ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 41

ฉู่หลิวเยว่หางตากระตุก

เสี่ยวหลิวเยว่?

เมื่อครู่นี้ยังทำหน้าเหลืออดอยู่เลย เผลอหน่อยเดียวก็เปลี่ยนทัศนคติร้อยแปดสิบองศาในชั่วพริบตา!

เปลี่ยนสีเร็วยิ่งกว่ากิ้งก่าเสียอีก!

“เอ่อคือ…อาจารย์ไป๋เชิน ท่านไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้…”

“นี่จะเรียกว่าสุภาพได้ยังไงกัน! ในเมื่อเจ้าเป็นศิษย์ของสำนักเทียนลู่แล้ว ดูแลเจ้าดีๆ ถือเป็นหน้าที่ในฐานะอาจารย์”

ไป๋เชินกุลีกุจอพูด

ขณะที่พูดเขาก็มองดูสีหน้าของฉู่หลิวเยว่อย่างระมัดระวัง แล้วก็แอบนึกเสียใจภายหลัง

ก่อนหน้านี้เขาเสียมารยาทกับนางได้อย่างไร

เสี่ยวหลิวเยว่ต้องเสียความรู้สึกกับเขาแน่นอน

หากรู้ตั้งแต่แรกว่านางมีพรสวรรค์ด้านปรมาจารย์อันน่าทึ่งเช่นนี้ล่ะก็ เขาจะต้อนรับนางเป็นอย่างดีเชียวล่ะ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาจึงอดนึกถึงตระกูลฉู่รุ่นที่สิบแปดไม่ได้

คนไร้ความสามารถอย่างนั้นหรือ

ตระกูลฉู่โง่แล้วอวดฉลาด

มีตาหามีแววไม่ ไม่รู้จักอัจฉริยะตัวจริงซะแล้ว แถมยังพลอยทำให้เขาเดือดร้อนอีกต่างหาก!

ถ้าไม่ใช่เพราะข่าวลือนั่น เขาคงไม่ทำเสียมารยาทกับนางเช่นนี้แน่

“เสี่ยวหลิวเยว่…เมื่อครู่นี้อาจารย์เสียมารยาทกับเจ้าไป เจ้าอย่าได้ถือสาเลยนะ!”

ไป๋เชินเกาศีรษะและพูดด้วยความกระดากอาย

ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองเขาด้วยความประหลาดใจ ถึงแม้จะเห็นว่าเขามีสีหน้ากระอักกระอ่วน แต่แววตาเขากลับจริงใจมาก

เขาขอโทษจากใจจริง

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ

คนผู้นี้ช่างน่าสนใจจริงๆ

ก่อนหน้านี้ที่ดูถูกเหยียดหยามนางเป็นเรื่องจริง แล้วตอนนี้อยากตีสนิทกับนางก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน

เปลี่ยนจากหน้ามือเช่นนี้ เป็นเพราะว่านางแสดงความสามารถด้านปรมาจารย์ใช่หรือไม่

แต่นางก็พยายามควบคุมแล้วนี่นา…

การแก้หมากกระดานนั้นง่ายดายยิ่งนัก นางเริ่มเรียนรูปขบวนเชิงยุทธวิธีหรือค่ายกลกระบี่มาตั้งแต่สี่ขวบ เมื่ออายุได้ห้าขวบนางก็สามารถสร้างค่ายกลขั้นสูงได้ด้วยตัวเอง ส่วนค่ายกลดังกล่าวเมื่อครู่นี้นางยังขี้เกียจดูเสียด้วยซ้ำ

แต่ตอนนี้สงสัย…นางคงต้องถ่อมตัวสักหน่อยแล้ว…

“ผู้แข็งแกร่งถือเป็นที่เคารพ หลิวเยว่ทราบจุดนี้ดี อาจารย์ไป๋เชินไม่ต้องสนใจหรอกเจ้าค่ะ”

สถานะของไป๋เชินก็ถือว่ามีเกียรติเช่นกัน แต่เนื่องจากเขาเต็มใจที่จะขอโทษนางต่อหน้าคนจำนวนมาก มันก็ถือเป็นความจริงใจของเขาด้วย ซึ่งทำให้ทัศนคติของฉู่หลิวเยว่ที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

คนเช่นนี้ก็เปรียบเสมือนไม้แก่ดัดยาก แค่ทำให้เขาเห็นถึงความสามารถที่แท้จริงถึงจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติของเขาได้

เมื่อได้ยินนางกล่าวเช่นนั้น ในที่สุดไป๋เชินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และถามอย่างกระตือรือร้น

“แล้วการสอบหมอเทวดาเล่า เจ้ายังต้องการสอบต่อไปหรือไม่”

หมอเทวดายากเสียยิ่งกว่าปรมาจารย์อีก

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าฉู่หลิวเยว่ทำเป็นอวดดีเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาแอบมีความหวังขึ้นมาเล็กน้อย

บางที….นางอาจจะเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านหมอเทวดาจริงๆ ก็ได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์