ฉู่หลิวเยว่ยักคิ้วราวกับว่ารู้สึกโล่งอก
แต่ในใจของนางกลับไม่มีความสุขเลย มีแต่ความสับสนมากขึ้นเหมือนว่ามู่ชิงเห่อจะสนใจชีพจรตี้จิงมาก เขาตั้งใจมาแคว้นเย่าเฉินโดยเฉพาะก็เพื่อตามหาอัจฉริยะชีพจรตี้จิงงั้นรึ?
อย่างใดก็ตาม แม้ว่าคนเหล่านี้ในราชวงศ์เทียนลิ่งจะไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่ได้หายาก แล้วเหตุใดเขาถึงไม่ไปหาต่างแดนที่อยู่ไกลโพ้น เหตุใดมาหาที่นี่?
ทุกคนพากันมองฉู่หลิวเยว่ด้วยความอึ้งอยู่นานกว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้ง
นี้มันหมายความว่าอย่างใด?
ฉู่หลิวเยว่เป็นชีพจรตี้จิงจริงๆ ด้วย
ก็หมายความว่านางสามารถตามมู่ชิงเห่อไปยังราชวงศ์เทียนลิ่งได้ไม่ใช่รึ!?
มู่ชิงเห่อเก็บแผ่นหินหยาบกลับมา
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยปากถาม
“ท่านรองแม่ทัพมู่ ในเมื่อยืนยันแล้วว่าข้าคือชีพจรตี้จิง ถ้าอย่างงั้นที่ท่านพูดก่อนหน้านี้…”
มู่ชิงเห่อไม่ได้แสดงท่าทางอันใด
“เจ้ามีชีพจรตี้จิง เจ้าก็สามารถกลับไปกับข้าได้”
ฉู่หลิวเยว่ถึงกับกลั้นหายใจ
นางสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงและเร็วของตัวเองได้อย่างชัดเจน!
“เจ้าก็อย่าเพิ่งดีใจไป ถึงจะมีชีพจรตี้จิง แต่นี่มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น ต่อไปยังมีคุณสมบัติอีกมากที่เจ้าต้องมี ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ก็ไปต่อไม่ได้เช่นกัน”
มู่ชิงเห่อพูดอย่างเฉยชา
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลง
“ขอบใจท่านรองแม่ทัพมู่ หลิวเยว่จะทำให้ดีที่สุด”
นางรู้ว่าเรื่องราวมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
แต่ว่าถึงอย่างใดนี่ก็ถือเป็นโอกาสหนึ่ง และเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความคิดของนางแล้ว
ถึงแม้ว่าในใจจะรอคอยที่จะได้กลับไปโดยเร็วที่สุด ให้คนพวกนั้นได้รับความเจ็บปวดที่ทางเคยได้รับอย่างทวีคูณ แต่นางก็รู้ดีว่านี่ยังไม่ใช่โอกาสที่ดีที่สุด
ถ้านางกลับไปแข็งข้อกับพวกเขาด้วยความสามารถของนางในตอนนี้ ก็คงจะตายสถานเดียว!
มู่ชิงเห่อขานรับ “อือ” ด้วยไปหน้าเฉยชา
ฉู่หลิวเยว่ถึงกับโล่งอก แต่คนอื่นๆ กลับรู้สึกสับสน
ทุกคนในที่นั้นต่างหอบความหวังกันมาด้วย แต่คุณสมบัติที่ต้องมีชีพจรตี้จิงนั้นสูงเกินไป ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มี
เสียเวลากว่าครึ่งวัน สุดท้ายก็เป็นฉู่หลิวเยว่ที่โดดเด่นอีกครั้ง!
แบบนี้จะทำให้พวกเขาดีใจได้อย่างใด
จักรพรรดิจยาเหวินลังเลสักพัก แต่ก็เอ่ยปากถามอย่างระมัดระวัง
“รองแม่ทัพมู่ ท่านจะรับเพียงคนที่มีชีพจรตี้จิงจริงๆ รึ? อันที่จริงแล้วมีบางคนที่ถึงแม้จะไม่ใช่ชีพจรตี้จิง แต่ก็มีฝีมือใช้ได้ ถ้าท่านไม่รังเกียจลองเลือกอีกดีหรือไม่?”
“ถ้าเหมือนเขาละก็ ไม่จำเป็นแล้วล่ะ”
แววตาของมู่ชิงเห่อเหลือมองตัวของหรงจิ้น
หรงจิ้นยิ่งรู้สึกอายมากขึ้นเป็นถึงองค์ชาย ตั้งแต่เขาเกิดมาก็ยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ถึงแม้เมื่อก่อนเสด็จพ่อจะกักบริเวณเขา หรือยึดอำนาจที่เขามีอยู่ในมือมากมายกลับไป เขาก็ไม่รู้สึกว่าอับอายเท่านี้มาก่อน
แบบนี้เหมือนเป็นการตบหน้าเขาต่อหน้าทุกคนชัดๆ!
