สรุปตอน บทที่ 374 ปรากฏตัว [รีไรท์] – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 374 ปรากฏตัว [รีไรท์] ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
แต่ซือถูซิงเฉินกลับรู้สึกว่าคำพูดของฉู่หลิวเยว่นั้นทิ่มแทงใจอย่างมาก
แววตาของนางเปลี่ยนไป นางยิ้มขึ้นอย่างไม่เต็มใจ และหุบลงอย่างรวดเร็ว
เมื่อหรงจิ้นเห็นรอยยิ้มที่สดใสของฉู่หลิวเยว่ ในใจก็รู้สึกสับสนอย่างมาก
การหมั้นกับซือถูซิงเฉินเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเขาแล้ว
เมื่อทุกอย่างราบรื่นเช่นนั้น เขาก็รู้สึกชื่นชมยินดีกับตนเอง หากมีซือถูซิงเฉิน ต่อไปจะต้องเรียบร้อยแน่นอน
เดิมทีเขาคิดว่าตัวเขาเองไม่ได้สนใจฉู่หลิวเยว่มากเท่าไหร่นัก และไม่ว่าด้านใดซือถูซิงเฉินก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฉู่หลิวเยว่เลย
แต่ในตอนนี้เขากลับไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย
แต่สำหรับฮองเฮาในตอนนี้ นางไม่ได้ยินเสียงของฉู่หลิวเยว่เลย
นางดูหวาดกลัว แววตาไม่ได้สติ เมื่อมองไปที่แผ่นหลังที่เย็นชาของจักรพรรดิจยาเหวิน นางก็รู้สึกสิ้นหวังจากหัวใจจริงๆ
หากไม่ใช่เพราะด้านข้างมีซือถูซิงเฉินและหรงจิ้นพยุงอยู่ นางคงทรุดตัวอยู่ที่พื้นไปนานแล้ว
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองราชินีอย่างครุ่นคิด จากนั้นนางก็หันหลังกลับเดินตามฉู่หนิงไป
…
พวกเขาเดินมาถึงประตูหน้าวังหลวงแล้ว หมินกงกงก็ได้จัดเตรียมรถม้าระดับธรรมดาไว้แล้ว
ฉู่หลิวเยว่อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ สามารถรับใช้ข้างกายจักรพรรดิจยาเวินมาหลายปี เป็นความคิดที่ดีอยู่จริงๆ
จักรพรรดิจยาเวินยังสวมชุดคลุมลายมังกรอยู่ หากออกไปทั้งอย่างนี้ จะต้องเกิดความปั่นป่วนอย่างมากแน่นอน
และยังมีฮองเฮา ที่ตอนนี้มีท่าทางจนตรอก ยิ่งไม่มีทางไปเจอคนอื่นได้
เมื่อใช้รถม้าธรรมดาแบบนี้ จะสามารถลดปัญหาไปมากทีเดียว
พร้อมเดินทางไปชีเจี่ยวเซี่ยงทั้งอย่างนี้
จักรพรรดิจยาเหวินนั่งรถม้าคนเดียว มีเพียงหมินกงกงที่ติดตามพระองค์เท่านั้น
ส่วนคนที่เหลือก็ใช้รถม้าคันเดียวกัน
ภายในรถม้า ทั้งคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ไม่มีคนพูดอันใด บรรยากาศเย็นยะเยือก อากาศรอบข้างเหมือนจะเย็นลง
ในที่สุดหรงจิ้นก็พูดขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว
“เสด็จแม่ ท่านไม่ต้องกังวลใจ หากมีคนคิดจะทำร้ายพวกเรา เขาก็ไม่มีความสามารถมากพอหรอก! เสด็จพ่อฉลาดหลักแหลม จะต้องสามารถแยกแยะถูกผิดได้แน่นอน และท่านต้องเป็นคนบริสุทธ์อย่างแน่นอน”
คำว่า “หากมีคนคิดจะทำร้ายพวกเรา” คำนี้ชี้ชัดว่าหมายถึงหรงจิ่ว
หรงจิ้นคิดว่าหากหรงจิ่วไม่ยื่นมือยื่นเท้าเข้ามา เรื่องนี้ก็จะไม่เป็นแบบนี้หรอก
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เขาก็หันไปมองที่หรงจิ่วที่นั่งอยู่ตรงข้ามอย่างอดไม่ได้ ความขุ่นเคืองก็ปรากฏขึ้นในสายตา
ครั้งที่แล้วก็เพราะหรงจิ่ว เขาก็โดนเสด็จพ่อกักบริเวณ และโดนริบอำนาจไปไม่น้อยเลย
ครั้งนี้ ก็เพราะเขาอีกแล้ว!
อย่างใดก็ตามหรงจิ่วนั่งพิงกำแพงรถม้า พร้อมหลับตา สีหน้าราบเรียบ ราวกับว่าไม่ได้เห็นเรื่องเหล่านี้อยู่ในสายตาเลย
“หรงจิ่ว พวกเราไม่มีความแค้นต่อเจ้า เหตุเจ้าต้องทำร้ายพวกเราเช่นนี้ ไม่กลัวกรรมตามสนองหรือ?”
ในที่สุดหรงจิ้นก็ทนไม่ไหว จึงถามขึ้นมาเสียงต่ำ
หรงจิ่วลืมตาขึ้นมาด้วยความว่างเปล่า
“เสด็จพี่ ข้าทำร้ายท่านหรือ? ข้าแค่ช่วยท่านพ่อตามหาหรงเจินเท่านั้น ก่อนหน้านี้ข้าก็พูดที่ท้องพระโรงไปแล้ว ที่ข้าพูดไปทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่มีประโยคไหนทำร้ายท่านเลย”
หรงจิ้นเห็นว่าเขาไม่ได้ยอมรับ จึงโมโหขึ้นมา
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าบนรถม้ามีคนมากมาย เขาจะลุกขึ้นไปต่อยหรงจิ่วนานแล้ว
ฉู่หลิวเยว่นั่งอยู่ด้านข้าง แต่เขาหันไปคุยกับฉู่หนิงว่า
“ท่านพ่อ ความจริงครั้งนี้ที่ข้าไปสำนักไท่เหยี่ยนนั้น สนุกมากเลย…”
เดิมทีฉู่หนิงก็รู้สึกกังวลใจมาก แต่เมื่อเห็นว่าลูกสาวของเขานั้นสงบนิ่ง เขาก็สบายใจขึ้นไม่น้อย
เมื่อได้ยินนางพูดเรื่องสำนักไท่เหยี่ยน เขาก็อดรู้สึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้
“อ่า? งั้นหรือ? ข้าได้ยินว่าห้องหนังสือของเขากว้างมาก เจ้าไปเจออันใดมาบ้าง?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มตาหยีแล้วพูดขึ้น
“ความจริงแล้วข้าก็เห็นมาไม่เท่าไหร่ แต่ว่าข้ากลับเจอสิ่งที่ชอบแล้ว”
แววตาของซือถูซิงเฉินดูดุร้ายขึ้นมา
ไม่ได้มองเท่าไหร่?
ฉู่หลิวเยว่ยังมีหน้ามีพูดแบบนี้อีกหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...