ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 270

ฉู่หลิวเยว่เดินมาอยู่ข้างหน้าสนามแข่งขัน ก่อนจะยืนอยู่ในตำแหน่งของซือถูซิงเฉิน

ซือถูซิงเฉินทำยาเม็ดล้มเหลว ในหม้อกลั่นจึงเหลือเพียงขี้เถ้าดำเท่านั้น ฉู่หลิวเยว่หยิบสูตรยาขึ้นมาดูจากนั้นก็เริ่มทำความสะอาดหม้อยา

ซือถูซิงเฉินมองดูด้วยสายตาดูถูก สายตานับไม่ถ้วนพากันรวมตัวอยู่บนตัวฉู่หลิวเยว่ด้วยความสงสัย มีแปลกใจ สงสัยและดีใจ

“ฉู่หลิวเยว่ไม่มั่นใจในตัวเองเกินไปหน่อยรึ? ถึงข้าทำด้วยตัวเองจริงๆ แบบนั้น”

‘นางเป็นถึงลูกศิษย์ของผู้อาวุโสจงเยี่ยเชียวนะ! คิดว่าคงจะมีความสามารถอยู่บ้างกระมัง?’

‘ไม่ใช่ว่าครั้งแรกที่นางสอบเข้าสำนักเทียนลู่นั้น ถึงแม้จะผ่านไปทั้งสามด่านแต่ด้านการแพทย์นั้นแย่ที่สุดไม่ใช่รึ?’

‘ถ้าไม่สามารถทำอะไรออกมาได้ละก็ คงน่าอายสุดๆ ไปเลย…’

ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์

ฉู่หลิวเยว่ทำเป็นไม่ได้ยิน ก่อนจะนำมือที่เรียวยาวขาวเนียนวางลงบนหม้อยาเบาๆ

จากนั้นก็มีเปลวไฟของรากสีแดงลุกขึ้นในหม้อกลั่นยา!

ฉู่หลิวเยว่หยิบวัตถุดิบยาอย่างหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมา

นั่นคือผลไม้ที่มีสีแดง และขนาดใหญ่เท่ากำปั้นชื่อว่าลูกยอดฟ้าหิมพานต์ เมื่อฉู่หลิวเยว่ใส่มันไปไปในกองไฟก็มีไฟลุกล้อมรอบมันทันที!

แล้วเปลือกของมันก็หดลงอย่างรวดเร็ว!

ซือถูซิงเฉินยืนใกล้หน่อยจึงมองเห็นได้ชัดกว่า เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่เริ่มใส่ลูกยอดฟ้าหิมพานต์ลงไปในหม้อทำยาก่อน ใจก็กระตุกทันที วันนั้นยอดฟ้าหิมพานต์มีความเปราะบางและอ่อนนุ่มมาก โดยเฉพาะลูกที่โตเต็มที่แล้ว แค่สัมผัสก็สามารถทำให้ผิวของมันแตกได้ สรรพคุณของยาทุกอย่างต่างอยู่ในน้ำของมัน ฉะนั้นขณะที่กำลังทำจึงต้องระวังไม่ให้น้ำข้างในออกมา

แต่ประเด็นก็คือน้ำของลูกยอดฟ้าหิมพานต์ไหลออกมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อถูกอากาศสรรพคุณของมันก็คงจะร่อยหรอไปแล้ว

ฉะนั้นปกติที่ใช้ลูกยอดฟ้าหิมพานต์นี้ แพทย์จึงต้องใช้มันในขั้นตอนสุดท้าย แบบนี้ถึงจะรักษามันไว้ได้อย่างดีที่สุด หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่เข้าไปในสนามแล้ว สิ่งที่ใช้เป็นอย่างแรกก็คือลูกยอดฟ้าหิมพานต์!

ดูแล้วคงจะมั่วน่าดู ไม่รู้จริงๆ ว่าเยี่ยจือถิงสอนตัวเองลูกศิษย์คนเดียวของตัวเองมาอย่างไร การกระทำของฉู่หลิวเยว่นั้นก็ดึงดูดสายตาของผแพทย์คนอื่นๆ เอาไว้ อาจารย์มั่วชังกลั้นหัวเราะไม่อยู่

“ไม่แปลกเลยที่จะเป็นศิษย์ของเยี่ยจือถิง ถึงใช้วิธีแปลกใหม่แล้วยังนำลูกยอดฟ้าหิมพานต์ใส่ลงไปป็นอย่างแรกอีกด้วย ความกล้าหาญนี้ช่างทำให้ข้าไม่อยากคาดหวังเลยจริงๆ!”

ท่าทางของอาจารย์เฟิงอี้ดูสงบและพูดอย่างนิ่งๆ

“นี่เพิ่งเริ่ม รอดูผลแล้วค่อยวิจารณ์ก็ยังไม่สายหรอกนะ”

“ฮ่าๆ! พูดได้ดีทีเดียว ที่นี่มีวัตถุดิบยาเพียงชุดเดียว ถ้าลูกยอดฟ้าหิมพานต์ถูกทำลายไปแล้ว ก็จะเป็นการจบสิ้นไปโดยปริยาย!”

มั่วชังไม่ได้พูดเสียดสีแต่อย่างใด ก่อนหน้านี่นึกว่าลูกศิษย์ของเยี่ยจือถิงนั้นจะเก่งแค่ไหนเชียว ไม่นึกเลยว่าไม่มีแม้แต่ความรู้เบื่องต้น!

