ร่างกายของเจี่ยนเฟิงฉือเกร็งขึ้นตามสัญชาตญาณ! พลันประสานฝ่ามือรวมพลังปราณอย่างรวดเร็ว!
ทว่าครู่ต่อมา จิตสังหารนั่นก็สลายไปอย่างลึกลับ ราวกับว่ามันไม่เคยปรากฏมาก่อน
หรงซิวยิ้มเยาะเบาๆ
“เอาที่นายน้อยเจี่ยนสะดวกเถอะ”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่ลังเล
เจี่ยนเฟิงฉือยังคงตกตะลึงไม่หาย และเป็นเช่นนั้นอยู่พักใหญ่
เมื่อครู่นี้…มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ในขณะนั้นเขารู้สึกได้แค่ว่ามีจิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมาจากร่างของหรงซิว แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว จนเกือบทำให้เขาคิดว่าตัวเองเข้าใจผิดไป
แต่…คนอย่างเขาน่ะหรือจะคิดมโนไปเอง?
เมื่อเห็นเงาของหรงซิวหายไปจากสายตาแล้ว เจี่ยนเฟิงฉือก็พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย
เจ้าหลี่หวันคนนี้…ดูลึกลับและจับทางได้ยากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก…
เขาหันศีรษะกลับไปมอง และเห็นร่องรอยของดอกไม้ไฟจุดสุดท้ายที่เบ่งบานอยู่บนท้องฟ้า
ประชาชนทั่วทั้งเมืองหลวงสามารถมองเห็นมันได้ชัดเจน
ไม่ว่าคนที่ส่งสัญญาณจะเป็นใคร มันจักต้องเกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นแน่นอน
เจี่ยนเฟิงฉือลูบปลายคางอย่างขบคิด หรือจะเป็นฝีมือเจ้าบ้ามู่ชิงเห่อกันนะ?
พอคิดเช่นนี้ หัวใจของเขาก็เต้นระรัวราวสนใจใคร่รู้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนที่มู่ชิงเห่อจะมาที่แคว้นเย่าเฉิน ในใจเขาก็คิดไว้แล้วว่าเรื่องนี้มีกลิ่นตุๆ
แม้ว่าเขาจะเป็นยอดฝีมือที่ได้รับคำสั่งให้ค้นหาชีพจรตี้จิง ทว่าเมื่อดูตามนิสัยของมู่ชิงเห่อแล้ว เขาไม่จำเป็นจะต้องลงมือเองด้วยซ้ำ แค่ส่งลูกน้องออกไปทำภารกิจแทนตัวเองก็จบ
แต่ครั้งนี้มู่ชิงเห่อยอมมาด้วยตัวเอง
อีกทั้งสองสามวันมานี้ มู่ชิงเห่อมักจะออกไปข้างนอกแต่เช้าและกลับดึกเสมอ เจี่ยนเฟิงฉือไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดทำการใดอยู่
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็หันหลังกลับและก้าวเท้าออกไป พลันมุ่งหน้าไปจุดปล่อยสัญญาณดอกไม้ไฟทันที!
…
ฉู่หลิวเยว่กระชับหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ในมือ และเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ท่ามกลางความมืดมิด
นางไม่รู้ว่าตัวเองเดินแบบนี้อยู่นานแค่ไหน ทว่าจู่ๆ ก็มีบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้านาง…กำแพงหรือ!?
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้ามองมันจากระยะไกล ก่อนจะรู้ว่ามันคือทางตัน
ดวงตาคมสวยกวาดมองกำแพงหินสีน้ำเงินอมดำข้างหน้า ที่ปิดเส้นทางสัญจรของนางอย่างสมบูรณ์
พลันขมวดคิ้วเล็กน้อย
ใครจะคิดว่านางจะเดินมาเจอทางตันกัน?
แต่แล้ว นางก็ตระหนักได้ว่าเสียงหยดน้ำนั้น ดังมาจากด้านบนเหนือกำแพงหินตรงหน้า!
นางโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเห็นรูเล็กๆ รูปครึ่งวงกลมอยู่เหนือกำแพงหิน
พร้อมท่อเหล็กกลวงสีทองชิ้นหนึ่งที่ยื่นออกมา
มีหยดน้ำไหลออกมาทีละหยด
“ติ๋ง”
“ติ๋ง”
หากอยู่ในพื้นที่ที่เงียบสงบ เสียงหยดน้ำจะดังชัดเจนเป็นพิเศษ
ฉู่หลิวเยว่มองตามหยดน้ำที่ไหลลงพื้น และตอนนั้นเอง นางก็เห็นร่องตื้นๆ ใต้กำแพงหิน
หยดน้ำทั้งหมดไหลไปรวมตัวกันอยู่ตรงกลางร่องน้ำนั้นเงียบๆ
ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองซ้ายมองขวา และพบว่าร่องตื้นๆ ที่ว่านั่นมีเส้นทางที่ถอดตัวลึกเข้าไปในความมืดมิดจนมองไม่เห็นปลาย
นางยกหม้อต้มเทวศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอีกครั้ง
คราวนี้นางเห็นเต็มสองตาว่าภายในท่อนั้นมีลวดลายบางอย่างถูกวาดไว้อยู่!
