ฉู่หลิวจ้องไปที่ประตูที่พังแล้วด้วยสายตาเหม่อลอย สักพักนางก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา
เมื่อครู่นี้… นางแค่สร้างคลื่นในทะเลสาบเองมิใช่หรือ
ทำไมถึงได้มีพลังระเบิดออกมาอย่างน่ากลัวขนาดนี้
ในขณะนั้นเอง ก็มีร่างหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาจากด้านนอกประตู
“เยว่เอ๋อร์!”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ฉู่หลิวเยว่ก็ลืมตาขึ้นโดยไม่รู้ตัว แล้วเห็นว่าคนที่เข้ามาคือหรงซิวนั่นเอง
เห็นได้ชัดว่าเขามาหลังจากได้ยินเสียงแตกของประตู
จู่ๆ ก็มีความคิดแวบเข้ามาในหัวของฉู่หลิวเยว่ สถานที่ที่เขาพักอยู่ไกลจากที่นี่ แล้วทำไมเขาถึงมาเร็วขนาดนี้
สายตาของหรงซิวกวาดไปที่แผงประตูอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงก้าวจ้ำอ้าวเข้ามาข้างในทันที
“เป็นอย่างไรบ้าง เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น”
อันที่จริงตอนแรกที่เขาเข้ามา เขาก็สังเกตเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ได้เป็นอะไรมาก เขาจึงผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ถึงกระนั้นเขาก็ยังเป็นห่วงนางอยู่ดี
ฉู่หลิวเยว่เกิดความรู้สึกหวั่นไหว นางชินกับน้ำเสียงที่ฟังดูอ้อยอิ่งของเขา แต่คราวนี้เมื่อได้ยินนางกลับรู้สึกประหม่าขึ้นมา
เมื่อมองเข้าไปใกล้ ๆ ระหว่างคิ้วทั้งสองข้างเผยให้เห็นถึงความกังวลที่ไม่สามารถสังเกตได้โดยง่าย
นี่เป็นสิ่งที่หายากมากสำหรับหรงซิว เพราะเขาไม่ค่อยแสดงอารมณ์หรือสีหน้าเท่าใดนัก
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า
“ข้าไม่เป็นไร ข้าแค่พยายามควบแน่นหยวนตัน ทว่ามีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และก็ไม่สามารถควบคุมพลังให้ดี”
“จริงหรือ”
หรงซิวมองนางด้วยความสงสัย
แค่หลอมรวมหยวนตันทำไมจึงก่อให้เกิดความรุนแรงถึงเพียงนี้ได้
ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าคำพูดนี้ดูไม่สมเหตุสมผลนัก เมื่อครู่นี้ ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สามก็ไม่มีทางปล่อยพลังขนาดนั้นออกมาได้!
แต่ความจริงมันก็เป็นเช่นนี้…
นางขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
“ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ องค์ชายไม่ต้องเป็นห่วง”
ขณะนั้นเองเสวียเสวี่ยก็รีบกระโดดเข้ามาจากด้านนอกและเดินมาใกล้ๆ เพื่อสูดดมกลิ่น เพราะมันกลัวว่าจะมีอะไรผิดปกติกับร่างกายฉู่หลิวเยว่อะไรหรือไม่
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกจั๊กจี้ที่คางเพราะสัมผัสโดนขนหัวของมัน นางจึงอดหัวเราะไม่ได้
“พอแล้วๆ! เสวียเสวี่ย ข้าไม่เป็นอะไร ไม่ได้รับบาดเจ็บสักหน่อย!”
เสวียเสวี่ยกะพริบตาและเห็นว่านางไม่เป็นไรจริงๆ แล้วจึงถูขอนางเป็นการออดอ้อน
หรงซิวเหลือบมองไปที่เสวียเสวี่ย
“ถ้าข้าไป เจ้าแน่ใจนะว่าจะพังข้าวของที่นี่อีก”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เรื่องนี้อธิบายไม่ได้จริงๆ…
“หากเจ้ายังอยากหลอมรวมหยวนตันต่อ ข้าก็จะอยู่ที่นี่และจะไม่รบกวนเจ้า”
เมื่อพูดจบ หรงซิวก็นั่งลงบนเก้าอี้ตรงมุมห้อง จากนั้นก็หยิบหนังสือขึ้นมาเปิดดู ราวกับว่าเขาไม่ได้คิดจะจากไปไหน
ฉู่หลิวเยว่พูดไม่ออกชั่วขณะ
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครหน้าหนาไปกว่าคนผู้นี้อีกแล้ว
จะมองก็มองไปสิ
ทะเลสาบอยู่ภายในจุดตันเถียนของนาง คนนอกไม่สามารถสังเกตได้ ส่วนใหญ่พวกเขาสัมผัสได้เพียงพลังที่ระเบิดออกมาจากมันเท่านั้น
แล้วสิ่งนั้นก็สามารถใช้หยวนตันอธิบายได้
เดี๋ยวนะ!
ฉู่หลิวเยว่เกิดประกายแสงในใจ และในที่สุดก็เข้าใจความหมายของประโยคนั้น
มันหมายถึง…ใช้มันเป็นหยวนตัน!?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...