ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 74

ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้ว่าจะอธิบายหรงซิวในตอนนี้อย่างไรดี

ดูเหมือนเขาจะหวนนึกถึงทิวทัศน์ที่เขาพรรณนา เหมือนกับว่าเขาคะนึงหาผู้หนึ่งอยู่

แล้วจะเห็นดอกท้อบานสะพรั่งในเหมันตฤดูได้ที่ไหน

ใครกันที่ทำให้เขาอาลัยอาวรณ์ได้ถึงเพียงนี้

ไม่ว่าในกรณีใด เห็นได้ชัดว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเขา

ฉู่หลิวเยว่ลังเลครู่หนึ่งและในที่สุดนางก็รับเอาปิ่นดอกท้อมาเก็บไว้

“เช่นนั้นก็ขอบพระทัยองค์ชายมากเพคะ”

หรงซิวเท้าคางด้วยสีหน้าผ่อนคลาย แสงไฟนวลอันอบอุ่นสาดส่องบนใบหน้าของเขา ยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาดูสง่าสงามและโดดเด่นขึ้นไปอีก

ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองออกไปนอกประตู ฝนเริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ และเขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

นางเอ่ยถาม

“องค์ชาย คนที่จวนของท่านรู้หรือไม่ว่าเสด็จมาที่นี่ ตอนนี้ฝนตกหนักแล้ว พวกเขาน่าจะมารับพระองค์ได้แล้วนะเพคะ”

แม้ว่าเขาจะมีร่ม แต่การที่จะให้หลีอ๋องเดินกางร่มฝ่าฝนกลับไปก็จะดูเกินไปหน่อย

โดยเฉพาะอีกฝ่ายเพิ่งมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ตัวเองแบบนี้

หรงซิวชำเลืองมองนางด้วยรอยยิ้มจางๆ

“ที่เจ้าอยากให้ข้ารีบกลับ เพราะไม่อยากเห็นหน้าข้าหรือ”

ฉู่หลิวเยว่พูดจริงจัง

“เป็นไปได้อย่างไร พระองค์เสด็จมาที่นี่ บ้านที่หลังเล็กและเรียบง่ายจะเทียบกับจวนของท่านไม่ได้…”

“แต่ข้ากลับคิดว่าที่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร”

หรงซิวเคาะโต๊ะ

“ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้ร่างกายข้าอ่อนแอและทนหนาวไม่ไหว ถ้าฝนตกทั้งคืนแบบนี้ ข้าเกรงว่าจะต้องค้างที่นี่สักคืน”

ฉู่หลิวเยว่หยิบถ้วยชาขึ้นมาเพื่อจะจิบชา แต่ก็เกือบจะปาถ้วยในมือออกไปเดี๋ยวนั้น

นางเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“พระองค์จะค้างที่นี่หรือ ไม่มีทาง!”

นางเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่วันแรกเองนะ

หรงซิวและนางไม่ใช่ญาติกัน ดังนั้นจะมานอนแบบนี้หมายความว่าอย่างไร

“บ้านเจ้าออกจะตั้งกว้าง อย่าบอกนะว่าไม่มีแม้กระทั่งห้องรับแขก”

หรงซิวทำท่าทางเหมือนแปลกใจเล็กน้อย

“…”

ฉู่หลิวเยว่พูดไม่ออก

จริงอยู่ที่บ้านหลังนี้มีห้องหลายห้อง แต่ตอนซื้อบ้าน นางจึงเตรียมทำความสะอาดไว้แค่ห้องนอนแค่สองห้องเท่านั้น

ห้องหนึ่งของฉู่หนิง ส่วนอีกห้องคือห้องของนาง

มีห้องสำหรับเขาซะที่ไหน

ฉู่หลิวเยว่ชี้แจงสถานการณ์ปัจจุบันให้หรงซิวฟัง

“…องค์ชาย ไม่ใช่ว่าข้าต้องการขับไล่ท่านออกไป แต่ข้าไม่สามารถหาที่ว่างให้พระองค์ได้จริงๆ วันนี้ท่านพ่อคงกลับดึก…”

“ท่านพ่อของเจ้าเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าเสด็จพ่อมิใช่หรือ ข้าได้ยินว่าดูเหมือนเสด็จพ่อจะทรงดีพระทัยมาก จึงบอกให้ใต้เท้าฉู่หนิงอยู่ต่อเพื่อสนทนาพาทีคืนนี้”

ฉู่หลิวเยว่เหลือบมองหรงซิวอย่างหวดระแวง

เขารู้เรื่องนี้ด้วยหรือ

วันนี้หมิ่นกงกงได้ป่าวประกาศตรงหน้าประตูตระกูลฉู่ คนที่อยากรู้แค่สืบถามก็รู้แล้ว

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นถึงองค์ชาย ทุกเรื่องในวังเขาจึงรู้ดีที่สุด

หลีอ๋องพระองค์นี้ไม่ได้ดูอ่อนโยนและไร้พิษสงอย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ภายนอก

“เมื่อเสร็จธุระ ท่านพ่อข้าก็จะกลับมาเอง ข้าเป็นลูกสาว แม้กระทั่งที่ของพ่อข้าก็คงไม่เก็บไว้ให้หรอกกระมัง”

หรงซิวพยักหน้าเห็นด้วย

“ถูกต้อง ในฐานะที่เป็นเด็กก็ไม่ควรรบกวนผู้อาวุโสจริงๆ”

ยังไม่ทันที่ฉู่หลิวเยว่จะได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาก็พูดต่ออีกว่า

“ถ้าอย่างนั้น ข้า…ก็ต้องขอรบกวนเยว่เอ๋อร์แล้วล่ะ”

ในขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังจะตบโต๊ะแล้วลุกขึ้น ก็เห็นหรงซิวกำหมัดป้องปากแล้วไอโขลกๆ ราวกับว่าหากได้รับลมแรงกว่านี้คงเป็นลมหมดสติไปเป็นแน่

ผู้ชายคนนี้ยืนกรานที่จะอยู่ที่นี่ให้ได้จริงๆ

ฉู่หลิวเยว่กำหมัดแน่นแล้วคลายออก กำแน่นแล้วคลายออก จนในที่สุดนางก็ลุกพรวดพราด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์