เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 719

เมื่อพูดจบ แสงสว่างสีแดงก็ส่องสว่างวาบต่อหน้า และร่างที่ใหญ่โตมหึมาของเก้าจิ๋วก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และสุดท้ายก็ได้กลายร่างเหลือเพียงขนาดเท่าฝ่ามือ!

ทั่วร่างของมันเป็นสีแดงก่ำ โดยเฉพาะส่วนหางที่ราวกับไฟลุกโชน ดูอบอุ่นและแข็งแกร่งยิ่งนัก!

ดวงตากลมโตคู่นั้นงดงามดุจดั่งอัญมณีล้ำค่า แพรวพราวระยิบระยับ!

ฉู่หลิวเยว่ยื่นมือของนางออกไป เก้าจิ๋วก็บินไปที่ฝ่ามือของนาง

ตาของนางไม่กะพริบแม้แต่น้อย และหัวใจของนางเต็มไปด้วยความสุขและทอดถอนใจ

แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเก้าจิ๋วหลบหนีการไล่ล่านี้ได้อย่างใด และก็ไม่รู้ว่ามันบอกให้ถวนจื่อพานางมาพบมันได้อย่างใดกัน

แต่ทว่า…สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด!

การที่มันยังรอดชีวิต ได้กลับมาเคียงข้างกายนางอีกครั้ง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่คิดอยู่ครู่หนึ่ง พลันเอ่ยในใจ

“เก้าจิ๋ว จากนี้ข้าเกรงว่าข้าจะเรียกเจ้าว่าเก้าจิ๋วไม่ได้อีกต่อไป เรียกเจ้าว่าถวนจื่อแทนได้หรือไม่?”

เอกลักษณ์เฉพาะตัวของไก่ฟ้าเก้าสีนั้นไวต่อการรับรู้อยู่แล้ว ถ้าหากเรียกหาเก้าจิ๋วอีกครั้ง มันจะกลายเป็นจุดสนใจเกินไป

อย่างใดก็ตาม นางก็เรียกถวนจื่อแบบนี้มานานแล้ว และมันก็ติดตามเคียงข้างกายนางด้วยการใช้ชื่อนี้มาโดยตลอด เรียกแบบนี้ก็ถือว่าเหมาะที่สุดเลยทีเดียวล่ะ

เก้าจิ๋วพยักหน้าอย่างตั้งใจ แล้วเอาหัวมาถูกับฝ่ามือของนางอย่างเบาๆ

มือสัมผัสขนปุกปุยนั้น ดูท่าทางว่านอนสอนง่ายน่าเอ็นดูเสียจริง ทำให้หัวใจของฉู่หลิวเยว่อ่อนโยนลง

นางพูดเบาๆ ว่า

“ถวนจื่อ ข้าจะพาเจ้ากลับบ้าน”

เมื่อเห็นกษายะหางวายุตัวใหญ่มหึมาบนท้องฟ้ากลายเป็นนกตัวน้อยๆ ขนาดเท่าฝ่ามือ ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านล่างล้วนตกตะลึง

จากนั้น เมื่อเห็นมันบินไปที่ไหล่ของฉู่หลิวเยว่ หนึ่งมนุษย์และหนึ่งอสูรต่างเข้าหากันเป็นหนึ่งเดียว ผู้คนต่างยิ่งแตกตื่นไปกันใหญ่

และในที่สุด เมื่อเห็นฉู่หลิวเยว่ ลูบหัวกษายะหางวายุนั้นด้วยความเอาใจใส่ พร้อมมาถูไถที่คอของนางด้วยความออดอ้อน นอกจากพวกพี่เหลยสี่สองคนที่คอยปกป้องมันมาโดยตลอดแล้ว ผู้คนที่เหลือทั้งหมดล้วนสติหลุดทันที

นี่ นี่มันอันใดกัน! ?

แล้วอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่สง่าผ่าเผยน่าเกรงขามล่ะ?

แล้วกษายะหางวายุอันดุร้ายล่ะ! ?

เหตุใดจู่ๆ ถึงกลายเป็นนกตัวเล็กแบบนี้ไปได้! ?

ที่สำคัญที่สุดคือ…เหตุใดมันถึงได้ทำตัวแนบชิดกับฉู่หลิวเยว่เช่นนี้! ?

ทุกสายตามองไปยังฉู่หลิวเยว่ที่ยืนอยู่ตรงกลางและก้อนสีแดงที่ไหล่ของนาง รอบตัวมีแต่ความเงียบงันจนน่าขนลุก

ลมพัดโชยไปครู่หนึ่ง ได้ยินเพียงเสียงใบไม้ปลิวไหวกระทบกัน

ฉู่หลิวเยว่มองไปรอบๆ หัวเราะออกมาเบาๆ

“พวกเจ้าเป็นอันใดไป?”

เสียงนี้ราวกับก้อนหินที่ตกลงสู่ทะเลสาบอันเงียบสงบ ทำให้เกิดคลื่นมากมายนับไม่ถ้วนในทันที!

“หลิวเยว่! จะ…เจ้า เกิดอันใดขึ้นกับเจ้า?”

