ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 59

ฉู่เซียนหมิ่นคาดเดาความคิดของหรงจิ้นได้ในทันที

เขาเพิ่งจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับฉู่หลิวเยว่ได้ไม่กี่วัน แต่ฉู่หลิวเยว่ดันสอบเข้าสำนักเทียนลู่ได้ และยังได้อันดับสองของการสอบปรมาจารย์อีกด้วย ซึ่งเท่ากับว่านางได้ตบหน้าเขาแรงๆ ฉาดใหญ่!

ฉะนั้นตอนนี้มีเพียงแค่นางต้องได้ที่หนึ่งในการสอบผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้น ถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าตนเองแข็งแกร่งกว่าฉู่หลิวเยว่ ถึงจะกู้หน้าตากลับมาได้

และเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนางแค่คนเดียวเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับหน้าตาขององค์ชายรัชทายาทอีกด้วย!

ดังนั้นพระองค์จึงรีบเสด็จมาด้วยสถานการณ์เยี่ยงนี้!

เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า การที่เขาทิ้งฉู่หลิวเยว่และเลือกฉู่เซียนหมิ่นมาแทนนั้นไม่ได้สูญเสียสิ่งใดเลยสักนิด!

“พี่จิ้นโปรดวางใจ หมินหมิ่นจะทำให้เต็มที่เพคะ”

ฉู่เซียนหมิ่นรู้ดีว่านี่คือโอกาสของตนเอง นางจึงรีบตกปากรับคำ

ถ้าวันนี้แสดงความสามารถออกมาได้ดี องค์ชายรัชทายาทก็จะได้ไร้ขวากหนาม ต่อไปคงทำอะไรได้ง่ายมากขึ้น

หรงจิ้นพยักหน้าด้วยความพอใจ

สิ่งที่เขาชอบที่สุดคือความฉลาดของฉู่เซียนหมิ่น รู้ว่าเวลาไหนควรทำหรือไม่ควรทำสิ่งใด

“ฉู่เซียนหมิ่น กู้หมิงเฟิง พวกเจ้าพร้อมหรือยัง การแข่งขันรอบตัดสินกำลังจะเริ่มแล้ว!”

อาจารย์ผู้รับผิดชอบในการคุมสอบท่านหนึ่งตะโกนเรียก

เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เซียนหมิ่นและกู้หมิงเฟิงต่างก็เดินไปที่พื้นที่ที่สงวนไว้ตรงกลาง

นักเรียนคนอื่นๆ ได้สร้างวงกลมกลางสนามไว้เพื่อรอรอบชิงชนะเลิศจะเริ่มขึ้น

สามารถติดอันดับในรายชื่อนักเรียนดีเด่นหลายร้อยคน ทั้งคู่ย่อมมีพรสวรรค์และความสามารถแข็งแกร่งพอ

“การแข่งขันรอบตัดสินหาผู้ชนะคนสุดท้ายไม่มีการจำกัดเวลาจนกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้ แต่ไม่อนุญาตให้มีการฆ่ากันตายเกิดขึ้นระหว่างแข่งขัน มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ์!”

อาจารย์ผู้คุมสอบพูดเสียงดังขึ้น แล้วเหลือบมองทั้งสองคน

“เข้าใจแล้วใช่หรือไหม”

“ศิษย์จะจำไว้”

“การแข่งขัน…เริ่ม!”

เมื่อเสียงของอาจารย์ประกาศออกไป บรรยากาศการสอบก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที

“โปรดชี้แนะด้วย”

ฉู่เซียนหมิ่นเอ่ยขึ้นด้วยความถ่อมตน

“อาจารย์อวี๋ ข้าว่าเรื่องในตระกูลชาวบ้านเราว่ายุ่งให้น้อยๆ หน่อยดีกว่า…”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ ทุกคนต่างกันมาสบตากันโดยไม่พูดอะไรมากอีก ในไม่ช้าหัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนไปเป็นการแข่งขันระหว่างฉู่เซียนหมิ่นและกู้หมิงเฟิง

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป ทั้งสองก็ยังคงต่อสู้กันยากที่จะรู้แพ้รู้ชนะ

ฉู่เซียนหมิ่นค่อยๆ ร้อนใจขึ้นมา

เพราะนางพบว่ากู้หมิงเฟิงนั้นแข็งแกร่งกว่าที่จินตนาการเอาไว้

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ที่หนึ่งคงหลุดมือไปเป็นแน่

นางเหลือบมองหรงจิ้นที่อยู่ข้างๆ อย่างรวดเร็ว แล้วก็เห็นว่าสีหน้าของเขามืดมนดั่งคาด

ฉู่เซียนหมิ่นลอบกันฟัน จะทำเช่นนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

ต้องจบสงครามนี่โดยเร็วที่สุด

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ ออกแรงหมุนตัวทะลวงกระบี่ยาวพุ่งไปข้างหน้าโดยพลัน!

Next

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์