สรุปตอน บทที่ 552 ทวงหนี้ [รีไรท์] – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 552 ทวงหนี้ [รีไรท์] ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
อวี้ฉือซงไม่คาดคิดว่าเรื่องที่ฉู่หลิวเยว่ต้องการจะพูดกับเขา ที่แท้ก็เป็นเรื่องนี้
เขามองไปยังกล่องไม้ด้วยสายตาที่ซับซ้อน พลางส่ายศีรษะ
“เจ้าซื้อมาแล้ว ก็เป็นของๆ เจ้า ไม่ต้องคืนข้า”
ฉู่หลิวเยว่ยังคงยืนกรานที่จะยื่นกล่องไม้ไปยังด้านหน้า
“ในเมื่อท่านบอกมันคือของของข้า เช่นนั้นข้าจะจัดการอย่างใดล้วนขึ้นอยู่กับข้ามิใช่หรือ?”
อวี้ฉือซงลนลาน
“เจ้าสำนักเก๋อ ท่านช่วยข้ากับเสี่ยวโจวไว้ ทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการส่งคืนของขวัญนะท่าน! ถ้าท่านไม่ยอมรับของไว้ เช่นนั้นข้าก็คงไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบใจได้ เกรงว่าคงต้องหาที่ซุกหัวนอนที่อื่น”
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจแผ่วเบา
“ราคาจวนของท่านสูงกว่าตราประทับอันนี้มากโข…อีกอย่าง วันนั้นข้าเห็นท่านตัดใจจากของสิ่งนี้ไม่ได้ เช่นนั้นมันย่อมเป็นของสำคัญของท่านมิใช่หรือ? เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านก็รับมันไว้เสียเถิด!”
อวี้ฉือซงลังเลอยู่ครู่ใหญ่ สักพักจึงยอมรับกล่องไม้นั้นกลับไป
ฉู่หลิวเยว่พูดถูก
ตราประทับอันนี้ไม่ใช่ของที่ราคาแพงที่สุดของเขา ทว่ากลับมีค่าอย่างยิ่ง บัดนี้มันถูกผลัดเปลี่ยนมาหลายมือ แต่หวนกลับมาอยู่ในมือของเขาได้…
“หลิวเยว่ ขอบคุณเจ้ามาก”
อวี้ฉือซงมองไปยังฉู่หลิวเยว่ กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขัง
ฉู่หลิวเยว่แววตาสั่นไหว แย้มริมฝีปากหัวเราะออกมาคราหนึ่ง
“ตอนนี้ข้าเองก็เป็นคนของสำนักชงซูเก๋อ ยังต้องเอ่ยขอบคุณกับข้าอยู่อีกหรือ? ภายหลังยังต้องขอพึ่งพาท่านอีกมากทีเดียว!”
อวี้ฉือซงถือกล่องไม้ไว้ และรู้ว่าฉู่หลิวเยว่มีเจตนาประชดประชัน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“เจ้านี่นะ… ถ้าหากว่าเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าคิดจะกลับไปที่ชงซูเก๋อเมื่อใด?”
ฉู่หลิวเยว่ขยิบตาครั้งหนึ่ง
“คงต้องรอสักพักหนึ่ง ข้ายังมีเรื่องต้องไปทำ”
อวี้ฉือซงเกิดความสงสัย พลันเอ่ยถาม
“เรื่องอันใด?”
ฉู่หลิวเยว่เผยรอยยิ้มแฝงนัยยะออกมา
“ก็… ปัญหาเรื่องเงินทองอย่างใดเล่า”
…
ณ หอคอยชุนเฟิง
บริเวณชั้นสอง ณ ห้องรับรองส่วนตัว
เจี่ยนเฟิงฉือนอนเอนไปกับตั่งอย่างเคย ขาข้างหนึ่งชันขึ้น มือข้างหนึ่งท้าวศีรษะไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ขยับโบกในมืออย่างมิหยุดหย่อน
นอกม่านกั้น สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์กำลังเล่นผีผา
เจี่ยนเฟิงฉือหลับตาอย่างเกียจคร้านพลางฟังดนตรีบรรเลง รื่นรมย์อย่างเป็นธรรมชาติ
วันนี้สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์อารมณ์ดีเป็นพิเศษ บรรเลงบทเพลงจนจบอย่างที่ไม่ได้เห็นได้บ่อย
สิ้นเสียงการบรรเลง เสียงขับร้องและบรรเลงยังคงลอยวนในอากาศ เสียงนั้นใสกังวานอยู่มิรู้ลืม
สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ยันกายลุกขึ้น หลังอุ้มผีผาเข้าไปหลังม่าน ก่อนจะออกมาถอนสายบัวทำความเคารพ
“องค์ชายเจี่ยน เพลงจบแล้ว”
เจี่ยนเฟิงฉือปรือตา เผยอริมฝีปากแย้มยิ้ม แล้วหยิบแหวนเฉียนคุนออกมาวงหนึ่ง
“ตัวข้าพูดคำไหนคำนั้น รับไปเสียสิ!”
สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ยื่นมือไปรับแหวนเฉียนคุนไว้ ใช้พลังตรวจสอบครู่หนึ่ง ก่อนคลี่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้องค์ชายเจี่ยนจะได้รับโชคก้อนใหญ่เสียจริง จึงได้มีน้ำใจมากเช่นนี้”
เจี่ยนเฟิงฉือหัวเราะพลางเอ่ยตอบ
“ผนึกศิลาขาวหนึ่งแสนชิ้น ซื้อการบรรเลงของเจ้าได้หนึ่งรอบ สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ เจ้าเป็นผู้เดียวในซีหลิงที่ได้รับขนาดนี้เชียว!”
สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์เลิกคิ้วดำงามขึ้น
“แน่นอนว่าข้าย่อมบรรเลงให้สมกับราคา”
เจี่ยนเฟิงฉือมิกล่าวขัดอันใด เพียงแค่แย้มยิ้มเท่านั้น
สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ทรุดตัวลงนั่งด้านข้าง
“กลับมาที่เรื่องของเรา เรื่องคราก่อนเพิ่งเริ่มต้น ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อน วันนี้พอมีเวลา เจ้าควรจะพูดกับข้าเสียให้ชัดเจน”
เจี่ยนเฟิงฉือบิดเอวอย่างเกียจคร้าน
“รู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องถามเรื่องนี้! เพิ่งได้โชคได้ลาภ ข้าลงพนันขันต่อเสียแรงไปมาก มิให้ข้าได้พักผ่อนดีๆ หน่อยหรือไร?”
สุ่ยหลิ่วเอ๋อร์ยิ้มแย้มที่ดูแล้วสบายตายิ่ง
“ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ท่านก็พักผ่อนมาตลอดมิใช่หรือ? หรือว่ายังไม่พอ?”
เจี่ยนเฟิงฉือรีบผุดลุกนั่งขึ้นทันทีทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...