กู้หมิงเฟิงก็ยกกระบี่ขึ้นมาพร้อมกัน!
เคร้ง…
เมื่อคมกระบี่ของทั้งสองกระทบกันจึงทำให้เกิดเสียงบาดแก้วหูและเกิดประกายไฟระยิบระยับ
หัวใจของฉู่เซียนหมิ่นหล่นวูบ พลังที่แฝงอยู่ในกระบี่ของกู้หมิงเฟิงแข็งแกร่งว่านางยิ่งนัก!
เมื่อครู่นี้เขาเก็บซ่อนพลังเอาไว้จริงๆ ด้วย!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ได้ ฉู่เซียนหมิ่นก็ยิ่งกระวนกระวาย
ไม่ได้!
ข้าจะแพ้กู้หมิงเฟิงไม่ได้เด็ดขาด!
วันนี้นางต้องคว้าเอาที่หนึ่งมาให้ได้แน่นอน!
กู้หมิงเฟิงออกแรงที่ข้อมืออีกครั้ง กระบี่ยาวดันฉู่เฉียนหมิ่นให้ถอยเข้ามา!
ฉู่เซียนหมิ่นรู้สึกชาไปทั่วทั้งแขนแล้ว ดูเหมือนนางกำลังควบคุมกระบี่ในมือไม่ไหวแล้ว
ทันใดนั้นนางไหวตัวด้วยความปราดเปรียว ปล่อยกระบี่จากมือและย่อตัวลง จากนั้นก็เบี่ยงหลบไปทางด้านข้าง
ตอนแรกกู้หมิงเฟิงคิดว่าไม่ว่าอย่างไรนางก็ต้องกลับมาสู้อีกครั้งแน่นอน แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่านางจะโยนดาบทิ้งแล้วหายไปจากตรงนี้ชั่วพริบตา
เดิมที่เขาถ่ายทอดพลังลงไปที่กระบี่ยาวอย่างเต็มเปี่ยม แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่าแล้ว อีกทั้งยังทำให้ร่างของเขาไหวเอนไปมาด้วย!
และในชั่ววินาทีนั้นเอง ฉู่เซียนหมิ่นก็ได้อ้อมมาอยู่ข้างกายเขาแล้ว
ในมือของนางมีบางสิ่งที่ส่องแสงประกายเยือกเย็นและเฉียบคม
…ซึ่งก็คือมีดสั้นอันคมกริบ!
แต่กว่าที่กู้หมิงเฟิงจะทันรู้ตัว มีดสั้นเล่มนั้นก็พุ่งมาข้างหน้าและห่างจากลำคอของเขาเพียงครึ่งศอกแล้ว!
เมื่อเขารู้ตัวว่าต้องหมุนควงกระบี่เข้าต้านก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
ภายใต้สถานการณ์คับขัน กู้หมิงเฟิงจึงทำได้เพียงถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อครู่นี้เขาไม่ได้ยืนมั่นคง เมื่อถึงคราวนี้จึงทำให้ร่างกายของเขาเสียสมดุลทันที!
แววตาที่เขามองฉู่เซียนหมิ่นพลันเย็นเฉียบ ฉู่เซียนหมิ่นกล้าลอบกัดข้ารึ!
ไฟแห่งความโกรธลุกโชนในใจเขา เขากำลังจะขยับตัว แต่จู่ๆ เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จากนั้นสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย และลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ไม่ ตอนนี้ยังทำไม่ได้…
ขณะนั้นเองฉู่เซียนหมิ่นก็ได้มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว
กู้หมิงเฟิงแอบใช้กำลังขาครึ่งหนึ่งเตะไปที่ข้อมือของฉู่เซียนหมิ่น
ปึก!
เขาเตะมีดสั้นในมือของฉู่เซียนหมิ่นจนลอยออกไป
แต่ฉู่เซียนหมิ่นได้เตรียมการไว้ก่อนหน้าแล้ว นางรับแรงส่งยกขาขึ้นมาถีบไปที่กลางหน้าท้องของกู้หมิงเฟิงทันที
กู้หมิงเฟิงกระเด็นออกไปพร้อมเสียงจุกดักอึกอัก จากนั้นก็ร่วงลงพื้นอย่างแรงแล้วทิ้งรอยลากยาวไปบนพื้น
ฉู่เซียนหมิ่นเดินมาข้างหน้าหรงจิ้น แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
“โชคดีที่หม่อมฉันไม่ทำให้พี่จิ้นผิดหวัง”
หรงจิ้นยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ความสามารถของเจ้าพัฒนากว่าแต่ก่อนมาก ดูแล้วอีกไม่รานคงบรรลุผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สี่ได้แล้ว”
ไม่ว่าวิธีการระหว่างแข่งขันจะเป็นเช่นไร สิ่งที่เขาต้องการคือผลลัพธ์
“ก่อนหน้านี้ข้าสัญญากับเจ้าเอาไว้ว่าถ้าเจ้าสอบได้ที่หนึ่ง ข้าจะมอบรางวัลให้เจ้า”
ตอนนี้หรงจิ้นอารมณ์ดีขึ้นมาก แล้วมองหน้าฉู่เซียนหมิ่นอย่างสบายตาขึ้นมาก
ส่วนตำแหน่งพระชายาเอกนางคงเป็นไม่ได้แล้ว แต่ถ้าเป็นพระชายารอง…ก็ไม่เลวเหมือนกัน
“การสอบแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์รุ่นที่สี่ร้อยห้าสิบสาม ผู้ชนะอันดับหนึ่งได้แก่ ฉู่…”
“ช้าก่อน!”
การประกาศของอาจารย์คุมสอบยังไม่ทันเสร็จสิ้น แต่ทันใดนั้นก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงกังวานใสของหญิงสาว
ทุกคนต่างหันไปมองแล้วก็เกิดอาการตกตะลึง
“ฉู่หลิวเยว่ เจ้ามาได้อย่างไร” เดิมทีอาจารย์คุมสอบที่โดนขัดจังหวะมีอารมณ์คุกรุ่นเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นว่าเป็นฉู่หลิวเยว่ น้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนลงมามาก
ฉู่หลิวเยว่มอบรอยยิ้มให้แล้วเอ่ยตอบ
“ศิษย์ต้องการเข้าร่วมสองผู้ฝึกยุทธ์เจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...