ซือถูซิงเฉินขมวดคิ้ว
“ใช่แล้ว เหมือนว่าผู้อาวุโสเยี่ย คณบดีของสำนักเทียนลู่จะมาส่งนางด้วยตัวเองเลยนะ ป่านนี้คงจะถึงที่หอสมุดแล้วกระมัง?”
“นางไม่ได้ถูกราชวงศ์เทียนลิ่งเลือกให้เป็นตัวแทนทูตเชื่อมสัมพันธ์หรอกหรือ? เหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า?”
“ผู้ใดจักรู้ แต่ในเมื่อนางมาแล้ว นั่นหมายความว่านางต้องได้รับอนุญาต พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องนี้หรือไม่ นางเกิดมาพร้อมกับเส้นเลือดดำที่ไม่สมบูรณ์ราวคนพิการ แต่สองสามเดือนก่อน จู่ๆ นางก็กลายเป็นอัจฉริยะ! ข้าละสงสัยจริงๆ ว่าแท้จริงนั้นตัวตนของฉู่หลิวเยว่เป็นเช่นไร…”
“อย่างไรเสีย อัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ แต่น่าเสียดายที่นางติดสัญญาแต่งงานกับหลี่หวันแห่งแคว้นเย่าเฉิน เจ้าคนขี้โรคนั่น…”
“ข้าได้ยินมาว่าหลี่หวันหล่อมาก อาจมีคนชอบเขานะ ฮ่าๆ!”
ร่างของกลุ่มคนเหล่านั้นค่อยๆ ห่างออกไป พร้อมเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่เบาลง
ซือถูซิงเฉินยืนนิ่งอยู่นานจนเท้าทั้งสองข้างชาแปรบ
ก่อนจะพบว่านางไม่สามารถยอมรับเรื่องพวกนี้ได้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานสมาคมเยาวชน เรื่องหรงซิวหรือเรื่องฉู่หลิวเยว่!
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ นางก็หันหลังกลับไปยังยอดเขาโอสถ
บนยอดเขามีบ้านไม้เล็กๆ อยู่สองสามหลัง
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบ้านที่นางไว้ใช้พักผ่อน
ขาเรียวก้าวเข้าไปพลันล็อคประตู และนั่งที่โต๊ะหนังสือ
กลิ่นหอมของยาแผ่กระจายไปทั่วราวกับติดอยู่ปลายจมูกตลอดเวลา
เดิมทีกลิ่นนี้เคยทำให้จิตใจของนางสงบ แต่ตอนนี้มันกลับทำให้นางนึกถึงวันนั้น วันที่นางต้องอับอายขายขี้หน้า
นางนั่งเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบจดหมายออกมา
จดหมายนี้มาจากหรงจิ้น
ก่อนที่นางจะออกจากเมืองหลวง หรงจิ้นได้สั่งคนส่งจดหมายมาให้นางเป็นการส่วนตัว
แต่ในขณะนั้น หัวใจของนางยังอยู่ที่หรงซิว ดังนั้นนางจึงไม่ได้เปิดอ่าน
ทว่าตอนนี้…
นางจ้องมองจดหมายครู่หนึ่ง พลันเปิดอ่านโดยไม่ลังเล
แสงตะวันยามอัสดงสาดส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง ส่งผลให้เงาของซือถูซิงเฉินขยายตัวยาวออกไป
พลันระลอกคลื่นบางอย่างก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าภายในบ้าน
ก่อนจะเห็นร่างๆ หนึ่งก้าวออกมา ซึ่งก็คือผู้อาวุโสเหลียนหนิง
“องค์หญิงใหญ่”
เสียงแหบต่ำดังก้องกังวานไปทั่วห้อง
ซือถูซิงเฉินได้สติกลับมาทันที นางละสายตาจากจดหมาย แล้วโยนมันออกไปโดยไม่รู้ตัว พลันเบนสายตาไปยังผู้อาวุโสเหลียนหนิง
เมื่อเห็นว่าเป็นเขา ซือถูซิงเฉินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่าดวงตาคู่สวยยังสะท้อนให้เห็นความตกใจอยู่บ้าง
และพอผู้อาวุโสเหลียนหนิงสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้
“ท่านเป็นอันใดรึ องค์หญิงใหญ่?”
เขาพูดพลางเหลือบมองจดหมายที่นางโยนทิ้งไปเมื่อครู่ ก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันตา
“นี่คือ…”
“ก่อนหน้านี้ท่านได้ไปตรวจสอบเรื่องของฉู่หลิวเยว่มาแล้ว ได้ข่าวคราวอันใดมาบ้างหรือไม่?”
ทว่ายังไม่ทันจะได้ถามไถ่ ซือถูซิงเฉินก็ถามแทรกเสียก่อน
ผู้อาวุโสเหลียนหนิงไม่ได้จี้ถามเรื่องจดหมายต่อแต่อย่างใด เขาทำเพียงเอนตัวเล็กน้อย
“ได้ความมาสองเรื่องขอรับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...