จักรพรรดิจยาเหวินก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับอย่างใดดี
อย่าว่าแต่หรงจิ้นเลย ถึงจะเป็นเขาที่ถูกว่าแบบนี้ เขาก็ไม่กล้าแสดงออกว่าเขาไม่พอใจเลยแม้แต่น้อย
ได้ยินมู่ชิงเห่อพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ไม่กล้าพูดต่อทำได้เพียงหุบปากด้วยความประหม่า
บรรยากาศทั้งห้องงานเลี้ยงยิ่งมาอึมครึม และประหลาดเข้าไปใหญ่
ฉู่หลิวเยว่กลับนั่งกินอาหารอย่างสบายใจ ต่อหน้าผู้คนที่กำลังมองนางอยู่
หรงจิ้นกัดฟัน ด้วยความรู้สึกโมโหฉู่หลิวเยว่ที่ได้โอกาสอันล้ำค่าในชีวิตไป และยังรู้สึกหงุดหงิดกับความโผงผางก่อนหน้านี้ของตัวเองด้วย
หลังจากถูกมู่ชิงเห่อตำหนิ ในใจของนางก็รู้สึกอับอายมากอยู่แล้ว
แต่ต่อมามู่ชิงเห่อก็ปฏิบัติแบบนั้นกับคนอื่นๆ เช่นกันหนึ่งในนั้นยังรวมถึงหรงเจินด้วย นางจึงโมโหเข้าไปใหญ่
เมื่อเริ่มสงบจิตสงบใจแล้ว นางก็รู้สึกว่าตัวเองทำมากเกินไป
มู่ชิงเห่อเป็นคนยังไงกัน?
ทูตของราชวงศ์เทียนลิ่งเป็นรองแม่ทัพที่มีตำแหน่งสูงส่ง!
ต่อให้เป็นเสด็จพ่อก็ยังต้องเห็นแก่หน้าเขา แล้วนางที่ถูกว่าแบบนี้จะสามารถทำอันใดได้?
อีกอย่างนางยังหวังว่ามู่ชิงเห่อจะสามารถช่วยฟื้นฟูร่างกายให้นางอีกด้วย
เมื่อนึกถึงตรงนี้แล้ว นางจึงส่งสายตาให้กับพระมเหสี
คำพูดที่เหลือของหรงเจินก็หยุดชะงักอยู่ในคอทันที ตัวของเขาแข็งทื่อ และแขนขาก็เย็นไปหมด
มู่ชิงเห่อโบกมือ นกกระจอกสีฟ้าตัวนั้นก็บินมาหาเขา ในห้องงานเลี้ยงก็เงียบสงัดไป แล้วนกกระจอกสีฟ้าก็เกาะอยู่ที่แขนของเขา
มู่ชิงเห่อมองไปก่อนจะเห็นว่าใต้ปีกของมันมีคราบเลือดสีแดงอยู่
เขาขมวดคิ้วอย่างสงสัย และมีความคิดหนึ่งขึ้นมาทันที
“เจ้าบาดเจ็บรึ ใครทำเจ้า?”
นกกระจอกสีฟ้าขยับปีกเพื่อปิดรอยเลือดของมัน
มู่ชิงเห่อขมวดคิ้วแน่น
ปีศาจแดงนั้นเป็นปีศาจระดับเจ็ด มีพลังกดขี่ข่มเหง และมีโอกาสพ่ายแพ้น้อยมาก
ไม่รู้ว่าเหตุใดเมื่อวานเขาถึงรู้สึกกังวลมาก เขาจึงปล่อยมันออกไปนึกไม่ถึงว่ามันจะได้รับบาดเจ็บ ในแคว้นเย่าเฉินนี้ มีใครมีปัญญาทำแบบนี้บ้าง?
ปีศาจแดงกัดขนบนปีกของตัวเองอย่างเจ็บปวด
มู่ชิงเห่อพูดอย่างเย็นชา
“ก่อนที่จะมาเจ้าบอกกับข้าว่าอย่างใด บอกว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแน่นอนไม่ใช่รึ แล้วตอนนี้เจ้าทำได้หรือไม่?”
ปีศาจแดงนึกไม่ถึงว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บแล้วยังจะถูกตำหนิอีก ในใจจึงยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น
ตาที่แดงสวยสง่าดั่งทับทิมของมันกะพริบ และมีน้ำตาคลออยู่เต็มเบ้า เห็นแล้วน่าสงสารมาก
จู่ๆ มู่ชิงเห่อก็ถอนหายใจในใจ
นิสัยแบบนี้ถูกเจ้าของเลี้ยงมาผิดชัดๆ พูดเพียงไม่กี่คำก็เสียใจเสียแล้ว
“ปีศาจแดง”
เสียงของมู่ชิงเห่อจริงจังมากขึ้น
ปีศาจแดงก็หันกลับมาทันที
จู่ๆ มันก็ชะงักไป ก่อนจะเอียงคอมองฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ตกใจ
ต่อมาก็เห็นนกตัวเล็กๆ บินมาหาตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...