ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 317

เยี่ยจือถิงตกใจ

“เกิดอะรขึ้น”

ผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นรีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เร่งรีบ

“เมื่อครู่นี้พวกข้าตั้งใจตรวจสอบด้านล่างของหอคอยจิ่วโยวรอบหนึ่ง และไม่พบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสัตว์อสูรตัวนั้นเลยสักนิด เริ่มแรกพวกข้าคิดว่าเป็นเพราะหอคอยจิ่วโยวถล่ม ฉะนั้นมันจึงสงบลง แต่เมื่อผ่านไปสักพัก ก็ยังไม่มีท่าทีอันใด พวกข้าจึงพบว่าในถ้ำเทียนหยวนฝูที่อยู่ข้างล่างนั้น ไม่ได้มีอสูรร้ายตัวนั้นอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว”

ตาของฉู่หลิวเยว่กระตุก

เยี่ยจือถิงรีบเดินไปยากซากปรักหักพัง

“เป็นไปได้อย่างใด? ถ้ามันหนีไปได้ สากเงินก็ต้องมีความเคลื่อนไหวแน่นอน”

ถึงแม้ว่าค่ายกลผนึกสวรรค์จะสลายไปแล้ว แต่สากเงินนั้นก็ยังมีประโยชน์อยู่ สามารถรู้เกี่ยวกับเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหอคอยจิ่วโยวได้

แต่เมื่อครู่นี้เขาก็ไม่เห็นว่ามีความผิดปกติอันใด

ในใจของผู้อาวุโสเว่ยอวิ๋นรู้สึกกังวล ก่อนจะปาดเหงื่อบนหน้าผาก

“คือ…คือว่าพวกข้าสำรวจมาครึ่งค่อนวันแล้ว ก็ไม่เจออันใดเลย…”

ตอนนั้นเยี่ยจือถิงได้เดินไปอยู่ข้างๆ หอคอยจิ่วโยวที่ถล่มไปแล้ว

เขาหลับตาลง ก่อนที่จะถอดพลังจิตและนั่งสมาธิทันที

ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นและขมวดคิ้ว

“สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นไม่อยู่แล้วจริงๆ…”

ซุนจ้งเหยียนถามอย่างกระวนกระวาย

“อาจารย์ลุง ท่านบอกว่าสัตว์อสูรตัวนั้นไม่อยู่…หมายความว่าอย่างใดนะ?”

สัตว์อสูรตัวนั้นหนีไปหรือว่าตายไปแล้วกันแน่

เยี่ยจือถิงเงียบไปสักพัก ก่อนจะหันกลับไปมองฉู่หลิวเยว่และหรงเซียว

“ตอนที่พวกเจ้าทั้งสองอยู่ในหอคอยจิ่วโยว มีอันใดผิดปกติหรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ยักคิ้ว

หรงเซียวจึงเอ่ยปากก่อน

“ไม่มีเลย ตอนนั้นพวกข้าทั้งสองต่างอยู่ในชั้นที่หกจู่ๆ หอคอยจิ่วโยวก็ถล่มลงมา กว่าจะออกมาได้นั้นไม่ง่ายเลย”

ฉู่หลิวเยว่มองเขาโดยไม่พูดไม่จา

ดูเหมือนว่าหรงเซียวจะย้ำคำว่าชั้นที่หกอยู่ตลอดเวลา เป็นเพราะอันใดกัน

“มีใครในพวกเจ้าขึ้นไปชั้นบนอีกชั้นหรือไม่?” เยี่ยจือถิงเอ่ยปากถามอีก

ฉู่หลิวเยว่รวบรวมสติก่อนจะพยักหน้าพร้อมกันกับหรงเซียว

เยี่ยจือถิงถอนหายใจ

“ข้าคงจะสติเลอะเลือนไปแล้ว พวกเจ้าทั้งสองจะเข้าไปที่นั่นได้อย่างใดล่ะ…”

มีความสงสัยผุดขึ้นมาในใจของฉู่หลิวเยว่

ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเยี่ยจะรู้ว่าชั้นที่เจ็ดนั้นมีอันใด และเขาก็ถึงขั้นรู้ดีว่าอสูรร้ายต้องถูกขังอยู่ในนั้นแน่นอน

เขาเป็นถึงหัวหน้าสำนักของสำนักเทียนลู่ การที่รู้เรื่องเหล่านี้ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

แต่…หรงเซียวเป็นอันใดไป?

ตอนนั้นเขาก็อยู่ตรงรั้วกั้นข้างนอกชั้นที่เจ็ด เขาก็เห็นเองกับตาว่านางนั้นออกมาจากชั้นที่เจ็ด

แต่เขากลับไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่าเขารู้ดีว่าชั้นที่เจ็ดนั้นไม่ธรรมดา หรือว่า…หรงเซียวก็รู้ว่าชั้นที่เจ็ดมีความลับอันใดอยู่?

ไม่ว่าจะเป็นอินทรีสามตา หรือว่าหม้อยาเทียนฟัง

“น่าแปลก…จู่ๆ สัตว์อสูรตัวนั้นจะหายไปได้อย่างใด…”

เยี่ยจือถิงส่ายพัดในมือเบาๆ ครุ่นคิด และคิดไม่ตก

จู่ๆ ซุนจ้งเหยียนก็เอ่ยปาก

“ใช่แล้ว เมื่อครู่นี้นกสีน้ำเงินนั้นเคยเข้าไปในหอคอยจิ่วโยว บางทีอาจจะถามเบาะแสจากมันได้บ้าง?”

เยี่ยจือถิงตาเป็นประกายก่อนจะรีบเดินไปหามู่ชิงเห่อ

ตั้งแต่แรกจนจบนั้นมู่ชิงเห่อเฉยชากับเรื่องนี้มาก แต่ในใจของเยี่ยจือถิงนั้นไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ในฐานะที่เป็นคนของราชวงศ์เทียนลิ่ง มู่ชิงเห่อจึงไม่มีเหตุผลที่จะเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้

แต่เขามีความสามารถที่แข็งแกร่ง และคอยเฝ้าดูอยู่ตลอด ไม่แน่อาจจะรู้ข่าวอันใดบางอย่างก็ได้ ขณะที่เยี่ยจือถิงเดินไป เจ้าปีศาจแดงกำลังเกาะอยู่ที่ไหล่ของมู่ชิงเห่อ และกำลังแปรงขนของตัวเองอย่างสบาย

“รองแม่ทัพมู่ ข้ามีเรื่องอยากจะถามสักสองสามคำถาม ไม่รู้ว่าสามารถสื่อสารกับสัตว์อสูรได้หรือไม่?”

มู่ชิงเห่อมองไปยังปีศาจแดง

ปีศาจแดงจึงหยุดการกระทำลง ก่อนจะมองสำรวจเยี่ยจือถิงรอบหนึ่ง

เยี่ยจือถิงจึงกระแอมหนึ่งที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์