ดวงตาของมู่หงอวี่เบิกกว้าง พลางถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“นะ…นี่ไม่ใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์หรอกหรือ!? เหตุใดมันถึงเปลี่ยนเป็นร่างขนาดเล็กได้ถึงเพียงนี้? อีกทั้งมันยังอยู่กับจะ จะ เจ้า…”

มู่หงอวี่ถึงกับพูดติดอ่างพักหนึ่ง

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบ

“อ๋อ เจ้านี่หรือ…อาจเป็นเพราะมันไม่ได้อยู่ในรูปแบบพร้อมรบ มันเลยหดตัวเล็กลงเช่นนี้…แต่ข้าก็ยังไม่แน่ใจ…”

ฉู่หลิวเยว่พูดยังไม่ทันจบ ถวนจื่อก็พยักหน้าอย่างแรง!

มันแน่นอนอยู่แล้ว!

ไม่เช่นนั้นมันจะยุ่งยากมาก ถ้าหากมันใหญ่เกินพกพา!

มันคงเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการที่จะอยู่กับเจ้านาย!

ฉู่หลิวเยว่หันไปมองมันและพูดอย่างจริงจัง

“โอ้ ดูเหมือนว่าข้าจะเดาถูกนะ พวกเจ้าดูสิ เห็นหรือไม่ว่ามันพูดเช่นนั้น”

ทุกคน “…”

มันพูดอันใดหรือ! ?

ไม่ใช่สิ สิ่งสำคัญของปัญหาไม่ใช่สิ่งนี้!

“หลิวเยว่ ขะ…ข้าไม่ได้ตั้งใจจะถามเรื่องนี้…”

มู่หงอวี่พูดออกมาด้วยความยากลำบากพร้อมกับสีหน้าที่สับสน

เย่หรานหร่านที่ยืนอยู่ข้างๆ จึงเข้าไปเพื่อช่วยอธิบาย พลางพูดเสียงเบา

ถ้ากษายะหางวายุต้องการค้นหาพันธสัญญาของมนุษย์จริงๆ เหตุใดท่ามกลางผู้คนมากมายเหล่านี้ มันถึงเลือกฉู่หลิวเยว่?

ฉู่หลิวเยว่ ยกคางขึ้นเล็กน้อย แสดงให้เห็นรอยขีดข่วนที่คอ

ขณะนี้ ยังมีเลือดติดอยู่บนนั้น

“ถวนจื่อเพิ่งจะถูกมันกลืนกินไปแล้ว ข้าคิดว่าจะไปช่วยถวนจื่อกลับมา แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นระหว่างทาง กรงเล็บของกายะหางวายุเจาะลงมาที่คอของข้า มันเป็นพันธสัญญาที่น่าประหลาดใจนัก…ข้าเองก็เพิ่งรู้เช่นกัน”

ฉู่หลิวเยว่พยายามอธิบายอย่างจริงใจ ท่าทีเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ

“สัตว์อสูรของข้าถูกมันกลืนกิน ทำได้เพียงพามันกลับมาแทน ”

ทุกคนล้วนเงียบกริบ “…”

อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่คนเป็นพันเป็นหมื่นต่างโหยหาอยู่ตลอดเวลา พันธสัญญาของเจ้ามันพิลึกยิ่งนัก มันไม่น่าเป็นไปได้ หรือนางชุบมือเปิบมา! ?

หรือนางตั้งใจใช้เพียงพอนโลหิตระดับสาม เปลี่ยนร่างนั้นให้เป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์!

ผู้คนต่างเกิดความเงียบงันน่าขนลุกอีกครั้ง

เป็นไปไม่ได้! มหัศจรรย์เกินคนไปแล้ว!

ครั้งแรกที่เห็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขายังไม่ทันได้มองดูชัดๆ ฉู่หลิวเยว่ก็รีบฝ่าเข้าไปเปิดศึกเสียก่อนแล้ว!

ประเด็นคือ…เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องบังเอิญเกินไป! แม้แต่คนเขาไปขัดจังหวะยังไม่มีเลย!

ทุกคนล้วนเห็นกับตาตัวเองว่า ตอนนั้นเพียงพอนโลหิตของฉู่หลิวเยว่ ถูกไก่ฟ้าเก้าสีกลืนลงคอไป

การที่ฉู่หลิวเยว่จะเข้าไปช่วยเหลือ มันก็สมเหตุสมผล

อีกทั้งที่จริงแล้วไก่ฟ้าเก้าสีน่าจะวางแผนที่จะกำจัดนาง มิเช่นนั้น คอของฉู่หลิวเยว่จะไม่มีรอยขีดข่วนเหล่านั้น

หากในเวลาปกติ มันไม่เคยแยแสว่าจะฆ่าคนเพียงแค่คนเดียวหรือฆ่านับร้อยคน

และตอนนั้นมันก็กำลังทะลวงขั้นพลังปราณอยู่ด้วย!

แต่ผลลัพธ์ที่ได้…กลับกลายเป็นพันธสัญญา! ?

มู่หงอวี่ยกนิ้วให้ด้วยความชื่นชม

ใบหน้าของเย่หรานหร่านเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“หลิวเยว่! เจ้ายอดเยี่ยมมาก!”

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและยิ้มด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน

“ที่ไหนกันล่ะ ข้าแค่โชคดีเสียมากกว่า”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์