ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 272

เห็นเพียงแค่ในเปลวไฟสีแดงมีวัตถุดิบยาที่ค่อยๆ รวมตัวกันเป็นกลุ่ม และก่อตัวเป็นโครงร่างเม็ดยาแล้ว!

นั่นเป็นการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่จะกลายเป็นยาเม็ด เฉิงลี่เสวี่ยกวาดสายตามองไปรอบตัวฉู่หลิวเยว่ ด้วยความกลัวจึงทำให้แม้แต่เงายังหดลง

“นางจัดการกับวัตถุดิบที่เหลือทั้งหมดไปตั้งแต่เมื่อไรรึ?” ฉู่หลิวเยว่เพิ่งจะขึ้นไปไม่นานนี้เองไม่ใช่รึ?

พวกเขาไม่ได้สังเกตแค่ครู่เดียว นางก็มาถึงขั้นตอนนี้แล้วรึ ไม่เพียงแต่เฉิงลี่เสวี่ยเท่านั้น คนอื่นๆ ที่กำลังดูฉู่หลิวเยว่กลั่นยาต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อทั้งนั้น

“เมื่อครู่นี้ข้ามองฉู่หลิวเยว่กลั่นยามาโดยตลอดก็รู้สึกว่านางไม่ได้ทำอะไร ที่จริงแล้วก็จัดการวัตถุดิบพวกนั้นหมดแล้วรึ?”

“เร็วเกินไปแล้ว…ความเร็วนี้ถือเป็นความเร็วที่ติดหนึ่งในสามของการแข่งขันในวันนี้ได้หรือไม่?”

“ข้าว่าอยู่อันดับหนึ่งก็ยังไม่แปลกเลยด้วยซ้ำ! พวกเจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ว่าหลังจากที่ฉู่หลิวเยว่เข้าสนามแล้วดูสูตรยาหนึ่งรอบ ก็วางสูตรยากลับไว้ที่เดิมทันที จากนั้นก็ไม่ได้ดูอีกเป็นเพราะนางท่องจำไว้หมดแล้วรึ! เพียงแค่ดูรอบเดียวงั้นรึ?”

“ดูผ่านๆ ตาไม่ลืมก็ยังไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือนางไม่มีการหยุดพักระหว่างทำและใส่วัตถุดิบยาลงไปในหม้อตลอดเวลา อีกอย่างระหว่างนั้นก็ไม่มีความลังเลและผิดพลาดใดๆ เลยสักนิด! ฉะนั้นถึงได้เร็วถึงเพียงนี้!”

เมื่อมั่วชังเห็นก็ถึงกับอึ้ง แต่ในเมื่อเป็นถึงอาจารย์หัวหน้าสำนักของสำนักไท่เหยี่ยน เขาจึงไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรกับฉู่หลิวเยว่จึงหัวเราะอย่างเยือกเย็น

“เร็วแล้วทำไมรึ? ก่อนหน้านี้ก็มีคนที่ทดลองทำอย่างรวดเร็วไปแล้ว สุดท้ายก็ล้มเหลวไม่ใช่รึ?”

เฟิงอี้เบิกตากว้างและจ้องเม็ดยาที่กำลังรวมตัวอยู่ในหม้อยาของฉู่หลิวเยว่ด้วยความตื่นเต้น

เมื่อได้ยินคำพูดของมั่วชังแล้ว เขาก็อดที่จะไม่โต้เถียงไม่ได้

“ไม่ว่าสุดท้ายจะออกมาเป็นยาเม็ดหรือไม่ ก็สามารถพิสูจน์ความสามารถของนางได้แล้ว”

สีหน้าของมั่วชังเย็นชายิ่งกว่า แต่กลับไม่รู้ว่าควรจะโต้เถียงอย่างไร จึงทำได้เพียงถอนหายใจและสายตาก็เต็มไปด้วยความดูถูก

เมื่อก่อนผู้อาวุโสเฟิงอี้ก็ไม่ได้คาดหวังในตัวของฉู่หลิวเยว่มากนัก แต่ตอนนี้เขาค่อยๆ ละสายตาไปอยู่บนใบหน้าของฉู่หลิวเยว่ วินาทีที่น่าตื่นเต้นแบบนี้ หญิงสาวที่หน้าตาสวยก็ยังควทำหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม นางทำสิ่งที่คนอื่นคิดว่ายากที่สุดให้ทุกคนดูมาแล้ว แต่กลับดูเหมือนว่านางจะไม่ได้นำมาใส่ใจอะไร

