ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 367

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นเหมือนได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาทันที!

ทุกคนในท้องพระโรงต่างมีสีหน้าตกตะลึง

แม้กระทั่งหรงจิ่วยังอดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้

จักรพรรดิจยาเหวินถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ที่เจ้าพูดนั้นเป็นความจริงหรือ? ซือถูซิงเฉินพูดเช่นนั้นจริงหรือ?”

จักรพรรดินีพยักหน้าทันที “หากฝ่าบาทไม่เชื่อ ฝ่าบาทก็ลองถามซือถูซิงเฉินดูสิเพคะ”

ฉู่หนิงพูดแทรกขึ้นมาว่า “จักรพรรดินี ไม่ทราบว่าท่านได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“แน่นอนว่าข้าได้ยินซือถูซิงเฉินพูดเองกับปากน่ะสิ”

จนถึงตอนนี้ จักรพรรดินีไม่สามารถเก็บอาการได้แล้ว นางต้องสารภาพแน่นอนว่าได้ติดต่อกับหรงจิ้นอยู่ตลอด

เพราะเรื่องนี้ซือถูซิงเฉินบอกกับหรงจิ้นแล้ว หรงจิ้นนำมาบอกนาง

“…หม่อมฉันรู้ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ผิด แต่หรงจิ้นทำเพื่อหรงเจินนะเพคะ ฝ่าบาท!”

จักรพรรดิจยาเหวินรู้สึกปวดหัวอย่างมาก

เรื่องราวมันดูซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนยืนกรานในคำพูดของตนเอง อีกทั้งสิ่งที่พวกเขาพูดนั้นแตกต่างกันอย่างมาก

จะต้องมีคนพูดโกหกอย่างแน่นอน แต่เขาไม่สามารถตัดสินได้ในตอนนี้

เมื่อเห็นสีหน้าที่หวั่นไหวของจักรพรรดิจยาเหวิน จักรพรรดินีก็รีบพูดขึ้นมาว่า

“ฝ่าบาทเพคะ ซือถูซิงเฉินรู้ถึงการหายตัวไปของหรงเจินแล้วนะเพคะ ครั้งนี้นางยังวางแผนที่จะกลับมาพร้อมกับหรงจิ้นด้วย เพื่อช่วยตามหาหรงเจิน เช่นนั้นรอให้พวกเขากลับมาแล้ว ค่อยให้พวกเขาเผชิญหน้ากันเองดีหรือไม่เพคะ?”

จักรพรรดิจยาเหวินค่อนข้างไม่เห็นด้วย “ฉู่หลิวเยว่ต้องไปที่สำนักไท่เหยี่ยนเป็นเวลาหนึ่งเดือน ตอนนี้เวลาเพิ่งผ่านหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น หากต้องรอนางจริงๆ แล้วหรงเจิน…”

“ฝ่าบาท เยว่เอ๋อร์กำลังกลับมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางพูดว่าไปแค่สิบวันเท่านั้น” ฉู่หนิงพูดขึ้น

คำพูดนี้ทำให้หลายคนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก

โอกาสที่หาได้ยากขนาดนั้น ฉู่หลิวเยว่อยู่ที่นั่นเพียงสิบวันเท่านั้นหรือ?

จักรพรรดิจยาเหวินเงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่า

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็รอพวกเขากลับมาก่อนก็แล้วกัน แล้วค่อยสอบถามพร้อมกันทีเดียว”

ในที่สุดจักรพรรดินีก็ถอนหายใจออกมา ร่างกายของนางอ่อนแรง จนแทบจะร่วงไปกองลงที่พื้น

มีซือถูซิงเฉินเป็นพยาน ครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน!

เมื่อถึงตอนนั้น ต่อให้นางไม่ตายก็ต้องเลาะผิวหนังของนางออกมา

“เสด็จพ่อ เมื่อเป็นเช่นนี้ จะต้องหาตัวหรงเจินพบได้อย่างรวดเร็วแน่นอน ใต้เท้าฉู่หนิงจะต้องไม่เป็นแพะรับบาปแน่นอน ใต้เท้าฉู่หนิงเป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อท่านมาโดยตลอด ครั้งนี้จะต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันแน่นอน ทำร้ายหัวใจของภักดีของใต้เท่าฉู่หนิง ไม่เป็นการดีแน่”

หรงจิ่วพูดขึ้นพร้อมประสานหมัด ทั่วทั้งท้องพระโรงเงียบสงัด ใครๆ ก็รู้ว่า ‘เรื่องเข้าใจผิด’ นี้เกิดจากตัวของจักรพรรดินี

