เมื่อฉู่หลิวเยว่พูดจบ นางก็เลิกผ้าม่านรถม้าแล้วกลับเข้าไปกับฉู่หนิงทันที
หรงซิวอึ้งไปชั่วขณะ แล้วค่อยๆ ยกยิ้มมุมปาก จนในที่สุดเขาก็หัวเราะออกมาเสียงทุ้มต่ำ
นางเป็นคนแรกที่บอกว่าเขาขี้เหนียว
เยี่ยนชิงรออยู่ข้างนอกรถม้าด้วยความนอบน้อม เมื่อได้ยินเสียงหัวเราที่หายากยิ่งของเจ้านายตนเอง เขาก็อดตกใจไม่ได้
…นี่มันอะไรกันเนี่ย
แม้เจ้านายจะดูเป็นคนอ่อนโยน แต่ความเป็นจริงนั้นยากที่แยกออกว่าตอนไหนดีใจหรือโกรธเกรี้ยว น้อยนักที่จะหัวเราะเช่นนี้ ท่านผู้นั้นเมื่อครู่นี้…ทำอะไรกับเจ้านายเขากันแน่
หรือว่าเจ้านายของเขาจะมีใจให้คุณหนูตระกูลฉู่ผู้นั้นจริงๆ
“กลับจวน”
น้ำเสียงของหรงซิวดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เยี่ยนชิงรีบขึ้นด้านหน้าเพื่อบังคับรถม้า
แม้จวนหลีอ๋องกับตระกูลฉู่จะไม่ห่างไกลกันมากนัก แต่ก็ใช้เวลาตั้งเกือบครึ่งชั่วยามกว่าจะกลับมาถึงจอน
หรงซิวกลับเข้าไปยังที่พักของตนเอง รอครู่ใหญ่ๆ ก็มีองครักษ์ข้างกายนามว่าอวี๋มั่วรีบรุดมาด้านหน้าแล้วทำความเคารพ
“องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ จัดการเรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวพยักหน้า เดินเข้าไปใกล้โต๊ะแล้ววางของสิ่งหนึ่งบนนั้น
อวี๋มั่วเหลือบมองมันแวบหนึ่งด้วยสายตาตกตะลึง…นั่นเป็นเพียงถ้วยชาใบหนึ่งง!
รูปทรงงดงาม แกะสลักลายวิจิตรงดงาม และด้านนอกก็เคลือบด้วยทองคำจางๆ
นี่มันของใช้ในวังชัดๆ
จากนั้นชั่ววินาทีต่อมา อวี๋มั่วก็เห็นว่าถ้วยน้ำชากำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ!
พริบตาเดียวก็กลายเป็นผุยผง!
อวี๋มั่วใจกระตุกวูบ ไม่กล้าถามอะไรอีก จึงทำได้เพียงส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากเยี่ยนชิงที่อยู่อีกด้าน
เจ้านายไม่ค่อยบันดาลโทสะเยี่ยงนี้ นี่มัน…อะไรกัน
แต่ดูเหมือนท่าทางของเจ้านายจะไม่ได้โกรธเกรี้ยวแม้แต่น้อย แต่ดูเหมือน…อารมณ์ดีมากกว่า ใช่หรือเปล่านะ
เยี่ยนชิงเลิกคิ้วและหรี่ตาลงโดยไม่พูดอะไรสักคำ
แล้วเขาต้องพูดอย่างไร
ให้พูดว่าเป็นเพราะคุณหนูตระกูลฉู่คนนั้นน่ะหรือ
หรงซิวถอดเสื้อคลุมออกจากร่าง
คราวนี้อวี๋มั่วจึงเห็นว่ามีรอยเลือดสีแดงที่มือของเขา อวี๋มั่วจึงเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ
“องค์ชาย พระองค์ทรงบาดเจ็บหรือพ่ะย่ะค่ะ!”
พระองค์เสด็จไปงานเลี้ยงวันเกิดองค์ชายรัชทายาทมิใช่หรือ เหตุใดจึงบาดเจ็บกลับมาได้
หรงซิวก้มหน้ามองก็เห็นว่ามีรอยเลือดเปื้อนมือของตนเองจริงๆ ด้วย
นี่คือ…เลือดที่เปื้อมมือนาง
สงสัยคงเช็ดไม่เอี่ยม
ก็จริง ใบหน้าของนางมีแต่เลือด ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวจะเช็ดให้สะอาดได้เช่นไร
แววตาของหรงซิวเย็นชาเล็กน้อย
“ช่วงนี้หรงเจินทำอะไรบ้าง”
อวี๋มั่วคิดไม่ถึงว่าเขาจะถามคำถามนี้ เขานิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยตอบ
“ดูเหมือนช่วงนี้องค์หญิงสี่กำลังต้องการเปลี่ยนสัญญากับสัตว์อสูร เพราะพระนางชอบล่าสัตว์มากพ่ะย่ะค่ะ”
น่าสนใจจริงๆ
หรงซิวครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาเคาะนิ้วเรียวยาวบนโต๊ะสองครั้งก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางสนุกไปเถอะ”
น้ำเสียงของเขาสงบนิ่ง แต่อวี๋มั่วกลับได้ยินถึงความอาฆาตเล็กน้อย!
“พ่ะย่ะค่ะ!”
อวี๋มั่วอดไม่ได้ที่จะลอบถอนหายใจ
เขาได้ยินมาว่าองค์หญิงสี่มีนิสัยโมโหร้าย ทำอะไรไม่มีขื่อมีแป
ด้วยนิสัยของเจ้านายที่เป็นเช่นนี้ก็ขี้เกียจจะใส่ใจ แต่ก็ไม่รู้ว่านางไปทำอะไรให้ เจ้านายของเขาถึงได้เป็นฝ่ายอาฆาต
“องค์ชาย ตอนนี้พระองค์ทรงอยากอาบน้ำเข้าบรรทมหรือไม่”
หรงซิวคลึงปลายนิ้วเบา ๆ ราวกับว่ายังมีสัมผัสที่อบอุ่นนุ่มนวลคงอยู่
“อืม ถ่ายทอดคำสั่งออกไป บอกว่าวันนี้ข้าได้รับกระแสลมเย็น ต้องการนอนรักษาตัวเงียบๆ ไม่อนุญาตให้ใครเข้าพบ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยนชิงตอบรับแล้วถอยออกไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์