อาจารย์เฟิงอี้เหลือบมองเขา

“อย่างน้อยหลิวเยว่ก็ไม่ได้จงใจนำกู่โลหิตใส่เข้าไปในหม้อยา ต่อให้ล้มเหลวก็บริสุทธิ์อยู่ดี”

มั่วชังนิ่งไปก่อนที่จะหุบปากด้วยสีหน้าดูไม่ได้ เดิมทีเฉิงลี่เสวี่ยก็ไม่ได้มีเวลามาสนใจพวกเขาทั้งสองอยู่แล้ว เอาแต่ดูการแข่งขันอย่างตื่นเต้น

ตอนนี้สำนักหนานเฟิงของพวกเขาเหลือต้นกล้าต้นสุดท้ายแล้ว ก็คือเหลิ่งชวน! อีกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนที่สำคัญอีกด้วย!

ส่วนทางสำนักไท่เหยี่ยนก็เหลือซือถูซิงเฉินเพียงคนเดียว อีกอย่างยังมีฉู่หลิวเยว่มาทำแทนด้วย จึงไม่มีความหวังอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

จี้จื่อฉิงจากสำนักเทียนลี่นั้นช้าที่สุดในบรรดาพวกเขา ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มทำให้เป็นยาเม็ด และพลังก็จำกัดอีกด้วย ขอเพียงเหลิ่งชวนสามารถทำสำเร็จได้ก็สามารถคว้าที่หนึ่งมาได้แล้ว!

จั่วหรงอดที่จะเงยหน้ามองฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ แต่กลับเห็นใบหน้าที่นิ่งของนาง เริ่มหยิบวัตถุดิบที่สองใส่ลงไป!

ยอดฟ้าหิมพานต์ก็ลอยอยู่ในเปลวไฟนั้น ฉู่หลิวเยว่คิดแบบนี้นี่เอง!

จั่วหรงถึงกับกลืนน้ำลาย ต่อให้เป็นเขาก็ไม่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้ เพราะมันเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับการทำยา การใช้ลูกยอดฟ้าหิมพานต์นั้นไม่ได้ยากอะไร เพียงแต่ต้องทำอย่างประณีตเท่านั้น แสดงว่าต้องมีความกระตือรือร้นในการควบคุม!

ถึงแม้ว่าระดับของเขาจะสูงกว่าฉู่หลิวเยว่ และมีพลังแข็งแกร่งกว่า แต่เขากลับเชื่อว่าถ้าตัวเองลงมือทำเองคงสู้ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้แน่นอน

‘นี่ก็คือ…จิตวิญญาณแพทย์ที่อาจารย์สำนักเคยบอกเอาไว้’ มีคนบ่นพึมพำ

การต่อสู้ระดับนี้มีเพียงพรที่มาจากพระเจ้าเท่านั้น ซึ่งร้องขอเท่าไรก็ไม่มีวันได้

“ในที่สุดตอนนี้ข้าก็รู้แล้วว่าทำไมหัวหน้าสำนักถึงรับนางเป็นศิษย์”

จั่วหรงยิ้มอย่างขมขื่น

“เด็กคนนี้ แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก…”

เขานึกว่าตัวเองมองฉู่หลิวเยว่ไว้สูงมากแล้ว แต่นึกไม่ถึงว่ายังคงเป็นการดูถูกอยู่ ไม่แปลกที่นางจะสงบแบบนั้น ต่อให้นางเพิ่งจะเริ่มฝึกด้านการแพทย์ในตอนนี้ ก็เป็นสิ่งที่ยืนหยัดได้แล้วว่าต่อไปผลงานของนางจะต้องอยู่เหนือพวกเขาแน่นอน!

“ซือถูซิงเฉินก็ถือว่าต่อสู้ใช้ได้ แต่เสียดายที่พอเทียบกับฉู่หลิวเยว่แล้ว…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า! นั่นถือเป็นสิ่งที่ดี! เฉิงหันภูมิใจในตัวเองมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขายอมรับซือถูกซินเฉินเข้ามาเป็นลูกศิษย์ของเขา! ลองนึกถึงสองสามวันที่ผ่านมาทุกครั้งที่เขาพูดถึงซือถูซิงเฉิน และการแข่งขันด้านการแพทย์รวมถึงการแข่งขันหลายๆ อย่างนางก็เป็นผู้ชนะ! ไม่ใช่เพราะเขาคิดว่าความสามารถของซือถูซิงเฉินไม่มีใครเทียบได้หรอกรึ?”

“ก็ไม่รู้ว่าเด็กหลิวเยว่คนนั้นจะทำยาเม็ดออกมาได้หรือไม่…นางคงเพิ่งเริ่มฝึกได้ไม่นานใช่หรือไม่? ถึงแม้ว่าจะมีวิชาต่อสู้เพียงพอแล้ว แต่ถ้าไม่มีพลังในก็มิอาจรอดได้อยู่ดี…”

จั่วหรงฟังคำพูดของหลายคนแล้วก็อดจะแสยะมุมปากไม่ได้ ก่อนจะยิ้มอย่างได้ใจเหอะๆ แล้วอย่างไรรึ? พวกเราก็ดูออกกันทั้งนั้น ข้าไม่เชื่อหรอกว่าตาเฉิงหันคนนั้นจะดูไม่ออก! เพราะการที่ให้หลิวเยว่มาทำแทนซือถูซิงเฉินนั้นถือเป็นการดูถูกพวกเขา!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์