แววตาของจักรพรรดิจยาเหวินดำมืดขึ้นอีกครั้ง

“พวกเจ้าออกไปก่อน ส่วนจักรพรรดินีอย่าเพิ่งไป”

เมื่อเดินออกมาจากท้องพระโรงแล้ว ฉู่หนิงกล่าวขอบคุณหรงจิ่วอย่างจริงใจ

“ขอบคุณองค์ชายสามมากที่ช่วยข้าในครั้งนี้”

หากไม่เช่นนั้น เขาอาจจะต้องโดนจับขังคุกเข้าจริงๆ

สีหน้าของหรงจิ่วเรียบนิ่ง “ใต้เท้าฉู่หนิงไม่ต้องเกรงใจ ที่ข้าช่วยเจ้าก็เพราะเพื่อช่วยตัวของข้าเองด้วย”

ฉู่หนิงชะงักไป เขาไม่นึกว่าหรงจิ่วจะตรงไปตรงมาขนาดนี้

แน่นอนว่าเขารู้เป้าหมายที่องค์ชายหรงจิ่วมาในวันนี้อยู่แล้ว

ตั้งแต่เริ่มจนจบ คนที่หรงจิ่วต่อสู้ด้วยก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือ จักรพรรดินี

โดยฉพาะสิ่งที่เขาพูดก่อนเดินออกมาจากท้องพระโรง เขาพูดถึงจักรพรรดินีโดยตรงเลย และที่หรงจิ่วทำเช่นนั้น แปดส่วนล้วนเป็นเพราะอิ่งกุ้ยเหริน มารดาของเขา ที่โดนจักรพรรดินีทำร้ายในตอนแรก

แม้ว่าเรื่องนี้จะไม่มีข้อสรุปและหลักฐาน แต่ในปีนั้นฉู่หนิงเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง และได้รับคำยกย่องจากจักรพรรดิจยาเหวิน ดังนั้นเขาจึงรู้เรื่องนี้ไม่น้อย

เมื่อเห็นท่าทางของหรงจิ่ว ก็รู้ว่าเขาเตรียมการมาอย่างดี

ฉู่หนิงถึงถอนหายใจออกมาได้

“งั้นก็ดี งั้นก็ดีแล้ว ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินจักรพรรดินีพูดว่า ซือถูซิงเฉินบอกว่าเคยเห็นเจ้ากับหรงเจินอยู่ด้วยกัน พ่อจึงรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย…”

ซือถูซิงเฉินมีฐานะอย่างไร เมื่อพูดออกมาย่อมมีน้ำหนัก

เขาเชื่อใจในตัวลูกสาวของตนเอง แต่ในเมื่อเรื่องมันเป็นเช่นนี้แล้ว ก็เหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ “”เรื่องนี้ข้ารู้ ก่อนหน้านี้ เพราะหรงจิ้นได้ยินซือถูซิงเฉินพูด เขาบอกว่าข้าจะต้องรับผิดชอบในการหายไปของหรงเจิน”

ฉู่หนิงขมวดคิ้ว “ซือถูซิงเฉินไม่มีความแค้นกับพวกเรา เหตุใดต้องพูดประโคมข่าวคึกโครมแบบนี้ด้วย?”

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ “นางน่าจะมองผิด” ฉู่หนิงรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจ

ซือถูซิงเฉินเป็นใคร นางไม่มีทางไม่รู้ว่าหากพูดเช่นนี้แล้วจะมีผลกระทบอย่างใด?

เป็นไปได้อย่างมากว่านางต้องการทำลายฉู่หลิวเยว่

หากนางดูผิดจริงๆ แล้วละก็ นางไม่ควรที่จะพูดออกมาด้วยความกำเริบเสิบสานเช่นนี้

ซือถูซิงเฉินคนนี้ไม่เหมือนตามข่าวลือที่เคยได้ยินมาเลย

“ซือถูซิงเฉินคนนี้ดูแปลกๆ…” ฉู่หนิงบ่นพึมพำ

ฉู่หลิวเยว่ไม่อยากทำให้เขาเป็นห่วง จึงตบบ่าท่านพ่อแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ท่านพ่อ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง เยว่เอ๋อร์ไม่มีทางยอมให้ใครมารังแกได้อยู่แล้ว”

ความกังวลของฉู่หนิง หายไปเป็นปลิดทิ้ง

“แต่ว่า…ฝ่าบาทบอกว่ารอให้พวกเจ้ากลับมาพร้อมกัน แล้วค่อยให้พวกเจ้าเผชิญหน้ากัน เจ้าว่าอย่างไร?”

หากซือถูซิงเฉินจะเล่นงานเยว่เอ๋อร์ให้ตาย…

ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“ด้วยความยินดี”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์