เยี่ยจือถิงตกใจ
“เกิดอะรขึ้น”
ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นรีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เร่งรีบ
“เมื่อครู่นี้พวกข้าตั้งใจตรวจสอบด้านล่างของหอคอยจิ่วโยวรอบหนึ่ง และไม่พบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์อสูรตัวนั้นเลยสักนิด เริ่มแรกพวกข้าคิดว่าเป็นเพราะหอคอยจิ่วโยวถล่ม ฉะนั้นมันจึงสงบลง แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ยังไม่มีท่าทีอันใด พวกข้าจึงพบว่าในถ้ำเทียนหยวนฝูที่อยู่ข้างล่างนั้น ไม่ได้มีอสูรร้ายตัวนั้นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว”
ตาของฉู่หลิวเยว่กระตุก
เยี่ยจือถิงรีบเดินไปยากซากปรักหักพัง
“เป็นไปได้อย่างใด? ถ้ามันหนีไปได้ สากเงินก็ต้องมีความเคลื่อนไหวแน่นอน”
ถึงแม้ว่าค่ายกลผนึกสวรรค์จะสลายไปแล้ว แต่สากเงินนั้นก็ยังมีประโยชน์อยู่ สามารถรู้เกี่ยวกับเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหอคอยจิ่วโยวได้
แต่เมื่อครู่นี้เขาก็ไม่เห็นว่ามีความผิดปกติอันใด
ในใจของผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นรู้สึกกังวล ก่อนจะปาดเหงื่อบนหน้าผาก
“คือ…คือว่าพวกข้าสำรวจมาครึ่งค่อนวันแล้ว ก็ไม่เจออันใดเลย…”
ตอนนั้นเยี่ยจือถิงได้เดินไปอยู่ข้างๆ หอคอยจิ่วโยวที่ถล่มไปแล้ว
เขาหลับตาลง ก่อนที่จะถอดพลังจิตและนั่งสมาธิทันที
ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นและขมวดคิ้ว
“สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ…”
ซุนจ้งเหยียนถามอย่างกระวนกระวาย
“อาจารย์ลุง ท่านบอกว่าสัตว์อสูรตัวนั้นไม่อยู่…หมายความว่าอย่างใดนะ?”
สัตว์อสูรตัวนั้นหนีไปหรือว่าตายไปแล้วกันแน่
เยี่ยจือถิงเงียบไปสักพัก ก่อนจะหันกลับไปมองฉู่หลิวเยว่และหรงเซียว
“ตอนที่พวกเจ้าทั้งสองอยู่ในหอคอยจิ่วโยว มีอันใดผิดปกติหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ยักคิ้ว
หรงเซียวจึงเอ่ยปากก่อน
“ไม่มีเลย ตอนนั้นพวกข้าทั้งสองต่างอยู่ในชั้นที่หกจู่ๆ หอคอยจิ่วโยวก็ถล่มลงมา กว่าจะออกมาได้นั้นไม่ง่ายเลย”
ฉู่หลิวเยว่มองเขาโดยไม่พูดไม่จา
ดูเหมือนว่าหรงเซียวจะย้ำคำว่าชั้นที่หกอยู่ตลอดเวลา เป็นเพราะอันใดกัน
“มีใครในพวกเจ้าขึ้นไปชั้นบนอีกชั้นหรือไม่?” เยี่ยจือถิงเอ่ยปากถามอีก
ฉู่หลิวเยว่รวบรวมสติก่อนจะพยักหน้าพร้อมกันกับหรงเซียว
เยี่ยจือถิงถอนหายใจ
“ข้าคงจะสติเลอะเลือนไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสองจะเข้าไปที่นั่นได้อย่างใดล่ะ…”
มีความสงสัยผุดขึ้นมาในใจของฉู่หลิวเยว่
ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเยี่ยจะรู้ว่าชั้นที่เจ็ดนั้นมีอันใด และเขาก็ถึงขั้นรู้ดีว่าอสูรร้ายต้องถูกขังอยู่ในนั้นแน่นอน
เขาเป็นถึงหัวหน้าสำนักของสำนักเทียนลู่ การที่รู้เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
แต่…หรงเซียวเป็นอันใดไป?
ตอนนั้นเขาก็อยู่ตรงรั้วกั้นข้างนอกชั้นที่เจ็ด เขาก็เห็นเองกับตาว่านางนั้นออกมาจากชั้นที่เจ็ด
แต่เขากลับไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเขารู้ดีว่าชั้นที่เจ็ดนั้นไม่ธรรมดา หรือว่า…หรงเซียวก็รู้ว่าชั้นที่เจ็ดมีความลับอันใดอยู่?
ไม่ว่าจะเป็นอินทรีสามตา หรือว่าหม้อยาเทียนฟัง
“น่าแปลก…จู่ๆ สัตว์อสูรตัวนั้นจะหายไปได้อย่างใด…”
เยี่ยจือถิงส่ายพัดในมือเบาๆ ครุ่นคิด และคิดไม่ตก
จู่ๆ ซุนจ้งเหยียนก็เอ่ยปาก
“ใช่แล้ว เมื่อครู่นี้นกสีน้ำเงินนั้นเคยเข้าไปในหอคอยจิ่วโยว บางทีอาจจะถามเบาะแสจากมันได้บ้าง?”
เยี่ยจือถิงตาเป็นประกายก่อนจะรีบเดินไปหามู่ชิงเห่อ
ตั้งแต่แรกจนจบนั้นมู่ชิงเห่อเฉยชากับเรื่องนี้มาก แต่ในใจของเยี่ยจือถิงนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นคนของราชวงศ์เทียนลิ่ง มู่ชิงเห่อจึงไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้
แต่เขามีความสามารถที่แข็งแกร่ง และคอยเฝ้าดูอยู่ตลอด ไม่แน่อาจจะรู้ข่าวอันใดบางอย่างก็ได้ ขณะที่เยี่ยจือถิงเดินไป เจ้าปีศาจแดงกำลังเกาะอยู่ที่ไหล่ของมู่ชิงเห่อ และกำลังแปรงขนของตัวเองอย่างสบาย
“รองแม่ทัพมู่ ข้ามีเรื่องอยากจะถามสักสองสามคำถาม ไม่รู้ว่าสามารถสื่อสารกับสัตว์อสูรได้หรือไม่?”
มู่ชิงเห่อมองไปยังปีศาจแดง
ปีศาจแดงจึงหยุดการกระทำลง ก่อนจะมองสำรวจเยี่ยจือถิงรอบหนึ่ง
เยี่ยจือถิงจึงกระแอมหนึ่งที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...