ข้างหน้าของฉู่หลิวเยว่ที่เผชิญกับตาข่ายที่มีสีดำไปทั้งแถบ
ตาข่ายนั้นแปลกมากขณะที่นางติดอยู่ในนั้น แสงทุกอย่างได้ถูกกั้นอยู่ข้างนอก มองไม่เห็นอันใดเลยสักอย่างต่อมานางก็รู้สึกว่าตัวเองถูกลักพาตัวไป
นางเพิ่งจะเอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงขู่ที่แหบแห้งดังขึ้นข้างหู
“ถ้าอยากจะตายเร็วขึ้นหน่อย ก็ตะโกนขอความช่วยเหลือได้เลย”
ฉู่หลิวเยว่ขยับริมฝีปาก แต่ไม่ได้เอ่ยปากแต่อย่างใด
ถึงแม่ว่าจะไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย แต่นางก็รู้สึกคุ้นกลิ่นอายของคนคนนี้มาก…
ใช่แล้ว คนคนนี้ก็คือคนที่อยู่ข้างหรงเจินคนนั้น
ก่อนหน้านี้หรงเจินมาหานางเป็นการส่วนตัว และคนที่ลงมือกับนางก็คือคนนี้!
หรงเจินเคยบอกว่า ถ้างานสมาคมเยาวชนจบลงแล้วจะพานางออกไปในป่านอกเมืองด้วยตัวเอง ไม่นึกว่านางจะมาอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่วันเดียวก็ไม่ยอมรอ
ฉู่หลิวเยว่หยิบมีดออกมา และลองกรีดตาข่ายนั้นดู
ในความมืดนั้น ได้ยินเพียงเสียงที่แสบแก้วหูดังขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ตกใจ เพราะข้างในตาข่ายนี้มีเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งมาก
“เหอะ ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว จากความสามารถของเจ้าในตอนนี้ ออกมาจากทางนี้ไม่ได้อยู่แล้วล่ะ”
เสียงแหบแห้งประหลาดก็ดังขึ้นอีกและน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็หลับตาและเลือกที่จะเงียบลง
หรงเจินจะมาสร้างความวุ่นวายให้นางพอดีเลย นางก็อยากให้เรื่องเหล่านี้จบสิ้นเหมือนกัน
…
ฉู่หลิวเยว่ไม่สามารถเห็นสถานการณ์ข้างนอกได้ สัมผัสได้เพียงว่าตัวเป็นกำลังถูกลักพาตัวอย่างรวดเร็ว
นางแอบสมมติเส้นทางที่พวกเขาพาไปในใจ ก็พบว่ากำลังออกนอกเมืองไป
ไม่รู้ว่าคนคนนี้ใช้วิธีอันใด ถึงสามารถเดินทางอย่างราบรื่นโดยไม่มีใครสังเกตได้ตลอดทั้งทาง
ขณะที่กำลังออกนอกประตูเมืองไป ฉู่หลิวเยว่ก็ได้ยินเสียงผู้คุ้มกันประตู
แต่ก็ยังไม่มีคนสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ และแล้วนางก็ถูกพาออกนอกเมืองไปอย่างง่ายดาย หลังออกนอกเมืองไปแล้ว คนคนนั้นก็ผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเร่งความเร็วขึ้น
จู่ๆ ไหล่ของนางก็รู้สึกหนักขึ้นมา ถวนจื่อก็โผล่ออกมา
มันถูไถอยู่ที่คอของฉู่หลิวเยว่ ประหนึ่งว่ากำลังกระวนกระวายอยู่
ฉู่หลิวเยว่คว้ามันเข้าในอ้อมกอดและปลอบเบาๆ
นางมั่นใจได้ว่าถวนจื่อสามารถกัดให้ตาข่ายให้ขาดได้ แต่…ตอนนี้นางไม่ได้คิดจะทำอันใด เหมือนว่าถวนจื่อจะรู้ความคิดของนาง จึงอยู่ในอ้อมกอดของนางอย่างนิ่งๆ
…
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดคนคนนั้นก็หยุดเดิน
ฉู่หลิวเยว่ตบตูดของถวนจื่อ ทำให้มันหันกลับไปและกลั้นหายใจ
พรึบ!
ตาข่ายถูกเปิดออกทันที
แสงที่แยงตาสาดส่องเข้ามาทันที
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาด้วยสัญชาตญาณ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันของแสง
“ฉู่หลิวเยว่”
เสียงที่เย่อหยิ่งดังมาจข้างหลังของนาง
ฉู่หลิวเยว่หันไปมอง
คนคนนั้นก็คือหรงเจิน
“เจ้าคงจะคุ้นเคยกับที่นี่ดีสินะ?”
หรงเจินเอามือทั้งสองกอดอก ก่อนจะถามอย่างเย็นชา
ฉู่หลิวเยว่หันมองไปรอบๆ ก็เห็นเป็นสีเขียวชอุ่มทั่วทุกทิศทางนี่ก็คือป่าไม้นอกเมือง นางเงียบสักพัก เหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“รู้สึกคุ้นอยู่เหมือนกัน…ตอนนั้นข้าอยู่ที่นี่ และเกือบจะถูกคนที่ฉู่เซียนหมิ่นส่งมาฆ่าตายไปแล้ว”
“ที่นี่?”
สีหน้าของหรงเจินเปลี่ยนไปทันที
“ที่ที่เจ้าวาดลงในแผนที่ไม่ใช่ที่นี่สักหน่อย”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเจื่อน
“ใช่ แต่นั่นเป็นที่ที่ข้าหนีไปอยู่ภายหลัง ตอนนั้นพวกเขาได้ทำร้ายข้าจนสลบไป ก่อนจะพาข้ามาที่นี่ และคิดจะฆ่าข้า แค่ข้าตื่นพอดีจึงหนีออกมาได้”
หรงเจินมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสีหน้าที่กึ่งเชื่อกึ่งสงสัย
“อย่าให้ข้ารู้ว่าเจ้าเล่นลิ้นกับข้าก็แล้วกัน”
ในงานสมาคมเยาวชน ฉู่หลิวเยว่แสดงผลงานได้โดดเด่นมาก อีกอย่างยังแสดงให้คนเห็นถึงความสามารถที่เหนือกว่าทุกคนอีกด้วย
เรื่องนี้จะไม่ให้นางระวังไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...