อาจารย์สำนักท่านนี้ได้ลูกศิษย์ที่เก่งมากคนหนึ่งไปแล้ว

ในสนามแข่งขันนั้น มีทั้งคนที่ทำสำเร็จและคนที่ล้มเหลว

คนที่ทำสำเร็จต่างก็นำยาเม็ดที่ตัวเองกลั่นออกมาให้ผู้ตัดสินนำไปพิจารณาระดับเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่ทำไม่สำเร็จก็ออกจากสนามไป แต่ในบรรดาคนเหล่านี้ กลับไม่มีใครสามารถทำยาเม็ดสำเร็จได้อีก ดีที่สุดก็คงจะเป็นยาระดับสามสองเม็ด

เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อเหลิ่งชวนเลยสักนิด

ผ่านไปสักพัก ในสนามก็เหลือเพียงฉู่หลิวเยว่แล้วจี้จื่อฉิงสองคนเท่านั้น

หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่ทำสำเร็จได้ไม่นาน จี้จื่อฉิงก็เริ่มกลั่นยาเม็ดแล้ว!

ก็หมายความว่า นอกจากเหลิ่งชวนจากสำนักหนานเฟิงที่ทำยาเม็ดซื่อผิ่นได้แล้ว ก็เหลือเพียงฉู่หลิวเยว่กับจี้จื่อฉิงที่ยังมีความหวังเหมือนกัน และทั้งสองคนก็เป็นนักเรียนของสำนักเทียนลู่ทั้งคู่อีกด้วย

ผู้อาวุโสเฟิงอี้ยิ้มพลางนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ ก่อนจะเอ่ยปากเลอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ถึงแม้ว่าเด็กจื่อฉิงคนนี้จะช้าไปหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นคนรอบคอบ ไม่เหมือนหลิวเยว่ที่ใจร้อนไปหน่อย”

เฉิงลี่เสวี่ยรู้ว่าขณะนั้นสิ่งที่สามารถทำได้ก็คือรอเท่านั้น จึงนั่งอยู่ในตำแหน่งของตัวเองแล้วไม่พูดไม่จาตอนนี้เขาหวังเพียงแค่ว่า ฉู่หลิวเยว่และจี้จื่อเฉิงจะทำเม็ดยาล้มขม แบบนี้เหลิ่งชวนก็จะสามารถคว้าที่หนึ่งมาได้เลย!

ผู้อาวุโสเฟิงอี้เหลือบมองมั่วชังแล้วจึงเขกหัวเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่คิดไปคิดมาก็นึกว่าไม่ออกว่าเป็นใคร ถึงได้เสียเวลามากมายขนาดนี้มาสู้กับนาง ส่วนคนที่มีฝีมือขนาดนี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ฉะนั้นแทนที่จะหลบๆ ซ่อนๆ ได็มาสู้กับนางอย่างเปิดเผยเลยดีกว่า ถือเป็นการบ่องูออกจากถ้ำ!

ถ้านางเปิดเผยแต่อีกฝ่ายหลบๆ ซ่อนๆ ก็เป็นนางที่เสียเปรียบ แต่ถ้านางอยู่ใต้แสงอาทิตย์ที่สว่างที่สุด ก็ไม่มีใครมาทำอะไรได้!

นางมองเม็ดยาในเปลวไฟ

ไม่รู้ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรือไม่ นางมักจะคิดว่าหลังจากผ่านไปสู่การเป็นนักต่อสู้ระดับที่สองแล้ว นางก็มีแรงในร่างกายมากมาย ทำให้ขณะที่ทำยานั้นจะได้ผลที่ดีหน่อย นี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมนางถึงจัดการวัตถุดิบยาทุกอย่างได้เร็วกว่าและเริ่มกลายเป็นยาเม็ดแล้ว เพียงแต่ว่า เหมือนว่าครั้งนี้จะใช้เวลาในการทำเม็ดยานานไปหน่อย?

ตูม!

มีคลื่นระเบิดในหม้อยาของจี้จื่อฉิง!

เม็ดยาเป็นทรงกลมน่าประทับใจ!

ในขณะเดียวกัน ก็มีกลิ่นหอมของยาแพร่กระจายออกมา!

ใจของทุกคนในสำนักเทียนลู่ถึงกับตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม!

จี้จื่อฉิงนำเม็ดยาใส่ในกล่องหยกและส่งขึ้นมาเช่นกัน เมื่อผู้อาวุโสเฟิงอี้เปิดกล่องหยกออก ก็อดที่จะไม่หันไปมองฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ทั้งๆ ที่ฉู่หลิวเยว่เริ่มเร็วกว่าจี้จื่อฉิงแท้ๆ ป่านนี้ทำไมยังไม่เสร็จอีก

มั่วชังหัวเราะเยาะ

“นึกว่าจะมีปัญญามากมายเสียอีก ดูจากตอนนี้แล้ว เหอะก็คงจะเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์