ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 345

ซือถูซิงเฉินขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว เหมือนว่าผู้อาวุโสเยี่ย คณบดีของสำนักเทียนลู่จะมาส่งนางด้วยตัวเองเลยนะ ป่านนี้คงจะถึงที่หอสมุดแล้วกระมัง?”

“นางไม่ได้ถูกราชวงศ์เทียนลิ่งเลือกให้เป็นตัวแทนทูตเชื่อมสัมพันธ์หรอกหรือ? เหตุใดนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า?”

“ผู้ใดจักรู้ แต่ในเมื่อนางมาแล้ว นั่นหมายความว่านางต้องได้รับอนุญาต พวกเจ้าเคยได้ยินเรื่องนี้หรือไม่ นางเกิดมาพร้อมกับเส้นเลือดดำที่ไม่สมบูรณ์ราวคนพิการ แต่สองสามเดือนก่อน จู่ๆ นางก็กลายเป็นอัจฉริยะ! ข้าละสงสัยจริงๆ ว่าแท้จริงนั้นตัวตนของฉู่หลิวเยว่เป็นเช่นไร…”

“อย่างไรเสีย อัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ แต่น่าเสียดายที่นางติดสัญญาแต่งงานกับหลี่หวันแห่งแคว้นเย่าเฉิน เจ้าคนขี้โรคนั่น…”

“ข้าได้ยินมาว่าหลี่หวันหล่อมาก อาจมีคนชอบเขานะ ฮ่าๆ!”

ร่างของกลุ่มคนเหล่านั้นค่อยๆ ห่างออกไป พร้อมเสียงหัวเราะเย้ยหยันที่เบาลง

ซือถูซิงเฉินยืนนิ่งอยู่นานจนเท้าทั้งสองข้างชาแปรบ

ก่อนจะพบว่านางไม่สามารถยอมรับเรื่องพวกนี้ได้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานสมาคมเยาวชน เรื่องหรงซิวหรือเรื่องฉู่หลิวเยว่!

หลังจากครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ นางก็หันหลังกลับไปยังยอดเขาโอสถ

บนยอดเขามีบ้านไม้เล็กๆ อยู่สองสามหลัง

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบ้านที่นางไว้ใช้พักผ่อน

ขาเรียวก้าวเข้าไปพลันล็อคประตู และนั่งที่โต๊ะหนังสือ

กลิ่นหอมของยาแผ่กระจายไปทั่วราวกับติดอยู่ปลายจมูกตลอดเวลา

เดิมทีกลิ่นนี้เคยทำให้จิตใจของนางสงบ แต่ตอนนี้มันกลับทำให้นางนึกถึงวันนั้น วันที่นางต้องอับอายขายขี้หน้า

นางนั่งเงียบๆ อยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบจดหมายออกมา

จดหมายนี้มาจากหรงจิ้น

ก่อนที่นางจะออกจากเมืองหลวง หรงจิ้นได้สั่งคนส่งจดหมายมาให้นางเป็นการส่วนตัว

แต่ในขณะนั้น หัวใจของนางยังอยู่ที่หรงซิว ดังนั้นนางจึงไม่ได้เปิดอ่าน

ทว่าตอนนี้…

นางจ้องมองจดหมายครู่หนึ่ง พลันเปิดอ่านโดยไม่ลังเล

แสงตะวันยามอัสดงสาดส่องเข้ามาจากทางหน้าต่าง ส่งผลให้เงาของซือถูซิงเฉินขยายตัวยาวออกไป

พลันระลอกคลื่นบางอย่างก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่าภายในบ้าน

ก่อนจะเห็นร่างๆ หนึ่งก้าวออกมา ซึ่งก็คือผู้อาวุโสเหลียนหนิง

“องค์หญิงใหญ่”

เสียงแหบต่ำดังก้องกังวานไปทั่วห้อง

ซือถูซิงเฉินได้สติกลับมาทันที นางละสายตาจากจดหมาย แล้วโยนมันออกไปโดยไม่รู้ตัว พลันเบนสายตาไปยังผู้อาวุโสเหลียนหนิง

เมื่อเห็นว่าเป็นเขา ซือถูซิงเฉินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่าดวงตาคู่สวยยังสะท้อนให้เห็นความตกใจอยู่บ้าง

และพอผู้อาวุโสเหลียนหนิงสังเกตเห็นความผิดปกติ จึงเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้

“ท่านเป็นอันใดรึ องค์หญิงใหญ่?”

เขาพูดพลางเหลือบมองจดหมายที่นางโยนทิ้งไปเมื่อครู่ ก่อนจะทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันตา

“นี่คือ…”

“ก่อนหน้านี้ท่านได้ไปตรวจสอบเรื่องของฉู่หลิวเยว่มาแล้ว ได้ข่าวคราวอันใดมาบ้างหรือไม่?”

ทว่ายังไม่ทันจะได้ถามไถ่ ซือถูซิงเฉินก็ถามแทรกเสียก่อน

ผู้อาวุโสเหลียนหนิงไม่ได้จี้ถามเรื่องจดหมายต่อแต่อย่างใด เขาทำเพียงเอนตัวเล็กน้อย

“ได้ความมาสองเรื่องขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์