ทว่าอาจเป็นเพราะสถานที่แห่งนี้เก่าแก่มาก จึงทำให้ลายอักขระบนนั้นจางลงไปมาก เหลือเพียงโครงร่างที่ดูคลุมเครือ
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออันใด ดังนั้นนางจึงต้องพักมันไว้ก่อน
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ การหาทางออกไปจากที่นี่
ฉู่หลิวเยว่เคาะมือลงบนกำแพงหิน และพบว่ามันแข็งมาก และมีความหนาที่หนาผิดปกติกำแพงทั่วไป ซึ่งนางไม่สามารถทำลายมันได้ด้วยตัวเองแน่นอน
หลังจากนั้นนางก็ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทว่าก็ยังไม่พบวิธีใดใด
หรือจะเดินย้อนกลับไปดี?
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วมุ่น
ก่อนที่นางจะสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างด้านหลังกำแพงหิน กำลังดึงดูดนางให้ก้าวเข้าไป
ถ้ายอมแพ้ง่ายๆ ล่ะก็ ในใจนางคงรู้สึกไม่ดีเป็นแน่
นอกจากนี้ ถึงจะเดินย้อนกลับไปแล้ว นางจะสามารถกลับขึ้นไปบนยอดเขาได้หรือ?
ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเสียงของตัวล็อคที่อยู่ด้านใน!
ฉู่หลิวเยว่ปล่อยมือ และในวินาทีต่อมา เธอก็เห็นกลุ่มดาวสีทองปรากฏขึ้นบนกำแพงหินตรงหน้า!
ดวงดาวเหล่านั้นเปรียบเสมือนดวงดาวที่ทอประกายระยิบระยับในคืนที่มืดมิด
ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้นปิดตา ทว่าหางตากลับเหลือบไปเห็นกลุ่มดาวเหล่านั้น ค่อยๆ ก่อตัวรวมกันเป็นเส้น!
จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นลวดลายที่ขยายใหญ่ขึ้น และดูแปลกประหลาด!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจมาก นี่มันลายอักขระคลุมเครือที่เธอเห็นก่อนหน้านี้ชัดๆ!
ทว่าตอนนี้ประกายของมันสว่างขึ้นกว่าเมื่อครู่ และในที่สุดโครงสร้างอักขระที่ชัดเจนก็ประจักษ์แก่สายตา
ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับถูกบางอย่างบีบรัด นัยน์ตาคู่สวยจ้องมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตาไม่กะพริบ!
นั่นมัน…
ครืน!
ทว่าก่อนที่นางจะได้แยกแยะความแตกต่าง จู่ๆ กำแพงหินตรงหน้าก็แตกออกจากกึ่งกลางของท่อโลหะ!
แสงสีขาวพร่างพราวพุ่งทะลักออกมา!
ถวนจื่อกระโดดกลับไปเกาะไหล่นาง และกำเสื้อผ้าของนางไว้แน่น
หลังจากนั้นไม่นาน การเคลื่อนไหวโดยรอบก็ค่อยๆ หยุดลง ฉู่หลิวเยว่เริ่มชินกับแสงสีขาว และจ้องมองเข้าไปข้างในกลุ่มแสงเหล่านั้น
แต่เมื่อเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้า นางก็ถึงกับตกตะลึงจนลืมหายใจเลยทีเดียว!
นางเห็นธารดาราอันกว้างใหญ่ที่กำลังสะท้อนแสงสีเงินสวยเป็นประกาย ทอดตัวเป็นแนวนอนตัดผ่านชั้นบรรยากาศ!
ดวงดาวเหล่านั้นเปล่งแสงเจิดจ้าส่องสว่างไปทั่วพื้นที่!
เมื่อครู่ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ทำลายกำแพง กลุ่มดาวเหล่านั้นที่นางเห็น คงจะหลุดออกมาจากสถานที่แห่งนี้แน่ๆ!
ฉู่หลิวเยว่ตาโตด้วยความตกใจ
แม่น้ำสายนั้นลอยอยู่กลางอากาศ มันดูโปร่งใสแต่มีลำแสงเจิดจ้า เมื่อมองแวบแรก มันดูเหมือนทางช้างเผือกที่สวยงามในคืนที่มืดมิด! ช่างงดงามตระการตายิ่งนัก!
และใต้ลำธารดารา ก็ปรากฏจัตุรัสกว้างตั้งตระหง่านอยู่บนพื้น
ที่ตรงกลางจัตุรัสนั้น มีบัลลังก์ทองคำตั้งอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยว
อย่างใดก็ตาม นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ฉู่หลิวเยว่ตกใจมากที่สุด
แต่เป็น…ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำนั่นต่างหาก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...