอย่างงั้นก็ถึงเวลาที่ต้องพูดเรื่องของข้าบ้างแล้ว?”

ตอนนี้อย่าว่าแต่ซือถูซิงเฉินเลย คนอื่นๆ ที่อยู่รอบสนามแข่งขันก็พากันแปลกใจไปหมด

ฉู่หลิวเยว่เสนอแบบนี้เหมือนว่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่รู้สึกมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่?

ซือถูซิงเฉินโมโหจนหัวเราะออกมา

“นี่ก็คือสิ่งที่เจ้าบอกว่าจะชดใช้รึ?”

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า “ใช่ไงล่ะ! ทำไม…เจ้าคิดว่าไม่พอรึ?”

ซือถูซิงเฉินหมดคำจะพูด

ฉู่หลิวเยว่มั่นใจในตัวเองมากและคิดว่าสามารถใช้วิธีนี้มาชดใช้ได้!

นางท่องจำสูตรยามาตั้งแต่สี่ขวบ หลายปีมานี้ได้แต่และฝึกฝนปฏิบัติอย่างตั้งใจมาตลอด ถึงตอนนี้ถึงจะทำยาเม็ดออกมาสำเร็จได้!

ฉู่หลิวเยว่เป็นลูกศิษย์ของเยี่ยจือถิง คงจะไม่มีเวลามากนัก ตอนนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียนแพทย์อยู่ในระดับไหนแล้ว!

นำระดับความสามารถนี้มาทำยาแทนนาง?

ช่างน่าตลกจริงๆ

นางเก็บความบ้าคลั่งภายในใจเอาไว้ก่อนจะพูดจาเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

“หมายความว่า ไม่ว่าจะทำของระดับไหนออกมา ก็ถือว่าเป็นคะแนนของข้างั้นรึ? ข้าอยากถามให้มั่นใจหน่อยว่าตอนนี้เจ้าอยู่ระดับไหนแล้ว…”

ฉู่หลิวเยว่ได้ยินความรู้สึกนึกคิดของนางแล้วก็ไม่ได้สนใจก่อนจะยิ้มพลางเอ่ยปาก

“ระดับของข้านั้นไม่ค่อยน่าพูดถึงสักเท่าไร เดี๋ยวเจ้าก็คงจะรู้เอง นี่คือวิธีแก้ปัญหาเดียวในตอนนี้แล้ว ถ้าเจ้าไม่ตกลงข้าก็ช่วยไม่ได้”

ซือถูซิงเฉินหัวเราะเยาะ

“ได้!”

นางต้องรอดูให้ได้ว่าถ้าเกิดนางสร้างขยะออกมากองใหญ่ แล้วฉู่หลิวเยว่จะมีเอาหน้าที่ไหนมาบอกว่านั่นคือผลงานของซือถูซิงเฉิน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์